วารสารวิจัยเพื่อการส่งเสริมสุขภาพและคุณภาพชีวิต https://he02.tci-thaijo.org/index.php/RHQJ <p>วารสารวิจัยเพื่อการส่งเสริมสุขภาพและคุณภาพชีวิต รับตีพิมพ์บทความคุณภาพสูงในด้านการพยาบาล วิทยาศาสตร์สุขภาพ และสาขาอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยมีกลุ่มเป้าหมาย คือ คณาจารย์ นักศึกษา และนักวิจัยทั้งในและนอกสถาบัน ทำขึ้นเพื่อเผยแพร่ผลการศึกษาค้นคว้าทางวิชาการ ผลงานวิจัยบทความทุกเรื่องจากได้รับการพิจารณาจากผู้ทรงคุณวุฒิอย่างน้อย 2 คน โดยใช้ผู้ทรงคุณวุฒิที่เชี่ยวชาญในสาขาที่เกี่ยวข้อง ด้วยกระบวนการ Double-blind และผู้ทรงคุณวุฒิจากสถาบันที่หลากหลายไม่อยู่ในสังกัดเดียวกันกับผู้แต่ง กำหนดการตีพิมพ์ 3 ฉบับต่อปี ฉบับที่ 1 มกราคม - เมษายน ฉบับที่ 2 พฤษภาคม – สิงหาคม และ ฉบับที่ 3 กันยายน - ธันวาคม</p> วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี ราชบุรี th-TH วารสารวิจัยเพื่อการส่งเสริมสุขภาพและคุณภาพชีวิต 2985-2331 <p>บทความทีตีพิมพ์ในวารสารนี้ถือว่าเป็นลิขสิทธิ์ของวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี ราชบุรี และผลงานวิชาการหรือวิจัยของคณะผู้เขียน ไม่ใช่ความคิดเห็นของบรรณาธิการหรือผู้จัดทํา</p> การพัฒนารูปแบบการส่งเสริมการเลิกบุหรี่ของผู้ป่วยโดยการมีส่วนร่วมของสหวิชาชีพ โรงพยาบาลบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา https://he02.tci-thaijo.org/index.php/RHQJ/article/view/275654 <p>การวิจัยและพัฒนาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสถานการณ์สูบบุหรี่ของผู้ป่วยและการมีส่วนร่วมในการส่งเสริมการเลิกบุหรี่ของผู้ป่วยโดยการมีส่วนร่วมของสหวิชาชีพ พัฒนาและศึกษาประสิทธิผลของรูปแบบการส่งเสริมการเลิกบุหรี่ของผู้ป่วยโดยการมีส่วนร่วมของสหวิชาชีพโรงพยาบาลบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา กลุ่มตัวอย่าง คือ 1) สหวิชาชีพ ได้แก่ แพทย์ พยาบาลวิชาชีพ นักจิตวิทยา 2) ผู้ป่วยที่มีพฤติกรรมสูบบุหรี่ 27 คน เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง สนทนากลุ่ม แบบสอบถาม และแบบประเมินความพึงพอใจ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนาและทดสอบค่าที ผลการวิจัย พบว่า</p> <p>รูปแบบการส่งเสริมการเลิกบุหรี่ของผู้ป่วยโดยการมีส่วนร่วมของสหวิชาชีพ ประกอบด้วย <br />ประเมินพฤติกรรมการสูบบุหรี่ การส่งต่อผู้ป่วย ประเมินความพร้อมในการเลิกสูบบุหรี่ ระดับการเสพติดนิโคติน การให้คำแนะนำแบบกระชับโดยสหวิชาชีพ การบันทึกข้อมูล และการติดตามผล</p> <p>หลังการใช้รูปแบบ พบว่า สามารถเลิกสูบบุหรี่ได้ 5 คน ลดจำนวนมวนบุหรี่ที่สูบต่อวัน 22 คน และระดับการเสพติดนิโคตินลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p &lt;.05) ระดับความพร้อมอยู่ในระยะเตรียมพร้อมในการเลิกสูบบุหรี่เพิ่มมากขึ้น และระดับความพึงพอใจต่อการใช้รูปแบบอยู่ระดับมากที่สุด (4.26 ± 0.60 คะแนน)</p> <p>ดังนั้นหน่วยบริการด้านสุขภาพควรดำเนินการช่วยเลิกสูบบุหรี่โดยการมีส่วนร่วมของสหวิชาชีพ เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถลด ละ เลิกการสูบบุหรี่ได้อย่างสำเร็จ</p> พัฒนี ศีตะจิตต์ อาภรณ์ ยิ้มเนียม ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี ราชบุรี https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2025-11-28 