ผลของโปรแกรมการละเล่นกระโดดยางที่มีต่อสมรรถภาพทางกายในเด็กอายุ 10-12 ปี
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
วัตถุประสงค์ : เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบผลของโปรแกรมการละเล่นกระโดดยางที่มีต่อสมรรถภาพทางกายในเด็กอายุ 10-12 ปี
วิธีดำเนินการวิจัย : กลุ่มตัวอย่าง มีจำนวนทั้งสิ้น 40 คน แบ่งเป็นกลุ่มทดลอง 20 คน และกลุ่มควบคุม 20 คน กลุ่มทดลองทำการฝึกการละเล่นกระโดดยางวันละ 60 นาที 3 วันต่อสัปดาห์ เป็นระยะเวลา 8 สัปดาห์ ขณะที่กลุ่มควบคุมทำกิจกรรมของโรงเรียนตามปกติ ก่อนและหลังการทดลอง ทำการชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง ดัชนีมวลกาย (BMI) และเปอร์เซ็นต์ไขมันใต้ผิวหนัง และทดสอบสมรรถภาพทางกาย ประกอบด้วย ลุก-นั่ง (Sit-ups) ดันพื้น (Push-ups) ยืนกระโดดไกล วิ่งอ้อมหลัก วัดความอ่อนตัว และวิ่งระยะไกล (1,200 เมตร) จากนั้นวิเคราะห์หาค่าเฉลี่ย (x) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และเปรียบเทียบความแตกต่างภายในกลุ่มและระหว่างกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุมด้วยค่าสถิติ “ที” (t-test)
ผลการวิจัย :
1) กลุ่มทดลองมีค่าเฉลี่ยน้ำหนัก ส่วนสูง ลุก-นั่ง ดันพื้น ยืนกระโดดไกล วิ่งอ้อมหลัก และวิ่งระยะไกล แตกต่างกันระหว่างก่อนและหลังการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ. 05 ส่วนค่าเฉลี่ยดัชนีมวลกาย (BMI) เปอร์เซ็นต์ไขมันใต้ผิวหนัง และความอ่อนตัว ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.05
2) กลุ่มควบคุม มีค่าเฉลี่ยน้ำหนัก ส่วนสูง ดัชนีมวลกาย ลุก-นั่ง และดันพื้น มีความแตกต่างกันระหว่างก่อนและหลังการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ส่วนค่าเฉลี่ยเปอร์เซ็นต์ไขมันใต้ผิวหนัง ความอ่อนตัว ยืนกระโดดไกล วิ่งอ้อมหลัก และวิ่งระยะไกล ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3) หลังการทดลอง 8 สัปดาห์ กลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม มีค่าเฉลี่ยยืนกระโดดไกล แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ส่วนค่าเฉลี่ยน้ำหนัก ส่วนสูง ดัชนีมวลกาย เปอร์เซ็นต์ไขมันใต้ผิวหนัง ลุก-นั่ง ดันพื้น ความอ่อนตัว วิ่งอ้อมหลัก และวิ่งระยะไกล ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
สรุปผลการวิจัย : โปรแกรมการละเล่นกระโดดยาง สามารถช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางกาย โดยเฉพาะการยืนกระโดดไกลในเด็กอายุ 10-12 ปีได้
Article Details
อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
Boobpachart D., Napthuetrong U., Boobpachart W., Kuasiri C. (2018). The effect of physical activity onhealth-related physical fitness of students in the laboratory school of Ubon Ratchathani Rajabhat University. Ubon Ratchathani Rajabhat University Journal for Public Health research, 7(2), 70-77.
Gomaratut C. (2006). Thai Traditional Sports: Northern Region. Bangkok: Satapornbooks. Kerdthempoom A. (2013). Textbook for learning mechanical skills: To applied teaching physical education and sport. Bangkok: PR. Printing House Limited Partnership.
Patummanee P., Gomaratut C. (2011). Effects of physical training program with thai traditional plays on intelligence quotient, emotional quotient and physical & play quotient of the primary school male students between the ages of 10-12 years old. Journal of Sports Science and Health. 12(1), 65-78.
Ruengpanyawut P. (2013). Effects of physical education learning management using Thai Folk Games on health-related physical fitness of elementary school students. Master’s Thesis, Faculty of Education, Chulalongkorn University. Bangkok.
Samahito S, et al. (2012). Test and standard of physical fitness for Thai children aged 7-18 years. Sport Science Bureau, Department Of Physical Education, Ministry of Tourism and Sports. Sampachanya. Bangkok.
Sanewong A., Kanjanasorn W. (2017). The effect of applied thai traditional play on physical fitness and body mass index in overweight students, demonstration school of Udonthani Rajabhat University. Journal of education graduate studies research, Khon Kaen University, 11(2), 265-274.
Silamad T. (2012). Principles of sports training for sports trainers. Publisher of Chulalongkorn University. Bangkok.
Srisuk S., Karawa J., Khongsebsor W., Hongsamanut S., Wisetsung S., Premsri N. (2018). Effects of physical activity program on health-related physical fitness among grade 4-6 students in Ban-Don-Yanang School, Nakhon Phanom Province. Nakhon Phanom University Journal, 8(3), 1-8.
Wongputthichai P., Suttitum T., Manimanakor A., Kittinon K. (2017). The Effect of applied plyometric training program on muscle strength and muscle power in male Thai Boxing athletes. Srinagarind Medical Journal, 32(2), 163-171.
