ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความสม่ำเสมอในการแปรงฟันก่อนนอนของผู้สูงอายุ ในอำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง
Main Article Content
บทคัดย่อ
การศึกษานี้เป็นการศึกษาเชิงวิเคราะห์ภาคตัดขวาง เพื่อศึกษาถึงปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความสม่ำเสมอในการแปรงฟันก่อนนอนของผู้สูงอายุอำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง สุ่มตัวอย่างแบบเป็นระบบและมีจำนวนเป็นสัดส่วนกับขนาดประชากรของแต่ละตำบล ช่วงเวลาในการเก็บข้อมูลคือเดือนตุลาคม พ.ศ.2554 – เดือนเมษายน พ.ศ.2555 กลุ่มตัวอย่างคือผู้สูงอายุระหว่าง 60-70 ปี เก็บข้อมูลระยะแรกโดยใช้ผู้สัมภาษณ์ เมื่อได้ข้อมูลมาแล้วทำการศึกษาข้อมูลและเลือกผู้สูงอายุเพื่อเก็บข้อมูลโดยการสนทนากลุ่ม แบ่งเป็นกลุ่มที่แปรงฟันก่อนนอนสม่ำเสมอและที่แปรงฟันก่อนนอนไม่สม่ำเสมอ แบบสัมภาษณ์มีค่าความเชื่อมั่นที่เชื่อถือได้ (Cronbach’s Alpha = 0.7) ผลการศึกษา กลุ่มตัวอย่าง 260 คนจาก 5 ตำบล อายุเฉลี่ยคือ 65.8 ปี เป็นหญิง ร้อยละ 68.5 จบประถมศึกษาร้อยละ 83.1 อาศัยอยู่กับคู่สมรสร้อยละ 67.3 อยู่ในเขตเทศบาลและนอกเขตเท่ากันร้อยละ 50.0 และรู้สึกเพียงพอกับรายได้ในแต่ละเดือนร้อยละ 76.5 ร้อยละ 91.2 แปรงฟันอย่างน้อยวันละครั้งทุกวัน ร้อยละ 59.6 แปรงฟันก่อนนอนทุกวัน พบว่า การอาศัยอยู่ในเขตเทศบาล ความรู้สึกไม่เพียงพอกับรายได้ในแต่ละเดือน และการรับรู้ถึงความสำคัญของการแปรงฟันก่อนนอน เป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความสม่ำเสมอของการแปรงฟันก่อนนอนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05) การสนทนากลุ่ม 38 คน เป็นชาย 16 คนและหญิง 22 คน อายุเฉลี่ย 67.0 ปี กลุ่มที่แปรงฟันก่อนนอนสม่ำเสมอ 4 กลุ่ม เป็นชาย 4 คนและหญิง 13คน กลุ่มที่แปรงฟันก่อนนอนไม่สม่ำเสมอ 4 กลุ่ม เป็นชาย 12 คน หญิง 9 คน พบว่า ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการแปรงฟันก่อนนอนสม่ำเสมอ คือ การปลูกฝังในวัยเด็กจนเกิดเป็นความเคยชิน การได้รับข้อมูลข่าวสาร คำแนะนำจากทันตบุคลากร ครูและครอบครัว การเห็นประโยชน์ของการแปรงฟันก่อนนอน การให้ความสำคัญกับการลดกลิ่นปาก และการมีมุมมองที่ต่างกันต่อปัญหาในช่องปาก
Downloads
Article Details
เอกสารอ้างอิง
2. Petersen PE, Yamamoto T. Improving the oral health of older people:the approach of the WHO Global Oral Health Programme. Community Dent Oral Epidermiol 2005; 33: 81-92
3. Gershen JA. Geriatric Dentistry and Prevention:Research and Public Policy. Adv Dent Res 1991; 5: 69-73.
4. Asadoorian J. Tooth Brushing. CJDH 2006; 40(5).
5. William DM. Systematized prevention of oral disease: Theory and practice. 1986
6. Sonata V, Nagham K, Miira MV. Number of teeth in relation to oral health behavior in dentate elderly patients in Lithuania. Gerodontology 2005; 22: 44-51.
