ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากลีลาการเรียนรู้ของนักศึกษาพยาบาลศาสตร์

ผู้แต่ง

  • ฝนทอง จิตจำนง วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สุรินทร์, คณะพยาบาลศาสตร์ สถาบันพระบรมราชชนก
  • ดาริณ โพธิ์แก้ว วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สุรินทร์, คณะพยาบาลศาสตร์ สถาบันพระบรมราชชนก
  • อดิศักดิ์ แสงเมือง วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สุรินทร์, คณะพยาบาลศาสตร์ สถาบันพระบรมราชชนก
  • ธิดารัตน์ คณึงเพียร วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สุรินทร์, คณะพยาบาลศาสตร์ สถาบันพระบรมราชชนก
  • ธิดารัตน์ ครุฑทอง วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สุรินทร์, คณะพยาบาลศาสตร์ สถาบันพระบรมราชชนก

คำสำคัญ:

ลีลาการเรียนรู้, ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน, นักศึกษาพยาบาล

บทคัดย่อ

     การวิจัยเชิงพรรณนาเพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และอำนาจทำนายจากลีลาการเรียนรู้ของนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ กลุ่มตัวอย่าง คือ นักศึกษาพยาบาลศาสตร์ชั้นปีที่ 1-4  ของวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สุรินทร์ จำนวน 129 คน เป็นการสุ่มตัวอย่างแบบชั้นภูมิ เครื่องมือการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถามข้อมูลกลุ่มตัวอย่าง แบบสอบถามลีลาการเรียนรู้ และ แบบสอบถามผลสัมฤทธิ์การเรียน  ตรวจสอบความตรงเชิงเนื้อหา IOC =1 หาค่าความเชื่อมั่นด้วยค่าสัมประสิทธิ์อัลฟาของครอนบาค ได้ค่า 0.82 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ค่าความถี่ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน  หาอำนาจทำนายลีลาการเรียนรู้ต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้วยสถิติถดถอยพหุคูณ

     ผลการวิจัย พบว่า ผลสัมฤทธิ์การเรียนของนักศึกษาพยาบาลศาสตร์อยู่ในระดับปานกลาง (M=2.99, SD=1.03) ลีลาการเรียนรู้แบบจักษุประสาท และแบบปฏิบัติหรือเคลื่อนไหว ส่งผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < .05) และแบบโสต ประสาท ส่งผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ(p < .01) ทั้งนี้ลีลาการเรียนรู้ สามารถทำนายผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ได้ร้อยละ 4.1 (R2 = 0.41 , F =5.487, p =.05)

     จากผลการวิจัยมีข้อเสนอแนะว่า ควรมีการเน้นย้ำถึงความสำคัญของผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักศึกษาพยาบาลศาสตร์โดยคำนึงถึงปัจจัยลีลาการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ แบบจักษุประสาท แบบปฏิบัติหรือเคลื่อนไหว และแบบโสตประสาท เพื่อประสิทธิภาพการเรียนที่มากขึ้น

ประวัติผู้แต่ง

ธิดารัตน์ คณึงเพียร, วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สุรินทร์, คณะพยาบาลศาสตร์ สถาบันพระบรมราชชนก

Ph.D (nursing science)

เอกสารอ้างอิง

Boromarajonani College of Nursing, Surin. (2022). Nursing science curriculum, revised curriculum 2017. Boromarajonani College of Nursing. Office of the Permanent Secretary, Ministry of Public Health. Ministry of Public Health. [In Thai]

Fleming, N.D. (2013). The VARK questionnaire – for athletes. http://vark-learn.com/the-vark-questionnaire/the-vark-questionnaire-for-athletes/.

Kowtrakul, S. (2016). Educational psychology. (12th ed.). Bangkok: Chulalongkorn University Press. [In Thai]

Mills, D. W. (2002). Applying what we know student learning styles. http://www.adesignmedia.com/onlineresearch/Applying%20What%20We%20Know%20- %20Student%20Learning%20Styles.htm.

Srimala, S., & Wangruangsatid, R. (2015). Achievement and satisfaction of nursing students studying newborn nursing care by using VARK learning style. Journal of Health Science, 24(4), 751-9. [In Thai]

Tuijaroen, J.,Tasena Elter, P., Mansaket, R., Santhiphumas, I., & Muenthaisong, S. (2020). The learning style of the WARC of nursing students at Boromarajonani College, Khon Kaen. Public Health Academic Journal, 29(6), 1073-1085. [In Thai]

Wattanakun, B., Ngamkham, S., & Ngamwongwan, K. (2016). Differences in learning styles of nursing students. Journal of Health Science Research, 10(1), 54-61. [In Thai]

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

30-09-2025

รูปแบบการอ้างอิง

จิตจำนง ฝ., โพธิ์แก้ว ด., แสงเมือง อ., คณึงเพียร ธ., & ครุฑทอง ธ. (2025). ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากลีลาการเรียนรู้ของนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ . วารสารคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา, 33(3), 83–92. สืบค้น จาก https://he02.tci-thaijo.org/index.php/Nubuu/article/view/273553