2025-11-28 5 3 1 13 การพัฒนารูปแบบการเสริมสร้างศักยภาพผู้ดูแลผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงโดยการมีส่วนร่วม ของชุมชน ตำบลบางนกแขวก จังหวัดสมุทรสงคราม https://he02.tci-thaijo.org/index.php/RHQJ/article/view/274059 <p>การวิจัยเชิงปฏิบัติการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัญหาการดูแลผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงในชุมชน 2) พัฒนารูปแบบการเสริมสร้างศักยภาพผู้ดูแลผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน 3) ศึกษาผลของการใช้รูปแบบ กลุ่มตัวอย่างมี 3 กลุ่ม คือ 1) ผู้ร่วมพัฒนารูปแบบ จำนวน 14 คน 2) ผู้ดูแลผู้สูงอายุ จำนวน 6 คน และ 3) ผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงจำนวน 40 คน เครื่องมือเป็นแบบสัมภาษณ์กึ่งมีโครงสร้าง แบบสอบถามวัดการรับรู้ความสามารถของผู้ดูแลและแบบสอบถามวัดคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง วิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยการวิเคราะห์เนื้อหา วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณด้วยสถิติเชิงพรรณนา และการทดสอบค่าที</p> <p>ผลการวิจัยพบว่า 1) ปัญหาการดูแลผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง คือผู้ดูแลไม่เพียงพอ ไม่มีประสิทธิภาพและขาดระบบการจัดการอย่างมีส่วนร่วมในชุมชน 2) รูปแบบการเสริมสร้างศักยภาพผู้ดูแลผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน คือ ACCELA model ประกอบด้วย Attitude: การสร้างทัศนคติเชิงบวก Collaboration: การร่วมมือของเครือข่ายชุมชน Communication: การสื่อสารที่ดี Empower: การสร้างพลังอำนาจในตน Literacy: การเสริมสร้างความรอบรู้ด้วยการเรียนรู้จากประสบการณ์ตรง และ Achievement: การบรรลุความสำเร็จตามเป้าหมาย 3) ผลการใช้รูปแบบ พบว่า ผู้ดูแลมีการรับรู้ความสามารถเพิ่มขึ้นในการดูแลผู้สูงอายุ ส่งผลให้ผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงมีคุณภาพชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05</p> <p>ผลการวิจัยแสดงว่า รูปแบบการเสริมสร้างศักยภาพผู้ดูแลโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน สามารถพัฒนาศักยภาพผู้ดูแลและเพิ่มคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง</p> สุดประนอม สมันตเวคิน หนึ่งฤทัย โพธิ์ศรี อรนุช เชาว์ปรีชา ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี ราชบุรี https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2025-12-02 2025-12-02 5 3 14 29 การพัฒนาระบบการจำแนกประเภทผู้ป่วยในโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ https://he02.tci-thaijo.org/index.php/RHQJ/article/view/276873 <p>การวิจัยและพัฒนานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพปัญหา พัฒนาระบบ และประเมินผลการใช้ระบบการจำแนกประเภทผู้ป่วยใน โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ ดำเนินการ 4 ระยะ ได้แก่ 1) การศึกษาวิเคราะห์สถานการณ์การจำแนกประเภทผู้ป่วยใน 2) การพัฒนาระบบการจำแนกประเภทผู้ป่วยใน 3)การนำระบบการจำแนกผู้ป่วยในไปใช้จริงในหอผู้ป่วย และ 4) การประเมินผลลัพธ์ของการพัฒนาระบบการจำแนกประเภทผู้ป่วยในที่พัฒนาขึ้น กลุ่มตัวอย่าง