FACTORS RELATED TO THE FALL PREVENTION BEHAVIOR AMONG ELDERLY PEOPLE IN MUEANG DISTRICT NAKHON - RACHASIMA PROVINCE

Main Article Content

Muthita Musikarayakul
Suchitra Sukonthasab

Abstract

Purpose: To study factors related to fall prevention behavior among elderly people in Mueang District in Nakhon Ratchasima Province


Methods: This study uses a descriptive research design. A total of 448 individuals participated as sample groups, both male and female aged between 60–80 years who visit primary care centers in Muang District, Nakhon Ratchasima. The researcher collected the data via a questionnaire in 5 parts, namely, general information, predisposing factors, enabling factors, reinforcing factors and fall prevention behaviors. The Item Objective Congruence (IOC) Index is 0.95. The collected data is analyzed using mean, deviation and correlation of variables of Pearson’s correlation coefficient.


Results: The findings reveal that the fall prevention behavior among elderly people is substantial (mean=3.21, SD=0.80). On the other hand, the enabling factors which correlate with fall prevention behavior is rather low (r=0.163) while reinforcing factors related to the falls are moderate (r=0.477), which is statistically significant as it is below 0.05.


Conclusion: The elderly in Mueang District of Nakhon-Ratchasima have a high level of fall prevention behaviors and factors related to fall prevention behaviors, including enabling factors and reinforcing factors. Therefore, health-related agencies dealing with health promotion among the elderly should focus on providing good facilities in the house, clean and tidy home environment with safe floor texture, as well as encouragement and prompting from family members, neighbors and health workers.

Article Details

How to Cite
Musikarayakul , M. ., & Sukonthasab, S. . (2023). FACTORS RELATED TO THE FALL PREVENTION BEHAVIOR AMONG ELDERLY PEOPLE IN MUEANG DISTRICT NAKHON - RACHASIMA PROVINCE. Journal of Sports Science and Health, 23(2), 143–157. Retrieved from https://he02.tci-thaijo.org/index.php/spsc_journal/article/view/261952
Section
บทความวิจัย (Original Article)

References

กัลยา วานิชย์ปัญชา. (2560). การใช้ SPSS for Windows ในการวิเคราะห์ข้อมูล. พิมพ์ครั้งที่2. กรุงเทพมหานครฯ: สามลดา.

กรมกิจการผู้สูงอายุ. (2563). สถิติผู้สูงอายุของประเทศไทย 77 จังหวัด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562.

กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์. [ออนไลน์] แหล่งที่มา:https://www.dop.go.th/th/know/side/1/1/335.

กนกวรรณ เมืองศิริ, นิภา มหารัชพงศ์ และยุวดี รอดจากภัย .(2560). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อพฤติกรรมการป้องกันการหกล้มของผู้สูงอายุ จังหวัดชลบุรี. Naresuan University Journal: Science and Technology 2017; (25) 4.

คณะกรรมการและอนุกรรมการจังหวัดนครราชสีมา. (2559). แผนพัฒนาจังหวัดนครราชสีมา ระยะ 4 ปี (พ.ศ. 2561 – 2564). คณะกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ. [ออนไลน์] แหล่งที่มา: http://www.nakhonratchasima.go.th/strategy/strg_plan61_64_section1_3.pdf.

ณัฐกฤตา ศิริโสภณ. (2561). ประสิทธิผลของนวัตกรรมที่ส่งเสริมพฤติกรรมการป้องกันการหกล้มในผู้สูงอายุ (The Effectiveness of Innovation that Promoted Fall Prevention Behavior among Elderly). Journal of The Royal Thai Army Nurses: 19 (supplement); 495-504, [ออนไลน์]. แหล่งที่มา: https://he01.tci-thaijo.org/index.php/JRTAN/article/view/134807.

ณัฐกานต์ ธิยะ. (2551). พฤติกรรมการป้องกันการหกล้มของผู้ป่วยสูงอายุที่เข้ารับการรักษาในหอผู้ป่วยอุบัติเหตุหญิง โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า. วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาสุขศึกษา ภาควิชาพลศึกษา บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.

