สภาวะอนามัยช่องปากของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ภายหลังการใช้แบบประเมินความสะอาดของฟันหน้าด้วยตนเอง อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี

Main Article Content

ลักขณา กิตติวโรดม

บทคัดย่อ

การวิจัยกึ่งทดลอง เพื่อเปรียบเทียบคะแนนดัชนีพีเอชพีระหว่างนักเรียนกลุ่มทดลองที่สามารถประเมินความสะอาดของฟันหน้าด้วยตนเองกับนักเรียนกลุ่มควบคุม กลุ่มศึกษาคือนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 2 อายุ 12-15 ปี จาก 2 โรงเรียนในเขตเทศบาลเมืองท่าเรือพระแท่น อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี นักเรียนทุกคนที่เข้าร่วมได้รับตรวจฟัน อุดฟัน ขูดหินน้ำลายและขัดฟันในวันเริ่มทำการวิจัย กลุ่มทดลองได้รับการฝึกให้ส่องกระจกส่องหน้าตรวจความสะอาดภายหลังการแปรงฟัน เพื่อการประเมินความสะอาดของฟันหน้าด้วยตนเอง ติดตามผลคะแนนดัชนีพีเอชพีในระยะเวลา 2 เดือน 4 เดือน และ 6 เดือน ตามลำดับ  ดำเนินการช่วงปีการศึกษา 2556 ผลการศึกษา กลุ่มศึกษาทั้งหมด 66 คน เพศชายร้อยละ 51.5 เพศหญิงร้อยละ 48.5  กลุ่มทดลอง 35 คน กลุ่มควบคุม 31 คน กลุ่มทดลองมีค่าเฉลี่ยคะแนนดัชนีพีเอชพีในเดือนที่ 2 และ 4 แตกต่างจากกลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < 0.05) ค่าเฉลี่ยคะแนนดัชนีพีเอชพีทั้งปากของกลุ่มทดลองที่ช่วงเวลา 2,4 และ 6 เดือน เท่ากับ 2.34±0.44, 3.39±0.37 และ 3.42±0.55 ตามลำดับ ขณะที่กลุ่มควบคุมเท่ากับ 3.10±0.55, 3.45±0.55 และ 3.46±0.44 ตามลำดับ

Downloads

Download data is not yet available.

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
1.
กิตติวโรดม ล. สภาวะอนามัยช่องปากของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ภายหลังการใช้แบบประเมินความสะอาดของฟันหน้าด้วยตนเอง อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี. Th Dent PH J [อินเทอร์เน็ต]. 31 ธันวาคม 2016 [อ้างถึง 28 ธันวาคม 2025];21(2):63-7. available at: https://he02.tci-thaijo.org/index.php/ThDPHJo/article/view/149227
ประเภทบทความ
นิพนธ์ต้นฉบับ

เอกสารอ้างอิง

1. สำนักทันตสาธารณสุข กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข.รายงานผลการสำรวจสภาวะสุขภาพช่องปากระดับประเทศครั้งที่ 7ประเทศไทย พ.ศ.2555.พิมพ์ครั้งที่ 1.กรุงเทพมหานคร: สำนักงานกิจการโรงพิมพ์องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก;2556.

2. ผลสำรวจสภาวะทันตสุขภาพ จังหวัดกาญจนบุรี.กลุ่มงานทันตสาธารณสุข สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี,2556.

3. Kasila K ,Poskiparta M , Kettunen T and Pietila I .Oral health counseling in changing schoolchildren’s oral hygiene habit : a qualitative study , Community dentistry and oral epidermiology .2006: 34 (6) ,p 419-28.

4. Beal JF,James PM ,Bradnock G and Anderson RJ.The relationship between dental cleanliness,dental caries incidence and gingival health.A longitudinal study.British dental journal.1979;146(4):111-4.

5. เพ็ญแข ลาภยิ่ง และ กันยา บุญธรรม : แผนยุทธศาสตร์สุขภาพช่องปากประเทศไทย พ.ศ. 2555-2559.พิมพ์ครั้งที่ 2.โรงพิมพ์องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก : นนทบุรี.2556.

6. Sarvia ME, Bush JP and Mourino AP. Psychomotor skills and incentive as predictors in a children's toothbrushing program. Journal of pedodontics. 1989;14(1) : 31-35.

7. GREEN JC, VERMILLION JR . The oral hygiene index: a method for classifying oral hygiene status. J Am Dent Assoc. 1960; 61(172) : 10

8. Orapan Poonsakpaisan.The effect of anterior teeth hygiene self assessment on the plaque index score of eight grade Thai municipal school students.[Master of Science Program in Pediatric Dentistry].Department of Pediatric dentistry : Chulalongkorn University :Thailand,2013.

9. Podshadley AG and Haley JV. A method for evaluating oral hygiene performance .Public health reports.1968 ;83(3) :259-64.

10. ณัฐวุธ แก้วสุทธา .รูปแบบความสัมพันธ์เชิงสาเหตุและประสิทธิผลของโปรแกรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดูแลอนามัยช่องปากของวัยรุ่นตอนต้น.ปรัชญาดุษฎีบัณฑิตย์ สาขาวิชาการวิจัยพฤติกรรมศาสตร์ประยุกต์,มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ,2558.

11. ปัญนี กิตติพงศ์พิทยา.การประยุกต์ทฤษฎีการรับรู้ความสามารถตนเอง เพื่อส่งเสริมพฤติกรรมการดูแลทันตสุขภาพในนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 1 อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว,วิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาเอกสุขศึกษาและพฤติกรรมศาสตร์.มหาวิทยาลัยมหิดล.2551.