การศึกษาตัวแปรคิเนมาติกส์ของไม้ช่วงบอลกระทบหน้าไม้ในท่าตีก้าวขาไปข้างหน้า ในนักกีฬาคริกเก็ตหญิงทีมชาติไทย
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
วัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาตัวแปรคิเนมาติกส์ของไม้ช่วงบอลกระทบหน้าไม้ในท่าตีก้าวขาไปข้างหน้าที่ส่งให้บอลเคลื่อนที่ไปถึงเส้นขอบสนามนอกในนักกีฬาคริกเก็ตหญิงทีมชาติไทย
วิธีการดำเนินงานวิจัย: ผู้เข้าร่วมงานวิจัยเป็นนักกีฬาคริกเก็ตหญิง สังกัดสมาคมคริกเก็ตแห่งประเทศไทย เลือกแบบจำเพาะเจาะจง จำนวน 18 คน แบ่งเป็นกลุ่มนักกีฬาคริกเก็ตหญิงทีมชาติไทยจำนวน 9 คน และกลุ่มนักกีฬาคริกเก็ต หญิงเยาวชนอายุไม่เกิน 19 ปีจำนวน 9 คน ผู้เข้าร่วมงานวิจัยจะติดตัวบอกตำแหน่ง (Marker) ที่ร่างกาย 2 ตำแหน่ง และที่ไม้ 5 ตำแหน่ง เพื่อทำการเก็บข้อมูลการตีบอลทั้งหมด 30 บอล ด้วยท่าก้าวขาไปข้างหน้าโดยมีเป้าหมายตีบอลไปถึงเส้นขอบสนามนอก บันทึกการเคลื่อนไหวขณะทำการตีโดยกล้องความเร็วสูงจำนวน 9 ตัว และวิเคราะห์การเคลื่อนไหวโดยใช้โปรแกรม Qualisys Track Manager (QTM) และวัดการเคลื่อนไหวของบอลโดยเครื่อง Launch monitor ของ FlightScope เพื่อวิเคราะห์บอลที่สามารถเคลื่อนที่ไปได้ไกลสุดของแต่ละคน ทำการศึกษาตัวแปรเชิงคิเนมาติกส์ ได้แก่ ระยะทางบอล ความเร็วของบอล และมุมสะท้อนของบอล ระยะห่างระหว่างของจุดศูนย์กลางไม้กับลำตัว ความสูงระหว่างของจุดศูนย์กลางไม้กับพื้น ข้อมูลทั้งหมดจะถูกนำมาทดสอบเพื่อหาความแตกต่างด้วยสถิติที่ระดับนัยสำคัญ 0.05 โดยใช้การทดสอบหาค่า “ที” (Independent t-test) ระหว่างกลุ่มนักกีฬาคริกเก็ตหญิงทีมชาติไทยกับกลุ่มนักกีฬาคริกเก็ตหญิงเยาวชนอายุไม่เกิน 19 ปี
ผลการวิจัย: ในการเปรียบเทียบกลุ่มนักกีฬาคริกเก็ตหญิงทีมชาติไทยมีระยะทางบอล มุมสะท้อนของบอล และระยะห่างระหว่างของจุดศูนย์กลางไม้กับลำตัวมากกว่ากลุ่มนักกีฬาคริกเก็ตหญิงเยาวชนอายุไม่เกิน 19 ปี อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 และไม่พบความแตกต่างของตัวแปรความเร็วของบอล และความสูงระหว่างของจุดศูนย์กลางไม้กับพื้นระหว่างกลุ่มนักกีฬาคริกเก็ตหญิงทีมชาติไทยกับกลุ่มนักกีฬาคริกเก็ตหญิงเยาวชนอายุไม่เกิน 19 ปี อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
สรุปผลการวิจัย: พบว่า กลุ่มนักกีฬาคริกเก็ตหญิงทีมชาติไทยตีบอลโดยใช้ท่าตีก้าวขาไปข้างหน้าไปได้ไกลกว่านักกีฬาคริกเก็ตหญิงทีมเยาวชนรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี โดยตัวแปรคิเนมาติกส์ที่นักกีฬาคริกเก็ตหญิงทีมชาติไทยแตกต่างกับกลุ่มนักกีฬาคริกเก็ตหญิงทีมเยาวชนรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี คือ มุมสะท้อนของบอล และระยะห่างระหว่างของจุดศูนย์กลางไม้กับลำตัว
Article Details
อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
Champic, S. (2019). Top 10 Most Played Sports in the World 2019. (Online). Retrieved September 30,2018, from Sports champic Website: http://www.sportschampic.com/most-played-sports-in-the-world/
Elliott, B., Baker, J., & Foster, D. (1993). The Kinematics and Kinetics of the Off-Drive in Cricket. Australian Journal of Science and Medicine in Sport, 25, 48-48.
Khan, Aftab, Nicholson, James and Ploetz, Thomas (2017) Activity Recognition for Quality Assessment of Batting Shots in Cricket using a Hierarchical Representation. ACM Interactive, Mobile, Wearable and Ubiquitous Technologies (IMWUT), 1 (3). p. 62. ISSN 2474-9567
Marylebone Cricket Club. (2010). The law of cricket book. Marylebone: The board india.
Nesbit, S. M., Hartzell, T. A., Nalevanko, J. C., Starr, R. M., White, M. G., Anderson, J. R., & Gerlacki, J. N. (1996). A discussion of iron golf club head inertia tensors and their effects on the golfer. Journal of Applied Biomechanics, 12(4), 449-469.
Najdan, M. J., Robins, M. T., & Glazier, P. S. (2014). Determinants of success in English domestic Twenty20 cricket. International Journal of Performance Analysis in Sport, 14(1), 276-295
Nesbit, Steven M. (1996). A Discussion of Iron Golf Club Head Nsors and Their Effects on the Golfer 1996. Retrieved 28 March 2019, from www.humankonetics.com.
Nithichotlertphakdi, W. Associate Director, Cricket Association of Thailand. Interview, 25 October 2018.
Penn, M. J., & Spratford, W. (2012). Are current coaching recommendations for cricket batting technique supported by biomechanical research?.Sports Biomechanics, 11(3), 311-323.
Peploe, C. (2016).The kinematics of batting against fast bowling in cricket (Doctoral dissertion, Loughborough University).
Peploe, C., McErlain-Naylor, S., Harland, A., & King, M. (2017). Relationships Between Hitting Technique and Ball Carry Distance in Cricket. ISBS Proceedings Archive, 35(1), 68.
Portus, M. R., & Farrow, D. (2011). Enhancing cricket batting skill: implications for biomechanics and skill acquisition research and practice. Sports Biomechanics, 10(4), 294-305.
Pinder, R. A., Renshaw, I., & Davids, K. (2009). Information–movement coupling in developing cricketers under changing ecological practice constraints. Human Movement Science, 28(4), 468-479.
Sarkar, A. K. (2013). Bat Swing Analysis In Cricket.
Stretch, R., Buys, F., Toit, E. D., & Viljoen, G. (1998). Kinematics and kinetics of the drive off the front foot in cricket batting. Journal of Sports Sciences, 16(8), 711-720.
Symes, A. W. (2006). The effect of mass distribution on cricket bat playing properties (Doctoral dissertation, © Ashley Symes).
Taliep, M. S., Galal, U., & Vaughan, C. L. (2007). The position of the head and centre of mass during the front foot off-drive in skilled and less-skilled cricket batsmen. Sports biomechanics, 6(3), 345-360.
