https://he02.tci-thaijo.org/index.php/tjph/issue/feed วารสารสาธารณสุขและวิทยาศาสตร์สุขภาพ 2024-10-25T00:00:00+07:00 ผศ.ดร.ภก.พยงค์ เทพอักษร tjph-editor@scphtrang.ac.th Open Journal Systems <p>วารสารสาธารณสุขและวิทยาศาสตร์สุขภาพ(Thai Journal of Public Health and Health Sciences; TJPHS) มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ความรู้ทางวิชาการและผลงานวิจัยทางด้านสาธารณสุขและวิทยาศาสตร์สุขภาพ ขอบเขตของวารสารครอบคลุมในสาขาต่าง ๆ ได้แก่ นโยบายสุภาพและการจัดการการดูแลสุขภาพ การส่งเสริมสุขภาพ สุขศึกษา พฤติกรรมสุขภาพ อาชีวอนามัย อนามัยสิ่งแวดล้อม พิษวิทยา สาธารณสุขชุมชน ทันตสาธารณสุข เภสัชสาธารณสุข การพยาบาล และสาขาสุขภาพอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสาธารณสุขและวิทยาศาสตร์การแพทย์ สนับสนุนโดย คณะสาธารณสุขศาสตร์และสหเวชศาสตร์ สถาบันพระบรมราชชนก กระทรวงสาธารณสุข</p> https://he02.tci-thaijo.org/index.php/tjph/article/view/270459 ผลของโปรแกรมการพัฒนาความรอบรู้ด้านสุขาภิบาลอาหารต่อพฤติกรรมของผู้สัมผัสอาหารในร้านอาหาร อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี 2024-08-14T13:25:47+07:00 กรรณิการ์ ลดาสุวรรณ kasama.w@msu.ac.th สุมัทนา กลางคาร kasama.w@msu.ac.th กษมา วงษ์ประชุม kasama.w@msu.ac.th <p> </p> <p>การเข้าถึงอาหารที่ปลอดภัยและมีคุณค่าทางโภชนาการมีความสำคัญต่อการดำรงชีวิต ช่วยส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี ซึ่งผู้สัมผัสอาหารมีบทบาทสำคัญต่อความปลอดภัยของอาหารและสุขาภิบาลอาหารที่เหมาะสมในร้านอาหาร โดยการศึกษานี้เป็นการวิจัยแบบกึ่งทดลอง (Quasi-experimental Design) ชนิดสองกลุ่มวัดก่อนและหลังการทดลอง (Two Group Pretest - Posttest Design) วัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของโปรแกรมการพัฒนาความรอบรู้ด้านสุขาภิบาลอาหารต่อพฤติกรรมของผู้สัมผัสอาหารในร้านอาหาร อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้สัมผัสอาหาร 78 คน คัดเลือกด้วยการสุ่มอย่างง่าย แบ่งเป็นกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม กลุ่มละ 39 คน โดยกลุ่มทดลองได้รับโปรแกรมการพัฒนาความรอบรู้ด้านสุขาภิบาลอาหาร ระยะเวลา 5 สัปดาห์ ส่วนกลุ่มควบคุมได้รับการสนับสนุนการดำเนินงานตามปกติ เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามความรอบรู้และพฤติกรรมด้านสุขาภิบาลอาหาร วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติ Repeated-Measures ANOVA และ Independent Samples t-test กำหนดระดับนัยสำคัญที่ 0.05</p> <p>ผลการศึกษาพบว่า ก่อนได้รับโปรแกรมการพัฒนาความรอบรู้ กลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุมมีค่าเฉลี่ยความรอบรู้และพฤติกรรมด้านสุขาภิบาลอาหารไม่แตกต่างกัน (<em>p</em>-value ≥0.05) ภายหลังการได้รับโปรแกรม 1 สัปดาห์ กลุ่มทดลองมีค่าเฉลี่ยความรอบรู้และพฤติกรรมด้านสุขาภิบาลอาหารสูงกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 (<em>p</em>-value &lt;0.001) ความรอบรู้และพฤติกรรมของกลุ่มทดลองหลังการได้รับโปรแกรมทันทีและหลังได้รับโปรแกรม 1 สัปดาห์ สูงกว่าก่อนการได้รับโปรแกรมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 (<em>p</em>-value &lt;0.001) แสดงให้เห็นว่าโปรแกรมการพัฒนาความรอบรู้สามารถพัฒนาความรอบรู้และพฤติกรรมด้านสุขาภิบาลอาหารของผู้สัมผัสอาหารในอำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานีได้</p> 2024-10-10T00:00:00+07:00 Copyright (c) 2024 วารสารสาธารณสุขและวิทยาศาสตร์สุขภาพ