สภาวะช่องปากและพฤติกรรมทันตสุขภาพของเด็กนักเรียนกลุ่มอายุ 12 ปี ในโรงเรียนประถมศึกษา จังหวัดหนองคาย ประจำปี 2553

บทคัดย่อ

การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจความชุกของโรคฟันผุ  สภาวะปริทันต์  ฟันตกกระ  และพฤติกรรมทันตสุขภาพ  โดยการศึกษาแบบภาคตัดขวางที่ดำเนินการในช่วงระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงเดือนสิงหาคมปีพ.ศ. 2553  คัดเลือกกลุ่มตัวอย่างได้โรงเรียนประถมศึกษา 24 แห่งโดยวิธี Sampling with Probability Proportional to size (PPS) กลุ่มตัวอย่างประกอบด้วยเด็กนักเรียนอายุ 12 ปีจำนวน 672 คน โดยเป็นหญิง 342 คน เป็นชาย 330 คน  ใช้แบบสอบถามและแบบตรวจสุขภาพช่องปากในการสัมภาษณ์และตรวจโดยทันตบุคลากร  ใช้สถิติไคสแควร์ในการทดสอบหาความสัมพันธ์ทางสถิติ  ผลการศึกษาพบว่า เด็กอายุ 12 ปีมีสภาวะปราศจากฟันแท้ผุร้อยละ 41.96  ค่าเฉลี่ย DMFT 1.53 ซี่ต่อคน มีฟันตกกระร้อยละ 3.57 เด็กนักเรียนมีสภาวะเหงือกปกติร้อยละ 50.45  เมื่อพิจารณาถึงพฤติกรรมเสี่ยงของเด็กพบว่า  เด็กจำนวนร้อยละ 66.96 ดื่มน้ำอัดลมอย่างน้อยที่สุด 1 วันต่อสัปดาห์และเฉลี่ยดื่มน้ำอัดลม 1.45 วันต่อสัปดาห์  เด็กบริโภคขนมมากกว่า 3 วันต่อสัปดาห์ร้อยละ 11.46  ในช่วงที่อยู่โรงเรียนเด็กได้เงินมาโรงเรียนเฉลี่ยวันละ 15.10 บาท  ใช้ซื้อขนมเฉลี่ยวันละ 9.18 บาท  ขณะในช่วงวันหยุด เสาร์ อาทิตย์ เด็กใช้เงินซื้อขนมเพิ่มขึ้นเฉลี่ยวันละ 9.95 บาท  จากข้อมูลแสดงให้เห็นว่าเด็กแปรงฟันหลังอาหารกลางวันร้อยละ 29.36  ขณะที่แปรงฟันก่อนเข้านอนร้อยละ 60.36  จากการทดสอบสถิติไคสแควร์พบความสัมพันธ์ระหว่างการดื่มน้ำอัดลมและโรคฟันผุที่ระดับนัยสำคัญ 0.001 (P-value < 0.05) และพบความสัมพันธ์ระหว่างเพศและสภาวะการเกิดโรคฟันที่ระดับนัยสำคัญ 0.016 (P-value < 0.05) โดยที่เพศหญิงมีโรคฟันผุมากกว่าเพศชาย