ความรู้และการรับรู้เกี่ยวกับภาวะสมองเสื่อมในผู้ใหญ่วัยกลางคนเพื่อเตรียมความพร้อมสู่วัยสูงอายุ: กรณีศึกษาบ้านโพธิ์สง่า ตำบลท่าโพธิ์ศรี อำเภอเดชอุดม จังหวัดอุบลราชธานี
คำสำคัญ:
ความรู้, การรับรู้, ภาวะสมองเสื่อม, ผู้ใหญ่วัยกลางคนบทคัดย่อ
ภาวะสมองเสื่อมในวัยผู้สูงอายุเป็นปัญหาหนึ่งที่เป็นอุปสรรคในการดำเนินชีวิต การทำความเข้าใจปัญหาดังกล่าวในช่วงวัยกลางคน เป็นการเตรียมการในการป้องกันตนเองก่อนเข้าวัยผู้สูงอายุ การวิจัยเชิงบรรยายครั้งนี้มีเพื่อประเมินความรู้และการรับรู้เกี่ยวกับภาวะสมองเสื่อมในผู้ใหญ่วัยกลางคนเพื่อเตรียมความพร้อมสู่วัยสูงอายุ กลุ่มตัวอย่างจากการสุ่มอย่างง่าย เป็นคนอายุระหว่าง 40-60 คน จำนวน 156 คน เครื่องมือ ประกอบด้วย แบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคล แบบประเมินความรู้เกี่ยวกับภาวะสมองเสื่อม แบบประเมินการรับรู้เกี่ยวกับภาวะสมองเสื่อม วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติร้อยละ ผลการวิจัยพบว่า 1) กลุ่มตัวอย่างรู้ความหมายของภาวะสมองเสื่อม สาเหตุของภาวะสมองเสื่อม ปัจจัยที่ทำให้เกิดภาวะสมองเสื่อม ผลกระทบของภาวะสมองเสื่อม และการรักษาภาวะสมองเสื่อม อยู่ในระดับมาก ร้อยละ 83.3, 73.1, 73.9, 88.4 และ 67.6 ตามลำดับ ความรู้เกี่ยวกับการปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันภาวะสมองเสื่อม อยู่ในระดับปานกลาง ร้อยละ 58.3 และเคยได้รับความรู้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับภาวะสมองเสื่อม ร้อยละ 59 จากโทรทัศน์ ร้อยละ 53.12 ต้องการได้รับความรู้เรื่องภาวะสมองเสื่อม จากหนังสือ/คู่มือ สูงสุด ร้อยละ 38 2) กลุ่มตัวอย่างมีการรับรู้เกี่ยวกับภาวะสมองเสื่อม ระดับมาก ร้อยละ 96.16 ของผู้ใหญ่วัยกลางคน มีความรู้และการรับรู้เกี่ยวกับภาวะสมองเสื่อมระดับมาก แต่ยังมีความรู้ในการปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันสมองเสื่อมระดับน้อย จึงควรส่งเสริมความรู้ในการปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันสมองเสื่อมแก่กลุ่มผู้ใหญ่วัยกลางคนในการเตรียมความพร้อมสู่วัยสูงอายุต่อไป
เอกสารอ้างอิง
บุษบา คำสวน. ความชุกของภาวะสมองเสื่อมและปัจจัยที่สัมพันธ์กับภาวะสมองเสื่อมในผู้สูงอายุ ตำบลหลักหก อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี.วารสารวชิรสาร. 2559;5(2):21-32.
Murray A. The effect of dementia on patients, informal careers and Nurses. Nursing Older People. 2014;26:27-31.
World Health Organization. 10 facts on dementia [Internet].2018 [cited 2018 Nov 11]. Available from: https://www.who.int/features/factfiles/dementia/en/.
พาวุฒิ เมฆวิชัย, สุรินทร์ แซ่ตัง. ผลกระทบจากการดูแลผู้ป่วยภาวะสมองเสื่อมในประเทศไทย. วารสารสมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย. 2556;58(1):101–10.
กรมกิจการผู้สูงอายุ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย. จับตา: สถิติผู้สูงอายุในประเทศไทย (ณ 31 ธ.ค. 2563) – TCIJ [อินเตอร์เนต].2564 [เข้าถึงเมื่อ 2564 มกราคม 30 เข้าถึงได้จาก: https://www.tcijthai.com › news › watch › 11359.
Bloom, B. S. Taxonomy of education objective: The classification of educational goals: Handbook II: Affective domain. New York: David Mckay; 1964.
Krejcie, R.V., & Morgan, D.W. Determining Sample Size for Research Activities. Educational and Psychological Measurement. 1970;30(3):607-10.
Polit D.F., & Beck C.T. Assessing data quality. In Nursing Research: Principles and methods. Philadelphia: Lippincott Williams & Wilkins; 2004.
มุกดา หนุ่ยศรี. การป้องกันภาวะสมองเสื่อม.วารสารพยาบาลตำรวจ. 2559;8(1):227-240.
วิเชียร เกตุสิงห์. หลักการสร้างและวิเคราะห์เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย. สถิติวิเคราะห์สำหรับการวิจัย. กรุงเทพฯ: ไทยวัฒนาพาณิชย์; 2536.
วัลลภา อันดารา, อุบลรัตน์ สิงหเสนี และ ปัทมา วงค์นิธิกุล. การศึกษาภาวะสมองเสื่อม ความรู้เรื่องโรคและการป้องกันโรคสมองเสื่อม และข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สูงอายุ วิทยาลัยพยาบาลทหารอากาศ. วารสารพยาบาลตำรวจ. 2559;8:23-33.
Best, J.W. Research in Education. 3nded. Englewood Cliffs, New Jersey: Prentice hall Publishers; 1977.
แบรนด์บัพเฟต. 5 เทรนด์ปี 2020 และผู้บริโภคไทยยุค 5G เสพสื่อออนไลน์หนักมาก[อินเตอร์เนต].2565 [เข้าถึงเมื่อ 2565 พฤษภาคม 7]; เข้าถึงได้จาก: https://www.brandbuffet.in.th/2020/01/mindshare-media-outlook-2020-and-5-key-trends/.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ลงพิมพ์ในวารสารวิชาการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 จังหวัดนครราชสีมา ถือว่าเป็น
ลิขสิทธิ์ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 จังหวัดนครราชสีมา
