การศึกษาถึงความชุกและปัจจัยที่มีผลเกี่ยวข้องต่อความเครียดจากการทeงาน ของบุคลากรที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง

บทคัดย่อ

บทนำ: การศึกษาวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาถึงความชุกของความเครียดจากงานตามแนวคิดของ Robert Karasek และศึกษาถึงปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับความเครียดจากงานในกลุ่มบุคลากรที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาล
เอกชนแห่งหนึ่งเพื่อเป็นแนวทางในการดูแล จัดการ และแก้ไขปัญหาความเครียดจากงานของกลุ่มบุคลากรในโรงพยาบาล

วิธีการศึกษา: การศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงพรรณนาแบบภาคตัดขวาง ณ จุดเวลาใดเวลาหนึ่ง โดยคณะผู้วิจัยเก็บรวบรวมข้อมูลแบบสอบถามจากบุคลากรที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลกรุงเทพพระประแดง ตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน
ถึง 31 ธันวาคม 2560 โดยใช้แบบสอบถามซึ่งประกอบด้วย แบบสอบถามข้อมูลทั่วไป แบบสอบถามประเมินความเครียดจากการทำงาน (Thai JCQ 54) และแบบสอบถามสาเหตุที่มาของความเครียดจากงาน

ผลการศึกษา: จากผลการศึกษาของบุคลากรที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลจำนวน 208 คน พบความชุกของความเครียดจากงานในกลุ่มตัวอย่างตามรูปแบบ Job Demand-Control Model เท่ากับร้อยละ 26.9 โดยปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความเครียดจากงานอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p-value < 0.05) ได้แก่ อายุ ระดับการศึกษา ความเพียงพอของรายได้ สาขาอาชีพ ข้อเรียกร้องจากงานด้านงานใช้แรงกาย อันตรายหรือความเสี่ยงจากงาน แรงสนับสนุน
ทางสังคม แรงสนับสนุนจากหัวหน้างานและความมั่นคงในหน้าที่การงาน

วิจารณ์: กลุ่มบุคลากรตัวอย่างในโรงพยาบาลเอกชนแห่งนี้มีความเครียดจากงานตามรูปแบบ Job Demand-Control Model ค่อนข้างสูงเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มตัวอย่างอื่นๆ ในงานศึกษาที่ผ่านมา ผลการศึกษาในครั้งนี้สามารถ
นำไปสู่การคัดกรองภาวะสุขภาพจิตเบื้องต้นของบุคลากรที่มีแนวโน้มผิดปรกติเพื่อที่จะได้ส่งต่อให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสุขภาพจิตตรวจสอบและวินิจฉัยต่อไป และยังสามารถนำผลการศึกษาไปใช้ในการป้องกัน และให้ความช่วยเหลือกับบุคลากรที่มีความเครียดจากงานในเบื้องต้นได้ด้วย ส่วนปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความเครียดจากงานในการศึกษาครั้งนี้นั้น อาจนำไปศึกษาวิจัยเพิ่มเติมเพื่อใช้ทำนายการเกิดความเครียดจากงานของบุคลากรในโรงพยาบาลแล้วนำผลที่ได้มากำหนดมาตรการเพื่อป้องกันและเฝ้าระวังสุขภาพของบุคลากรผู้ปฏิบัติงานและเป็นประโยชน์ในการพัฒนางานทางด้านอาชีวอนามัยเมื่อต้องเผชิญกับสิ่งคุกคามทางด้านจิตใจต่อไป