ผลของการฝึกเชิงซ้อนแบบเอกเซนตริกที่มีต่อสมรรถภาพของกล้ามเนื้อขาในนักกีฬาฟุตบอล

บทคัดย่อ

วัตถุประสงค์ : เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบผลของการฝึกเชิงซ้อนแบบเอกเซนตริก (ECC) และการฝึกเชิงซ้อนแบบทั่วไป (CON) ที่มีต่อสมรรถภาพกล้ามเนื้อขาในนักกีฬาฟุตบอล

วิธีดำเนินการวิจัย : กลุ่มตัวอย่างที่ใช้เป็นนักกีฬาฟุตบอลชายระดับมหาวิทยาลัย อายุ 18-22 ปี จำนวน 26 คน ได้มาด้วยวิธีการเลือกแบบเจาะจง (Purposive sampling) โดยกลุ่มตัวอย่างจะได้รับการฝึกด้วยแรงต้านก่อนการทดลองเป็นเวลา 2 สัปดาห์ จากนั้นทำการแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่ม ECC (13 คน) และกลุ่ม CON (13 คน) ด้วยวิธีการจับคู่โดยใช้ความแข็งแรงสัมพัทธ์เป็นเกณฑ์ กลุ่ม ECC ทำการฝึกเชิงซ้อนโดยออกแรงต้านในท่าแบ็คสควอชด้วยเครื่องสมิธแมชชีนที่ความหนัก 120% ของ 1RM จำนวน 4 ครั้ง ขณะที่กลุ่ม CON ทำการฝึกเชิงซ้อนท่าแบ็คสควอชด้วยเครื่องสมิธแมชชีนที่ความหนัก 80% ของ 1RM จำนวน 6 ครั้ง โดยทั้งสองกลุ่มทำการฝึก จำนวน 4 ชุด 2 ครั้ง ต่อสัปดาห์ เป็นเวลา 6 สัปดาห์ ก่อนการทดลองและหลังการทดลองสัปดาห์ที่ 6 ทำการทดสอบความแข็งแรง พลัง ความเร็วระยะ 10 และ 20 เมตร และความคล่องแคล่วว่องไว นำผลมาวิเคราะห์ทางสถิติ โดยหาค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยด้วยค่าที (t-test)

ผลการวิจัย : หลังการทดลองสัปดาห์ที่ 6 พบว่า กลุ่ม ECC มีความแข็งแรง พลังกล้ามเนื้อขา และความคล่องแคล่วว่องไว เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ขณะที่กลุ่ม CON มีความแข็งแรงเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เมื่อเปรียบเทียบระหว่างกลุ่มพบว่า ความแข็งแรงในกลุ่ม ECC เพิ่มขึ้นมากกว่ากลุ่ม CON อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ขณะที่ตัวแปรอื่นไม่มีความแตกต่างกัน

สรุปผลการวิจัย : การฝึกเชิงซ้อนแบบเอกเซนตริก มีแนวโน้มพัฒนาสมรรถภาพของกล้ามเนื้อขา และความคล่องแคล่วว่องไวได้ดีกว่าการฝึกเชิงซ้อนแบบทั่วไป