ปริศนา รถสีดา. (2561). การป้องกันการหกล้มของผู้สูงอายุในชุมชน: บทบาทพยาบาลกับการดูแลสุขภาพที่บ้าน Fall Prevention among the Elderly Living in a Community: The Nursing Role in Home Health Care. Thai Red Cross Nursing Journal: 11(2); 16-25.

พรทิพย์ จุลบุตร. (2553). ผลของใช้โปรแกรมการจัดการการเรียนรู้ที่เน้นกระบวนการสร้างนิสัยต่อพฤติกรรมการป้องกันการหกล้มของผู้สูงอายุ. วิทยานิพนธ์พยาบาลศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาการพยาบาลเวชปฏิบัติชุมชน มหาวิทยาลัยนเรศวร.

ไพลวรรณ สัทธานนท์, ธันยาภรณ์ อรัญวาลัย, กฤษณา ครุฑนาค. (2558). การล้มในผู้สูงอายุไทยในเขตเมืองและชานเมือง : อุบัติการณ์ ปัจจัยเสี่ยง การจัดการและการป้องกัน. สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข, [ออนไลน์]. แหล่งที่มา: https://www.hsri.or.th/researcher/research/new-release/detail/6364.

มานิตา รักศรี นารีรัตน์ จิตรมนตรี เสาวลักษณ์ จิรธรรมคุณ. (2562). ผลของโปรแกรมการปรับความเชื่อด้านสุขภาพต่อพฤติกรรมป้องกันการหกล้มของผู้ป่วยสูงอายุในโรงพยาบาล. วารสารพยาบาลสภากาชาดไทย, 12 (2).

ละออม สร้อยแสง, จริยาวัตร คมพยัคฆ์และกนกพร นทีธนสมบัติ. (2557). การศึกษาแนวทางการป้องกันการหกล้มในผู้สูงอายุชุมชนมิตรภาพพัฒนา. วารสารพยาบาลทหารบก, 15 (1),122-129.

ลัดดา เถียมวงศ์, สุทธิชัย จิตะพันธ์กุล, จิตติมา ทมาภิรัต, และวันทนา มณีศรีวงศ์กูล. (2551). Thai Falls Risk Assessment Test (Thai-FRAT) Developed for Community-Dwelling Thai Elderly. Journal of Medical Association of Thailand, 91(12), 1823-1832.

เสาวลักษณ์ อุ่นละม้าย. (2553). การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคล การรับรู้ประโยชน์ การรับรู้อุปสรรค และการรับรู้ความสามารถของตนเองในการป้องกันการหกล้มกับพฤติกรรมการป้องกันการหกล้มของผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ในชุมชน. วิทยานิพนธ์พยาบาลศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาการพยาบาลชุมชน บัณฑิตวิทยาลัยมหาวิทยาลัยขอนแก่น.

สำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. (2559). รายงานการพยากรณ์การพลัดตกหกล้ม ของผู้สูงอายุ (อายุ 60 ปีขึ้นไป) ในประเทศไทย ปี พ.ศ. 2560 – 2564. [ออนไลน์]. แหล่งที่มา:http://www.thaincd.com/2016/mission/documents-detail.php?id=12095&tid=&gid=1-027.

อัจฉรา สาระพันธ์, ณัฐกฤตา ศิริโสภณ, ประเสริฐศักดิ์ กายนาคา, สมบัติ อ่อนศิริ, บุญเลิศ อุทยานิก, สุพัฒน์ ธีรเวชเจริญชัย และณัฐพงศ์ สุโกมล. (2560). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อพฤติกรรมการป้องกันการหกล้มของผู้สูงอายุ. Journal of The Royal Thai Army Nurses. Volume 18 Supplement January-April 2017.

Green L and Kreuter M. (2005). Health program planning: An educational and ecological approach. Ed. New York, NY: McGraw-Hill.

Yamane Taro. (1967). Statistics, An Introductory Analysis. 2nd Ed. New York: Harper and Row.

Yuwadee Phiboonleetrakul, Suparb Aree-Ue, Kamonrat Kittipimpanon. (2563). Relationships between Osteoporosis Knowledge, Risk of Falls and Fall Prevention Behavior in Older Thai Females at Risk of Osteoporosis. Thai Journal of Public Health: Vol.50 No.3.