Thai JPEN วารสารโภชนบำบัด https://he02.tci-thaijo.org/index.php/ThaiJPEN <p>วารสารโภชนบำบัดเป็นวารสารของสมาคมผู้ให้อาหารทางหลอดเลือดดำและทางเดินอาหารแห่งประเทศไทย ตีพิมพ์ปีละ 2 ฉบับ ฉบับที่ 1 มกราคม-มิถุนายน ฉบับที่ กรกฎาคม-ธันวาคม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ</p> <p>เผยแพร่ความรู้ด้านโภชนาการแก่บุคลากรทางสาธารณสุขที่มีความสนใจด้านโภชนาการ</p> <p>เผยแพร่ผลงานด้านวิชาการและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับความรู้ด้านโภชนาการ ของแพทย์ เภสัชกร พยาบาล นักกำหนดอาหารและนักโภชนาการ</p> <p>ส่งเสริมให้สมาชิกของสมาคมผู้ให้อาหารทางหลอดเลือดดำและทางเดินอาหารแห่งประเทศไทยมีการศึกษาต่อเนื่อง และพัฒนาองค์ความรู้ให้เป็นปัจจุบัน</p> <p> </p> <p>กระบวนการพิจารณาบทความ</p> <p>บทความทุกบทความจะต้องผ่านการพิจารณาโดยผู้ทรงคุณวุฒิผู้เชี่ยวชาญอย่างน้อย 2 ท่าน แบบผู้ทรงคุณวุฒิและผู้แต่งไม่ทราบชื่อซึ่งกันและกัน (double-blinded review)</p> สมาคมผู้ให้อาหารทางหลอดเลือดดำและทางเดินอาหารแห่งประเทศไทย th-TH Thai JPEN วารสารโภชนบำบัด 2697-4479 <p>เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ตีพิมพ์ลงใน <em>Thai JPEN วารสารโภชนบำบัด&nbsp;</em>ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรงซึ่งกองบรรณาธิการวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือร่วมรับผิดชอบใด ๆ&nbsp;</p> <p>บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ใน <em>Thai JPEN วารสารโภชนบำบัด&nbsp;</em>ถือเป็นลิขสิทธิ์ของ&nbsp;<em>Thai JPEN วารสารโภชนบำบัด</em> หากบุคคลหรืหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนใดส่วนหนึ่งไปเผยแพร่หรือเพื่อกระทำการใด จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก&nbsp;<em>Thai JPEN วารสารโภชนบำบัด&nbsp;</em>ก่อนเท่านั้น</p> การป้องกันแสงอาหารทางหลอดเลือดดำสำหรับทารกเกิดก่อนกำหนด https://he02.tci-thaijo.org/index.php/ThaiJPEN/article/view/259687 <p>อาหารทางหลอดเลือดดำเป็นแหล่งพลังงานและสารอาหารที่สำคัญต่อการดำรงชีวิตของทารกเกิดก่อนกำหนดที่เจ็บป่วยหรือมีข้อจำกัดในการได้รับอาหารทางปาก ทารกเกิดก่อนกำหนดจำเป็นต้องได้รับโภชนาการที่เหมาะสมในรูปสารอาหารทางหลอดเลือดดำเพื่อให้การเจริญเติบโตเป็นไปอย่างปกติในช่วงแรกของชีวิต อย่างไรก็ตามผลิตภัณฑ์อาหารทางหลอดเลือดดำชนิดต่าง ๆ อาจมีสารอนุมูลอิสระปนมาโดยไม่ตั้งใจ สารอนุมูลอิสระดังกล่าวเกิดจากสารบางชนิดในอาหารทางหลอดเลือดดำไวต่อปฏิกิริยาเมื่อโดนกระตุ้นด้วยแสง อย่างไรก็ตามความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระของทารกเกิดก่อนกำหนดมีน้อยเมื่อเทียบกับระดับของอนุมูลอิสระที่เกิดจากโรคและการรักษา หลักฐานทางวิชาการในปัจจุบันพบความสัมพันธ์ของอนุมูลอิสระที่เพิ่มขึ้นในอาหารทางหลอดเลือดดำที่ไม่ได้รับการป้องกันแสงกับภาวะเครียดออกซิเดชันส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนในทารกเกิดก่อนกำหนด