วารสารวิจัยเพื่อการส่งเสริมสุขภาพและคุณภาพชีวิต https://he02.tci-thaijo.org/index.php/RHQJ <p>วารสารวิจัยเพื่อการส่งเสริมสุขภาพและคุณภาพชีวิต รับตีพิมพ์บทความคุณภาพสูงในด้านการพยาบาล วิทยาศาสตร์สุขภาพ และสาขาอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยมีกลุ่มเป้าหมาย คือ คณาจารย์ นักศึกษา และนักวิจัยทั้งในและนอกสถาบัน ทำขึ้นเพื่อเผยแพร่ผลการศึกษาค้นคว้าทางวิชาการ ผลงานวิจัยบทความทุกเรื่องจากได้รับการพิจารณาจากผู้ทรงคุณวุฒิอย่างน้อย 2 คน โดยใช้ผู้ทรงคุณวุฒิที่เชี่ยวชาญในสาขาที่เกี่ยวข้อง ด้วยกระบวนการ Double-blind และผู้ทรงคุณวุฒิจากสถาบันที่หลากหลายไม่อยู่ในสังกัดเดียวกันกับผู้แต่ง กำหนดการตีพิมพ์ 3 ฉบับต่อปี ฉบับที่ 1 มกราคม - เมษายน ฉบับที่ 2 พฤษภาคม – สิงหาคม และ ฉบับที่ 3 กันยายน - ธันวาคม</p> th-TH <p>บทความทีตีพิมพ์ในวารสารนี้ถือว่าเป็นลิขสิทธิ์ของวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี ราชบุรี และผลงานวิชาการหรือวิจัยของคณะผู้เขียน ไม่ใช่ความคิดเห็นของบรรณาธิการหรือผู้จัดทํา</p> parinyaporn.th@bcnr.ac.th (กองบรรณาธิการวารสาร) parinyaporn.th@bcnr.ac.th (กองบรรณาธิการวารสาร) Sun, 15 Dec 2024 14:26:52 +0700 OJS 3.3.0.8 http://blogs.law.harvard.edu/tech/rss 60 ผลของโปรแกรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพต่อความรู้เกี่ยวกับโรคเบาหวานและพฤติกรรมสุขภาพของประชาชนกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวาน https://he02.tci-thaijo.org/index.php/RHQJ/article/view/270569 <p>การวิจัยกึ่งทดลองครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบคะแนนเฉลี่ยความรู้เกี่ยวกับโรคเบาหวาน และพฤติกรรมสุขภาพของประชาชนกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวานที่ได้รับโปรแกรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพก่อนและหลังการทดลอง กลุ่มตัวอย่างเป็นประชาชนกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวาน ในอำเภอวัดสิงห์ จังหวัดชัยนาท คัดเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง จำนวน 46 คน แบ่งเป็นกลุ่มเปรียบเทียบและกลุ่มทดลองกลุ่มละ 23 คน กลุ่มเปรียบเทียบได้รับการดูแลตามปกติ ส่วนกลุ่มทดลองได้รับโปรแกรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ ระยะเวลา 12 สัปดาห์ เครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง ได้แก่ โปรแกรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบประเมินความรู้เกี่ยวกับโรคเบาหวาน และแบบสอบถามพฤติกรรมสุขภาพ วิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้สถิติเชิงพรรณนาและการทดสอบค่าที ผลการวิจัย พบว่า</p> <p><span style="font-size: 0.875rem;">1. </span><span style="font-size: 0.875rem;">กลุ่มทดลองมีคะแนนเฉลี่ยความรู้เกี่ยวกับโรคเบาหวานหลังได้รับโปรแกรมสูงกว่าก่อนได้รับ</span>โปรแกรมและสูงกว่ากลุ่มเปรียบเทียบอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.01</p> <p><span style="font-size: 0.875rem;">2. กลุ่มทดลองมีคะแนนเฉลี่ยพฤติกรรมสุขภาพหลังได้รับโปรแกรมสูงกว่าก่อนได้รับโปรแกรม</span>และสูงกว่ากลุ่มเปรียบเทียบอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.01</p> <p>ดังนั้นการส่งเสริมความรู้เกี่ยวกับโรคเบาหวานและพฤติกรรมสุขภาพของประชาชนกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวานควรเน้นให้มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพตามหลัก3อ.2ส. เพื่อลดโอกาสในการเกิดโรคเบาหวานและก่อให้เกิดพฤติกรรมสุขภาพที่ดี </p> เพ็ญศรี รอดพรม, นฤมล จันทร์สุข, เพ็ญนภา เมฆพัฒน์ Copyright (c) 2024 วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี ราชบุรี https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://he02.tci-thaijo.org/index.php/RHQJ/article/view/270569 Sun, 15 Dec 2024 00:00:00 +0700