การส่งเสริมทันตสุขภาพในโรงเรียนด้วยรูปแบบการสร้างเครือข่าย : กรณีศึกษาจังหวัดฉะเชิงเทราและสระแก้ว
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
เครือข่ายโรงเรียนเด็กไทยฟันดีภาคตะวันออกเป็นโครงการที่ส่งเสริมให้โรงเรียนพัฒนากระบวนการส่งเสริมทันตสุขภาพการศึกษามีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษากระบวนการส่งเสริมทันตสุขภาพของโรงเรียนและผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นกับนักเรียน ก่อน ระหว่าง และหลังดำเนินโครงการดำเนินการในโรงเรียนประถมศึกษา 12 โรงเรียนในจังหวัดฉะเชิงเทราและสระแก้ว สุ่มเลือกเครือข่ายละ 2 โรงเรียน จังหวัดละ 3 เครือข่าย ประเมินกระบวนการโดยการสังเกต สัมภาษณ์ ตรวจสอบเอกสารการดำเนินงาน ประเมินผลลัพธ์ตรวจสุขภาพช่องปาก อนามัยช่องปาก และสัมภาษณ์พฤติกรรมทันตสุขภาพนักเรียน ผลการศึกษาพบว่า กระบวนการ การกำหนดนโยบายการส่งเสริมทันตสุขภาพในโรงเรียน การบูรณาการเรื่องทันตสุขภาพในหลักสูตรการเรียนการสอน การควบคุมอาหารเสี่ยงต่อการเกิดฟันผุในโรงเรียน และการควบคุมปริมาณคราบจุลินทรีย์ในช่องปากนักเรียน เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ด้านผลลัพธ์มีเพียงนักเรียนประถมศึกษาปีที่ 6 แปรงฟันก่อนนอนเพิ่มขึ้น และบริโภคลูกอม ท็อฟฟี่ อมยิ้มลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
Downloads
Article Details
เอกสารอ้างอิง
2. ขนิษฐ์รัตนรังสิมา, ปิยะดา ประเสริฐสม และวรรณภา ศรีทอง. สภาวะสุขภาพช่องปากเด็กประถมศึกษาและปัจจัยที่เกี่ยวข้องจากระบบเฝ้าระวังทันตสุขภาพ ระหว่างปี 2548 – 2553. ว.ทันต.สธ. 2554; 16(1), 17 – 32.
3. รุจเรขา วิทยาวุฑฒิกุล และน้ำทิพย์ วิภาวิน. การวิเคราะห์เครือข่ายทางสังคม กับงานวิจัยทางสารสนเทศศาสตร์. วารสารบรรณศาสตร์ มศว. 2555; 5(2), 126 – 140.
4. เกษม นครเขตต์. เอกสารวิชาการ แนวคิดและทฤษฎีเครือข่ายทางสังคม. วันที่ 21 มีนาคม 2555. [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มาhttp://www.thaindc.org/images/column_1325143518/Social%20 Network % 20Theory %20Dr_Kasem.pdf.
5. Fejeskov O. Changing paradigms in concepts on dental caries : consequences for oral health care. Caries Res 2004; 38, 182 – 191.
6. Thomson WM and Mackay TD. Child dental caries patterns described using a combination of area-based and household-based socio-economic status measures. Community Dental Health 2004 ; 21, 285 – 290.
7. Chankanka O, Marshall TA, Levy SM, Cavanaugh JE, Warren JJ, Broffitt B, et al. Mixed dentition cavitatedcaries incidence and dietary intake frequencies. Pediatr Dent. 2011 May-Jun;33(3):233-40.
8. Guido JA, Martinez Mier EA, Soto A, Eggertsson H, Sanders BJ, Jones JE, et al.Caries prevalence and its association with brushing habits, water availability, and the intake of sugared beverages.Int J Paediatr Dent. 2011 Nov;21(6):432-40. Epub 2011 Jul 1.
9. Pradhan D, Jain D, Gulati A, Kolhe SJ, Baad R, Rao BS. Effect of the Presence of Dental Plaque on Oral Sugar Clearance and Salivary pH: An in vivo Study.J Contemp Dent Pract. 2012 Nov 1;13(6):753-5.
10. รวี เถียรไพศาล. แบคทีเรียและโรคติดเชื้อที่พบบ่อยในช่องปาก. พิมพ์ครั้งที่ 1, ไอคิว มีเดีย: สงขลา, 2552.
11. Moslehzadeh K. Oral hygiene index (Greene and Vermilion, 1960) (25 Mar 2013) Online Available from : http://http://www.mah.se/CAPP/Methods-and-Indices/Oral-Hygiene-Indices /Oral-Hygiene-Index-Greene-and-Vermilion-1960-/
12. Maltz M, Jardim JJ, Alves LS. Health promotion and dental caries.Braz Oral Res. 2010;24Suppl 1:18-25.
13. Jodkowska E. Efficacy of pit and fissure sealing: long-term clinical observations. Quintessence Int. 2008 Jul-Aug;39(7):593-602.
14. ClaydonNC.Current concepts in toothbrushing and interdental cleaning.Periodontol 2000. 2008;48:10-22.
15. Jaghasi I, Hatahet W, DashashM.Dietary patterns and oral health in schoolchildren from Damascus, Syrian Arab Republic. East Mediterr Health J. 2012 Apr;18(4):358-64.
