ประสิทธิผลของโปรแกรมการพัฒนาสมรรถนะแห่งตนสำหรับอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านในการดูแลผู้ป่วยโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูงในชุมชน จังหวัดบุรีรัมย์
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยแบบกึ่งทดลองนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินประสิทธิผลของโปรแกรมการพัฒนาสมรรถนะแห่งตนสำหรับอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านในการดูแลผู้ป่วยโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูงในชุมชน จังหวัดบุรีรัมย์ กลุ่มตัวอย่าง เป็นอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ในจังหวัดบุรีรัมย์ จำนวน 66 คน เลือกแบบเจาะจง แบ่งเป็นกลุ่มควบคุมและกลุ่มทดลอง กลุ่มละ 33 คน เครื่องมือวิจัย เป็นโปรแกรมการพัฒนาสมรรถนะแห่งตน แบบทดสอบความรู้ แบบสอบถามการรับรู้สมรรถนะแห่งตน และแบบประเมินทักษะในการดูแลผู้ป่วยโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงบรรยาย และการทดสอบที ผลการศึกษาพบว่า หลังการทดลอง อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านในกลุ่มทดลอง มีค่าเฉลี่ยความรู้ การรับรู้สมรรถนะแห่งตน และทักษะในการดูแลผู้ป่วยโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง สูงกว่าก่อนการทดลอง และสูงกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .001
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงสาธารณสุข กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ สำนักสื่อสารและประชาสัมพันธ์. (2565, 14 มิถุนายน). อาสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.). https://prgroup.hss.moph.go.th/article/1000 -อาสาสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน-อสม
กระทรวงสาธารณสุข กรมควบคุมโรค กองโรคไม่ติดต่อ. (2565). รายงานประจำปี 2565 กองโรคไม่ติดต่อ. อักษรกราฟฟิคแอนด์ดีไซน์.
กระทรวงสาธารณสุข กลุ่มรายงานมาตรฐาน. (2566). สาเหตุการป่วยของผู้ป่วยนอกตามกลุ่มโรค 10 อันดับแรก. https://hdcservice.moph.go.th/hdc/main/index.php
ขวัญตา เพชรมณีโชติ, ลักษณา พงษ์ภุมมา, อนิสา อรัญคีรี, และพัชรี เตาวลานนท์. (2564). ผลของโปรแกรมการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมต่อความรู้และการปฏิบัติในการดูแลผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน. วารสารพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข, 31(3), 28-41.
ชูชาติ ฝั้นเต็ม. (2565). ประสิทธิผลของโปรแกรมการพัฒนาสมรรถนะแห่งตนร่วมกับการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมของอาสาสมัครสาธารณสุขในการส่งเสริมสุขภาพผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงในพื้นทีระดับตำบลของจังหวัดอุตรดิตถ์ (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต ไม่ได้ตีพิมพ์). มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์.
พนมกร อินทนนท์. (2566). ผลของโปรแกรมการเสริมสร้างสมรรถนะอาสาสมัครสาธารณสุขประจําหมู่บ้านต่อพฤติกรรมการดูแลผู้สูงอายุที่เสี่ยงต่อภาวะสมองเสื่อมในตําบลกันทรารมย์ อําเภอขุขันธ์จังหวัดศรีสะเกษ. วารสารวิจัยและพัฒนาสุขภาพศรีสะเกษ, 2(ฉบับพิเศษ), 102-114.
ภาวิณี พรหมบุตร, เอื้อจิต สุขพูล, กิตติภูมิ ภิญโย, และปิยนุช ภิญโย. (2558). ผลของโปรแกรมการเสริมสร้างการรับรู้สมรรถนะแห่งตนต่อความรู้และการรับรู้สมรรถนะแห่งตนของอาสาสมัครสาธารณ สุขประจำหมู่บ้านในการดูแลผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูงในชุมชน ของจังหวัดแห่งหนึ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ตอนใต้). วารสารพยาบาลสงขลานครินทร์, 35(2), 113 - 128.
ภูดิท เตชาติวัฒน์ และ นิทรา กิจธีระวุฒิวงษ์. (2557). การประเมินผลการปฏิบัติงานของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านที่ปฏิบัติงานใน เครือข่ายบริการสุขภาพ อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก. วารสารพยาบาลสาธารณสุข, 28(1), 16-28.
วรางคณา บุตรศริ และอภิรดี เจริญนุกูล. (2560). การมีส่วนร่วมของอาสาสมัครสาธารณสุขในการดูแลผู้ป่วยเบาหวาน: กรณีศึกษาตําบลเมืองศรีไค อําเภอวารินชําราบ จังหวัดอุบลราชธานี. วารสาร วิทยาศาสตร์สุขภาพ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีสรรพสิทธิประสงค์, 1(1), 92-105.
สำนักงานเขตสุขภาพที่ 9. (2565). สรุปการตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข กรณีปกติ เขตสุขภาพที่ 9 . https://shorturl.asia/MdQ1B
Bandura, A. (1997). Self-efficacy the exercise of control. W.H. Freeman.
Gyawali, B., Mishra, S. R., Neupane, D., Vaidya, A., Sandbæk, A., & Kallestrup, P. (2018). Diabetes anagement training for female community health volunteers in Western Nepal: An implementation experience. BMC Public Health, 18, 1-10.
Pitchalard, K., Moonpanane, K., Wimolphan, P., Singkhorn, O., & Wongsuraprakit, S. (2022). Implementation and evaluation of the peer-training program for village health volunteers to improve chronic disease management among older adults in rural Thailand. International Journal of Nursing Sciences, 9(3), 328-333. https://doi.org/10.1016/j.ijnss.2022.06.011
Perry, H. B., & Hodgins, S. (2021). Health for the people: past, current, and future contributions of national community health worker programs to achieving global health goals. Global Health: Science and Practice, 9(1), 1-9. https://doi.org/10.9745/GHSP-D-20-00459