เป็นหัวหน้าหอผู้ป่วยใน 11 คน พยาบาลวิชาชีพที่ปฏิบัติงานในหอผู้ป่วยใน 72 คน และเวชระเบียนผู้ป่วยใน 865 แฟ้ม เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้ แบบสำรวจความคิดเห็น แบบสัมภาษณ์ แบบบันทึกการตรวจเวชระเบียนการจำแนกประเภทผู้ป่วยในและแบบบันทึกการตรวจการแยกประเภทผู้ป่วยใน วิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพโดยการจัดกลุ่มเนื้อหา เปรียบเทียบผลลัพธ์ก่อนและหลังการพัฒนาใช้สถิติ Chi - Square Test ผลการวิจัย พบว่า</p> <p>ระบบการจำแนกประเภทผู้ป่วยในด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ (HOSxP) หลังการใช้ระบบจำแนกประเภทผู้ป่วยในที่พัฒนาขึ้น พยาบาลวิชาชีพจำแนกประเภทผู้ป่วยในได้ถูกต้องเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (<em>p</em>&lt; 0.001) บันทึกการพยาบาลและบริหารเตียงได้สอดคล้องกับประเภทผู้ป่วย จัดอัตรากำลังแต่ละเวรได้เหมาะสม</p> <p>ดังนั้นจึงควรนำระบบการจำแนกประเภทผู้ป่วยในด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ (HOSxP) ที่พัฒนาขึ้นมาใช้เพื่อเพิ่มคุณภาพการจำแนกประเภทผู้ป่วยในต่อไป</p> นันทพร พลีบัตร จิรภา องอาจ จันทร์ฉาย ทองโปร่ง สาวิตรี ยอมิน ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี ราชบุรี https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2025-12-17 2025-12-17 5 3 30 43 ปัญหาและความต้องการความรู้การปฐมพยาบาลผู้สูงอายุในผู้ดูแลผู้สูงอายุ https://he02.tci-thaijo.org/index.php/RHQJ/article/view/276864 <p>การวิจัยเชิงคุณภาพแบบปรากฏการณ์วิทยาเชิงพรรณนาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์วิจัยเพื่อศึกษาปัญหาและความต้องการความรู้การปฐมพยาบาลผู้สูงอายุในผู้ดูแลผู้สูงอายุ ผู้ให้ข้อมูล คือ ผู้ดูแลผู้สูงอายุเขตเทศบาลบางแก้ว จังหวัดสมุทรปราการ จำนวน 5 คน เก็บข้อมูลโดยใช้แนวคำถามเชิงคุณภาพ สนทนากลุ่ม และสังเกตแบบไม่มีส่วนร่วม วิเคราะห์ข้อมูลด้วยวิธีวิเคราะห์แก่นสาระ ผลวิจัย พบว่า</p> <p>ปัญหาและความต้องการเกี่ยวกับความรู้ด้านการปฐมพยาบาลผู้สูงอายุในผู้ดูแลผู้สูงอายุ มี 4 ธีม ได้แก่ 1) ประสบการณ์ในการดูแลผู้สูงอายุที่มีปัญหาสุขภาพ เช่น เวียนศีรษะ บ้านหมุน หกล้ม และชัก เป็นต้น 2) ความรู้และทักษะปฐมพยาบาลที่มีอยู่ เช่น การทำแผลขนาดเล็ก วัดความดันโลหิต เจาะน้ำตาลปลายนิ้ว และการสังเกตอาการผิดปกติ 3) ความต้องการด้านความรู้ในการปฐมพยาบาลผู้สูงอายุ เช่น การปฐมพยาบาลในปัญหาที่พบจริงการอบรมที่เน้นการปฏิบัติจริง การจัดอบรมกลุ่มเล็ก หรืออบรมโดยผู้สอนที่คุ้นเคย เป็นต้น และ 4) ความคาดหวังในการพัฒนาความรู้: ผู้ดูแลผู้สูงอายุทุกคนควรได้รับโอกาสเข้าร่วมอบรมผู้ดูแล โดยเน้นรูปแบบแบบลงมือฝึกทักษะการปฐมพยาบาลด้วยตัวเองเพื่อให้ทำเป็น ก่อนที่จะส่งต่อไปยังโรงพยาบาล</p> <p>ดังนั้นข้อมูลจากการวิจัยครั้งนี้จะสามารถนำไปใช้ประกอบเป็นข้อมูลพื้นฐานในการออกแบบหลักสูตรอบรมการปฐมพยาบาลเบื้องต้นที่เหมาะสมกับสถานการณ์และความต้องการเฉพาะของผู้ดูแลผู้สูงอายุในจังหวัดสมุทรปราการ </p> <p><strong> </strong></p> <p><strong> </strong></p> แสงหล้า พลนอก ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี ราชบุรี https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2025-12-17 2025-12-17 5 3 44 57