7. นุจรี เสวภา. ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับจำนวนฟันธรรมชาติและฟันที่เคี้ยวได้ของประชากรใน อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช. วิทยาสารทันตสาธารณสุข, 2551;58(3)
8. Schneyer LH, Pigman W, Hanahan L. Rate of flow of human parotid,sublingual, and submaxillary secretions during sleep. JDR 1956
9. Zubiene J, Mileiuviene S, Klumbiene J. Evaluation of dental care and the prevalence of tooth decay among middle-aged and elderly population of Kaunas city. Stomatologija 2009; 11(2).
10. Daniel, Wayne W: Biostatics A Foundations for Analyse in Health Science. 1995.
11. โยธิน แสวงดี. การสนทนากลุ่มใน:พิชิต พิทักษ์เทพสมบัติ, บรรณาธิการ. ปฏิบัติการเหนือตำรา การวิจัยทางสังคม. พิมพ์ครั้งที่ 4. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์เสมาธรรม; 2540. หน้า 65-76
12. Thurmond VA. The Point of Triangulation. Journal of Nursing Scholarship 2001; 33: 3, 253-258
13. Borreani E, Jones K, Scamber S, Gallagher JE. Informing the debate on oral health care for older people: a qualitative study of older people’s views on oral health and oral health care. Gerodontology 2010; 27: 11-18
14. Tickle M, Craven R, Worthington HV. A Comparison of the subjective oral health status of older adults from deprived and affluent communities. Community Dent Oral Epidermiol 1997; 25: 217-22
15. Kwan SYL, Holmes MAM. An exploration of oral health beliefs and attitudes of Chinese in West Yorkshire: a qualitative investigation. Health Educ Res 1999; 14: 453-60.
16. Schou L, Eadie D. Qualitative study of oral health norms and behavior among elderly people in Scotland. Community Dent Health 1991; 8(1): 53-8
17. Maupome G, Borges A, Ramirez LE, Bonilla JDD. Perception of tooth loss and periodontal problems in an independent elderly population: Content-analysis of interview discourse. JCCG 1999; 14: 43-69
18. Lin HC, Wong MCM, Wang ZJ, Lo ECM. Oral health knowledge,attitudes and practices of Chinese adults. JDR 2001; 80(5): 1466-70.
19. Ettinger RL. Aging-A global Issue. JDR 1995; 74(3): 724-6
20. Green BM, Giddings LS, Buttle L, Tahana K. Older peoples’ perceptions of oral health: “it”s just not that simple’ IJDH 2009; 31-38
21. Slaughter A, Smith VJ, Taylor L. Progressing toward a more culturally competent approach to dental care for African American elders. Spec Care Dentist 2004; 24(6): 301-7
22. ธาราธร ดวงแก้ว , หิรัญญา เดชอุดม. งานวิจัยพฤติกรรมสุขภาพผู้สูงอายุ ต.โพรงมะเดื่อ อ.เมือง จ.นครปฐม[วิทยานิพนธ์ปริญญาวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต].นครปฐม: มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม; 2550.
23. ปิยะนุช แก้วเรือง, อันฟามร์ ศิริโต. ความสัมพันธ์ระหว่างความเชื่อด้านสุขภาพกับพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้สูงอายุในชมรมดอกลำดวน ตำบลคูบัว อ.เมือง จ.ราชบุรี. [วิทยานิพนธ์ปริญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต].นครปฐม: มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม; 2550.
24. แบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพ [อินเทอร์เน็ต]. [เข้าถึงเมื่อ 15 มี.ค.2556]: เข้าถึงได้จาก: http://www.gotoknow.org/posts/115420
25. วีรสิทธิ์ สิทธิไตรย์. การวิจัยเชิงปริมาณและการวิจัยเชิงคุณสมบัติ.ใน: พิชิต พิทักษ์เทพสมบัติ, บรรณาธิการ. ปฏิบัติการเหนือตำรา การวิจัยทางสังคม. พิมพ์ครั้งที่ 4. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์เสมาธรรม; 2540. หน้า 46-56
26. ทวีศักดิ์ นพเกษร. การผสมผสานการวิจัยเชิงคุณภาพกับการวิจัยเชิงปริมาณ. [อินเทอร์เน็ต]. [เข้าถึงเมื่อ 18 มี.ค.2556] : เข้าถึงได้จาก: http:// rlc.nrct.go.th/ewt_dl.php?nid=744