เช่น โรคปอดเรื้อรัง ภาวะลำไส้อักเสบเน่าตาย และโรคจอประสาทตาผิดปกติในทารกเกิดก่อนกำหนด การป้องกันอาหารทางหลอดเลือดดำจากแสงสามารถลดอุบัติการณ์ของภาวะแทรกซ้อนและอัตราเสียชีวิตในทารกเกิดก่อนกำหนด ดังนั้น สมาคมโภชนาการต่าง ๆ ประกอบด้วย American Society for Parenteral and Enteral Nutrition (ASPEN), European Society of Paediatric Gastroenterology, Hepatology and Nutrition (ESPGHAN), และ European Society for Clinical Nutrition and Metabolism (ESPEN) รวมถึงแนวเวชปฏิบัติการให้อาหารทางหลอดเลือดดำในทารกและเด็กจากสมาคมโภชนาการเด็กแห่งประเทศไทยและราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย พ.ศ. 2564 แนะนำการป้องกันอาหารทางหลอดเลือดดำไม่ให้โดนแสงเพื่อลดการเกิดอนุมูลอิสระและการสลายของวิตามิน การป้องกันแสงควรทำในทุกกระบวนการตั้งแต่การผลิต การขนส่ง และการบริหารอาหารทางหลอดเลือดดำให้แก่ผู้ป่วย การปฏิบัติตามคำแนะนำนับเป็นความท้าทายภายใต้ข้อจำกัดของทรัพยากร</p> นีรชา พลอินทร์ ฐิติมา ด้วงเงิน Copyright (c) 2023 Thai JPEN วารสารโภชนบำบัด https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2023-12-25 2023-12-25 31 2 38 53 การให้โภชนบำบัดเพื่อส่งเสริมการหายของแผล https://he02.tci-thaijo.org/index.php/ThaiJPEN/article/view/255962 <p>ผิวหนังและเนื้อเยื่อ เป็นเกราะป้องกันเชื้อจุลชีพก่อโรคและสิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ ไม่ให้เข้าสู่ร่างกาย การเกิดบาดแผลเป็นการทำลายเกราะป้องกันดังกล่าว ซึ่งการหายของแผลเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนจำเป็นต้องได้รับพลังงาน โปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุอย่างเพียงพอ เพื่อให้เซลล์ต่าง ๆ ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพเพื่อซ่อมแซมบาดแผล ดังนั้นการให้โภชนบำบัดที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญในส่งเสริมการหายของบาดแผล หากผู้ป่วยมีภาวะขาดสารอาหารอาจส่งผลให้แผลหายช้าหรือไม่หายจนกลายเป็นแผลเรื้อรัง นำไปสู่การติดเชื้อและเพิ่มอัตราการเสียชีวิต</p> ปิยนุช ชาติละออง Copyright (c) 2023 Thai JPEN วารสารโภชนบำบัด https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2023-12-25 2023-12-25 31 2 54 64 ประสิทธิภาพของการใช้แบบประเมิน Nutrition Alert Form เทียบกับแบบประเมิน Malnutrition-Inflammation Score เพื่อประเมินภาวะทุพโภชนาการ ในผู้ป่วยไตวายเรื้อรังที่ได้รับการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม https://he02.tci-thaijo.org/index.php/ThaiJPEN/article/view/261027 <p><strong>บทนำ:</strong> สมาคมผู้ให้อาหารทางหลอดเลือดดำและทางเดินอาหารแห่งประเทศไทย ได้แนะนำให้ใช้ Nutrition Alert Form (NAF) เพื่อประเมินภาวะทุพโภชนาการในผู้ป่วยไตเรื้อรังระยะสุดท้าย โดย NAF ถูกคิดค้นมาเพื่อใช้ใน<br />ผู้ป่วยที่รักษาตัวในโรงพยาบาล