ผลของโปรแกรมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมต่อความรู้และการปฏิบัติตัวในผู้สูงอายุ ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง
คำสำคัญ:
โปรแกรมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม, ความรู้, การปฏิบัติตัว, ผู้สูงอายุบทคัดย่อ
โรคความดันโลหิตสูงเป็นสาเหตุสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้ประชากรทั่วโลกเสียชีวิตก่อนวัยอันควร การวิจัยกึ่งทดลองนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของโปรแกรมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมต่อความรู้และการปฏิบัติตัวในผู้สูงอายุที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง จำนวน 70 คน แบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 35 คน กลุ่มควบคุมที่ไม่ใช้โปรแกรมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและกลุ่มทดลองที่ใช้โปรแกรมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เป็นระยะเวลา 12 สัปดาห์ เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ประกอบด้วย แบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคล แบบประเมินความรู้ในผู้สูงอายุที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง แบบประเมินการปฏิบัติตัวในผู้สูงอายุที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง และโปรแกรมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และเปรียบเทียบผลของโปรแกรมด้วยสถิติ Wilcoxon-signed rank test และ Mann Whitney U test
ผลการวิจัย พบว่าภายหลังการทดลอง 1) ความรู้และการปฏิบัติตัวในผู้สูงอายุที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงของกลุ่มทดลองสูงกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ p < .05 2) กลุ่มทดลองมีความรู้และการปฏิบัติตัวในผู้สูงอายุที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง หลังการทดลองสูงกว่าก่อนการทดลอง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ p < .05 ผลการศึกษาสรุปว่าโปรแกรมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงความรู้และการปฏิบัติตัวในผู้สูงอายุที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงดีขึ้น ดังนั้น บุคลากรทางสุขภาพสามารถนำโปรแกรมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไปใช้ในการส่งเสริมความรู้และการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในผู้สูงอายุที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงต่อไป
เอกสารอ้างอิง
นสหชม เอโหย่, วิภาพร สิทธิสาตร์ และสุรีรัตน์ ณ วิเชียร. (2565). ผลของโปรแกรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสร้างเสริมสุขภาพ ตามแนวคิด สบช โมเดล ในผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง ตำบลสมอแข อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก. วารสารวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สุพรรณบุรี, 5(2), 129-139.
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านกร่าง. (2567). สถิติผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงที่มารับบริการที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านกร่าง อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ปี 2567. พิษณุโลก.
วิชัย เทียนถาวร. (2556). ระบบการเฝ้าระวัง ควบคุม ป้องกัน โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูงในประเทศไทย : นโยบายสู่การปฏิบัติ. กรุงเทพ: กองสุขศึกษา กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข.
เสกสรร ไข่เจริญ, มยุรี พิทักษ์ศิลป์, วัลลภ ใจดี และสมจิต พฤกษะริตานนท์. (2560). ผลของการฝึกผ่อนลมหายใจออกช้าโดยการเป่ากังหันลมต่อความดันโลหิตในผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง. บูรพาเวชสาร, 4(1), 9-20.
สุนันทา ภักดีอำนาจ, เชาวกิจ ศรีเมืองวงศ์ และสุรีรัตน์ ณ วิเชียร. (2566). ผลของโปรแกรมพัฒนาความรู้และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสร้างเสริมสุขภาพของผู้ป่วยเบาหวาน อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก. วารสารวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สุพรรรณบุรี, 6(2), 53-66.
สำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข. (2566). สรุปรายงานการป่วย พ.ศ. 2566. https://spd.moph.go.th/wp-content/uploads/2024/11/ill_2023_full_07112567.pdf
สุภาพ อิ่มอ้วน, แพรว โคตรรุฉิน, พะนอ เตชะอธิก, ฐปนวงศ์ มิตรสูงเนิน. (2561). ผลของดนตรีพื้นบ้านต่อการควบคุมความดันโลหิตในผู้ป่วยความดันโลหิตสูง. วารสารพยาบาลศาสตร์และสุขภาพ, 41(1), 12-23.
Bandura, A. (1977). Self-efficacy: Toward a unifying theory of behavioral change. Psychological Review, 84(2), 191–215.
World health organization. (2023). Global report on hypertension: the race against a silent killer. https://www.who.int/publications/i/item/9789240081062
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สุพรรณบุรี
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สุพรรณบุรี และคณาจารย์ท่านอื่นๆในวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว