ความชุก และปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการเกิดอุบัติเหตุทางถนนจากรถจักรยานยนต์ ในนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย อำเภอนํ้าโสม จังหวัดอุดรธานี พ.ศ. 2560

ผู้แต่ง

  • สรศักดิ์ ตันทอง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหนองแวง อำเภอนํ้าโสม จังหวัดอุดรธานี
  • กาญจนา นาถะพินธุ คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น

คำสำคัญ:

อุบัติเหตุ, รถจักรยานยนต์, นักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้เป็นการศึกษาเชิงวิเคราะห์แบบภาคตัดขวาง (Cross-sectional Analytical study)
มีวัตถุประสงค์เพื่อหาความชุก และปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการเกิดอุบัติเหตุทางถนน เก็บข้อมูลในนักเรียน
ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย อำเภอนํ้าโสม จังหวัดอุดรธานี จำนวน 4 โรงเรียน กลุ่มตัวอย่าง 335 คน
ทำการเก็บรวบรวมโดยใช้แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลทั่วไปโดยสถิติเชิงพรรณนาและวิเคราะห์ความสัมพันธ์
ด้วยสถิติถดถอยพหุลอจิสติก แบบหลายตัวแปร (Multiple logistic regression) ผลการศึกษาพบว่ากลุ่มตัวอย่าง
ที่ศึกษาเป็นเพศหญิง ร้อยละ 55.5 เพศชายมีอัตราการเกิดอุบัติเหตุมากกว่าเพศหญิง ขับขี่รถจักรยานยนต์
ครั้งแรกเฉลี่ยอายุ 12.39 ปี (sd=1.55) ขับขี่รถจักรยานยนต์ตั้งแต่อายุน้อยกว่า 15 ปี ร้อยละ 90.1
อายุน้อยที่สุดที่ขับขี่รถจักรยานยนต์คืออายุ 8 ปี ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ ร้อยละ 94 ความชุกของการเกิดอุบัติเหตุ
ร้อยละ 22.4 (95% CI = 17.9 – 26.8) การวิเคราะห์ความสัมพันธ์โดยใช้สถิติถดถอยพหุลอจิสติก
แบบหลายตัวแปร (Multiple logistic regression) ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนน ตัวแปร
ระดับการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 (ORadj = 2.26, 95%CI of ORadj = 1.31 – 3.90, p-value = 0.004)
ประสบการณ์ในการขับขี่มากกว่า 4 ปี (ORadj = 2.54, 95% CI of ORadj = 1.24 – 5.21, p-value = 0.003)
และการขับขี่ด้วยความเร็วมากกว่า 80 กม./ชม. (ORadj = 3.74, 95% CI of ORadj = 1.13 – 10.66,
p-value = 0.030) มีความสัมพันธ์กับการเกิดอุบัติเหตุอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ

เอกสารอ้างอิง

1. WHO. (2015). Global Status Report on Road Safety 2015. Italy : WHO
2. ชลธิชา คำสอ และปัญณ์ จันทร์พาณิชย์. (2558). สถานการณ์อุบัติเหตุทางถนน พ.ศ. 2558. สำนัก
โรคติดต่อ กรมควมคุมโรค
3. สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี. สถิติการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ปี 2556 – 2560, 2560
4. สำนักงานสาธารณสุขอำเภอนํ้าโสม จังหวัดอุดรธานี. สถิติการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ปี 2556 – 2560,
2560
5. นิคม ถนอมเสียง. (2559). ขนาดตัวอย่างสำหรับวิเคราะห์ logistic regression ข้อมูลแบบ dichotomous
กรณีใช้สูตรของ Hsieh, Bloch & Larson (1998). เอกสารประกอบการเรียนการสอน Categorical
Data Analysis for Health Research. ภาควิชาชีวสถิติและประชากรศาสตร์ คณะสาธารณสุขศาสตร์
มหาวิทยาลัยขอนแก่น
6. อลงกรณ์ ศรีเลิศ. (2559). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการเกิดอุบัติเหตุจราจรที่เกี่ยวกับรถจักรยานยนต์
ในกลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่น. วารสารโรงพายาบาลสกลนคร. 19(2)
7. บัณฑิต ถิ่นคำรพ.(2543). การวิเคราะห์ข้อมูลการวิจัยทางวิทยาศาสตร์สุขภาพโดยใช้การถดถอยลอจีสติก.
ภาควิชาชีวสถิติและประชากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น. 87 - 89
8. นครคำ� แสงจันทร์. (2553). การประเมินปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการเกิดอุบัติเหตุจราจรตามถนน
ณ ที่เมืองไก สอนพมวิหาร แขวงสะหวันนะเขต ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว.
วารสารสมาคมพยาบาลฯ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ. 29(2). 70 – 77.
9. ประภาศรี ทองด้วง. (2552). ระดับของแอลกอฮอล์และความรุนแรงของการบาดเจ็บในผู้ป่วยอุบัติเหตุ
จราจรทางบกที่มารับบริการรักษาในโรงพยาบาลโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา พ.ศ.2550 – 2551.
วิทยานิพนธ์ปริญญาสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต บัณฑิตวิทยาลัย คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัย
ขอนแก่น.
10. Ali Kemal Çelik, ErkanOktay. (2016). A Comparison of Ordered and Unordered Response Models
for Analyzing Road Traffic Injury Severities in the North-Eastern Turkey. PeriodicaPolytechnica
Transportation Engineering. 45(3). 119 – 132.
11. เกรียงศักดิ์ หลิวจันทร์พัฒนา และคณะ, (2542). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการเกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์
ในนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา. สงขลานครินทร์เวชสาร. 17(2). 125-131.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2019-05-31

รูปแบบการอ้างอิง

ตันทอง ส., & นาถะพินธุ ก. (2019). ความชุก และปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการเกิดอุบัติเหตุทางถนนจากรถจักรยานยนต์ ในนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย อำเภอนํ้าโสม จังหวัดอุดรธานี พ.ศ. 2560. วารสารวิชาการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 จังหวัดนครราชสีมา, 25(2), 67–77. สืบค้น จาก https://he02.tci-thaijo.org/index.php/ODPC9/article/view/187319

ฉบับ

ประเภทบทความ

นิพนธ์ต้นฉบับ