ซึ่งยังไม่ได้มีการนำมาทดสอบจำเพาะในกลุ่มผู้ป่วยไตเรื้อรังที่ได้รับการบำบัดทดแทนไตด้วยเครื่องฟอกไตเทียม<br /><strong>วิธีการ:</strong> การศึกษาเป็นแบบการศึกษาตัดขวาง ในผู้ป่วย 131 คน ณ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ ช่วงเดือนมกราคม 2564 ถึง เดือนมีนาคม 2564 วัตถุประสงค์หลักของการศึกษา คือ ประสิทธิภาพของ NAF ในการวินิจฉัย<br />ภาวะทุพโภชนาการเมื่อใช้ Malnutrition Inflammatory Score (MIS) เป็นค่าอ้างอิง วัตถุประสงค์รองของการศึกษา คือ คะแนนจุดตัดที่เหมาะสมของ NAF เพื่อวินิจฉัยภาวะทุพโภชนาการในผู้ป่วยไตเรื้อรังระยะสุดท้าย ที่ได้รับการบำบัดทดแทนไตด้วยเครื่องฟอกไตเทียม<br /><strong>ผลการวิจัย:</strong> เมื่อใช้ MIS เป็นค่าอ้างอิงของ NAF ในการวินิจฉัยภาวะทุพโภชนาการ เมื่อ NAF B (≥ 6) และ MIS C (≥ 6) พบว่า NAF มีความไวร้อยละ 87.32 ความจำเพาะร้อยละ 28.33 โดย NAF มีความสัมพันธ์กับ MIS โดยมีค่าสัมประสิทธิ์การกำหนด ร้อยละ 36.13 (p &lt; 0.001, 95%CI 0.47 – 0.76) และจุดตัดคะแนน NAF ที่เหมาะสมเพื่อวินิจฉัยภาวะทุพโภชนาการคือ 8 คะแนน (ค่าความไวร้อยละ 69.01 ค่าความจำเพาะร้อยละ 73.33)<br /><strong>บทสรุป:</strong> ในผู้ป่วยไตเรื้อรังระยะสุดท้ายที่ได้รับการบำบัดทดแทนไตด้วยเครื่องฟอกไตเทียม NAF มีความสัมพันธ์กับ MIS อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ค่าตัดคะแนนที่เหมาะสมของ NAF เพื่อวินิจฉัยภาวะทุพโภชนาการคือ 8</p> อภิชาติ ฉัตรไกรเลิศ สุทธิยา อนุมาศ เอกพงศ์ สุรินทร์รัฐ มณฑิรา เขียนลิขิต ภาวินี สุริยะ นัทยา สีทาดี Copyright (c) 2023 Thai JPEN วารสารโภชนบำบัด https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2023-12-25 2023-12-25 31 2 1 12 ผลของการรับประทานอาหารว่างจากปลาทูน่าโปรตีนสูงต่อภาวะโภชนาการและความเหมาะสมในผู้ป่วยที่ได้รับการบําบัดทดแทนไต https://he02.tci-thaijo.org/index.php/ThaiJPEN/article/view/258320 <p>งานวิจัยนี้เป็นการศึกษาผลของการรับประทานอาหารว่างจากปลาทูน่าโปรตีนสูงในผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังที่ต้องบำบัดทดแทนไต โดยเปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลงของภาวะโภชนาการก่อนและหลังการรับประทานอาหารว่างจากปลาทูน่าซึ่งมีโปรตีน 10 กรัมและมีการควบคุมปริมาณโซเดียม โพแทสเซียมและฟอสฟอรัส โดยให้รับประทานวันละหนึ่งครั้งทุกวันเป็นเวลา 4 สัปดาห์ ในอาสาสมัคร 170 คน แบ่งเป็นกลุ่มได้รับการบำบัดทดแทนไตด้วยเครื่องไตเทียม (hemodialysis, HD) 90 คน และกลุ่มล้างไตทางช่องท้อง (peritoneal dialysis, PD) 80 คน พบว่าอาหารว่างจากปลาทูน่าสามารถเพิ่มระดับพรีอัลบูมินในเลือดของทั้งสองกลุ่ม (HD 33.20 ± 8.24 เป็น 35.09 ± 8.13 มก./ดล., <em>P</em> = 0.027; PD 36.76 ± 9.17 เป็น 39.00±9.84 มก./ดล., <em>P</em> = 0.002) และมีค่าทีไอบีซี (total iron binding capacity, TIBC) เพิ่มขึ้น อย่างมีนัยสำคัญในกลุ่ม PD (222.82 ± 42.43 เป็น 232.66 ± 48.66 มคก./ดล., <em>P</em> = 0.001) รวมทั้งพลังงานและโปรตีนที่ได้รับต่อวันของอาสาสมัครทั้งหมดเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ (1143.75 ± 330.67 เป็น 1264.72 ± 354.18 กิโลเเคลอรี/วัน, <em>P</em> &lt; 0.001 และ 49.33 ± 15.65 เป็น 58.93 ± 17.43 ก./วัน, <em>P</em> &lt; 0.001 ตามลำดับ) แต่ไม่พบความแตกต่างทางสถิติในส่วนของระดับอัลบูมินในเลือด น้ำหนักตัวและคะแนน Malnutrition-Inflammation Score (MIS) ตลอดจนไม่พบการเปลี่ยนแปลงของระดับโซเดียม โพแทสเซียมและฟอสฟอรัสในเลือดที่ผิดปกติ โดยสรุปอาหารว่างจากปลาทูน่าโปรตีนสูงจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังที่ต้องบำบัดทดแทนไต ที่อาจเพิ่มระดับพรีอัลบูมินในเลือดและไม่ก่อให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์</p> ปรมัตถ์ ธิมาไชย อุปถัมภ์ ศุภสินธุ์ นัทธี เสนาะดนตรี อมล สิงห์สกุล บัญชา สถิระพจน์ Copyright (c) 2023 Thai JPEN วารสารโภชนบำบัด https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2023-12-25 2023-12-25 31 2 13 26 ภาวะโภชนาการ การได้รับพลังงานและโปรตีนในผู้ป่วยมะเร็งปอดชนิดเซลล์ที่ขนาดไม่เล็กที่ได้รับยาเคมีบำบัด https://he02.tci-thaijo.org/index.php/ThaiJPEN/article/view/258767 <p>พยาธิสภาพของโรคมะเร็งปอดชนิดเซลล์ที่ขนาดไม่เล็กและอาการไม่พึงประสงค์จากการได้รับยาเคมีบำบัด อาจทำให้เกิดภาวะทุพโภชนาการและอาการแทรกซ้อนขึ้น งานวิจัยเชิงพรรณนาแบบภาคตัดขวางนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินภาวะโภชนาการ โดยรวบรวมข้อมูลการบริโภคอาหารและการใช้อาหารทางการแพทย์ รวมถึงอาการไม่พึงประสงค์จากการได้รับเคมีบำบัด โดยเก็บข้อมูล ณ อาคารว่องวานิช โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ระหว่างเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2564 ถึงมีนาคม พ.ศ. 2565</p> <p>จากการศึกษามีผู้เข้าร่วมงานวิจัยทั้งหมด 30 ราย อายุเฉลี่ย 62.5 ± 1.1 ปี พบผู้ป่วยที่มีทุพโภชนาการร้อยละ 86.7 และมีผู้ป่วยร้อยละ 40 ที่บริโภคโปรตีนต่อวันไม่เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย ร้อยละ 70 ของผู้ป่วยใช้อาหารทางการแพทย์อยู่ โดยผู้ป่วยร้อยละ 42.9 นั้นได้รับคำแนะนำมาจากบุคลากรทางการแพทย์ พบอาการไม่พึงประสงค์จากเคมีบำบัดร้อยละ 86.7 โดยอาการที่พบมากที่สุดคือภาวะโลหิตจาง อาการชาปลายมือปลายเท้า และผมร่วงโดยคิดเป็นร้อยละ 46.7, 36.7 และ 33.3 ตามลำดับ</p> <p>ผู้ป่วยโรคมะเร็งปอดชนิดเซลล์ที่ขนาดไม่เล็กที่ได้รับเคมีบำบัดมีโอกาสเกิดทุพโภชนาการได้มาก รวมถึงพบอาการไม่พึงประสงค์ในระหว่างการรักษา ผู้ป่วยกลุ่มนี้จึงควรได้รับการประเมินภาวะโภชนาการอย่างต่อเนื่อง และติดตามอาการไม่พึงประสงค์จากการได้รับยาเคมีบำบัดอย่างใกล้ชิด</p> พิมพ์วิภา พลสวัสดิ์ กนกพร เกษสถล เพ็ญรัตน์ ศรีรัตนะ บุษบา ตระการสง่า ณัฎฐดา อารีเปี่ยม ชิดชนก รุ่งเรือง ทิพวรรณ ศิริเฑียรทอง Copyright (c) 2023 Thai JPEN วารสารโภชนบำบัด https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 2023-12-25 2023-12-25 31 2 27 37