อิทธิพลของการฝึกจิตและทักษะแก่มารดาที่มีต่อพฤติกรรมการดูแลทันตสุขภาพของบุตรก่อนวัยเรียน

Main Article Content

วรวรรณ อัศวกุล

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงทดลองเชิงประเมิน (Experimental-Evaluative Study) มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาอิทธิพลของการฝึกอบรมจิตและทักษะที่มีต่อพฤติกรรมมารดาในการดูแลทันตสุขภาพบุตรก่อนวัยเรียน สำหรับชุดฝึกอบประกอบด้วยชุดฝึกลักษณะมุ่งอนาคต-ควบคุมตน ชุดฝึกความเชื่ออำนาจในตนฯและชุดฝึกทักษะทางการดูแลทันตสุขภาพบุตร มีการวัดผลก่อนฝึกอบรม หลังฝึกอบรมทันทีและหลังฝึกอบรม 3 เดือน ด้วยแบบวัดตัวแปรต่างๆ รวม 16 ฉบับ ในการวิจัยนี้ใช้การเลือกกลุ่มตัวอย่างโดยการจับฉลากจากผู้ที่ตอบรับและสมัครเข้ามาเข้ารับการฝึกอบรม กลุ่มตัวอย่างเป็นมารดาที่มีบุตร 4-5 ปี อยู่กับคู่สมรสและเลี้ยงบุตรด้วยตนเองจำนวน 322 คน การวิเคราะห์ข้อมูลใช้การวิเคราะห์อิทธิพล (Path Analysis) โดยใช้โปรแกรม LISREL 8.25 ผลการวิจัยที่สำคัญพบว่าโมเดลเริ่มต้นความสัมพันธ์เชิงเหตุของพฤติกรรมการดูแลทันตสุขภาพบุตร 3 ด้าน (วัดหลังฝึกอบรม 3 เดือน) เป็นโมเดลที่มีความกลมกลืนกับข้อมูลเชิงประจักษ์ของกลุ่มมารดา 322 คน สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรต่างๆ ในโมเดล พบว่าตัวแปรในกลุ่มวิธีการฝึกอบรมส่งผลทางตรงต่อจิตลักษณะซึ่งวัดทันทีหลังฝึกอบรม มีค่าสัมประสิทธิ์อิทธิพล .43 และส่งผลทางตรงต่อจิตลักษณะซึ่งวัดหลังอบรม 3 เดือน มีค่าสัมประสิทธิ์อิทธิพล .79 นอกจากนี้ พบว่าจิตลักษณะซึ่งวัดทันทีหลังฝึกอบรมก็ส่งผลทางตรงต่อพฤติกรรมการดูแลทันตสุขภาพบทอีกทอดหนึ่ง มีค่าสัมประสิทธิ์อิทธิพล .59 และยังพบว่าจิตลักษณะซึ่งวัดหลังอบรม 3 เดือนและพฤติกรรมการดูแลทันตสุขภาพก็มีความสัมพันธ์ทางบวกต่อกัน

Downloads

Download data is not yet available.

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
1.
อัศวกุล ว. อิทธิพลของการฝึกจิตและทักษะแก่มารดาที่มีต่อพฤติกรรมการดูแลทันตสุขภาพของบุตรก่อนวัยเรียน. Th Dent PH J [อินเทอร์เน็ต]. 30 มิถุนายน 2012 [อ้างถึง 29 ธันวาคม 2025];17(1):35-49. available at: https://he02.tci-thaijo.org/index.php/ThDPHJo/article/view/178188
ประเภทบทความ
นิพนธ์ต้นฉบับ

เอกสารอ้างอิง

1. กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข. รายงานผลการสํารวจสภาวะ สุขภาพช่องปากระดับประเทศ ครั้งที่ 6 ประเทศไทย พ.ศ. 2549-2550. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์สํานักกิจการทหารผ่านศึก; 2551.

2. อังคณา เธียรมนตรี, สุณิสา วงศ์แสนใหม่, จรัญญา หุ่นศรีสกุล และศุลิมาน (นฤมล) วงศ์สุภาพ. กระบวนการเลี้ยงดูที่สัมพันธ์กับสุขภาพช่องปากเด็กอายุ 0-3 ขวบ : กรณีศึกษาในชุมชนไทยพุทธและไทยมุสลิมแห่งหนึ่ง อําเภอเทพา จังหวัดสงขลา, วิทยาสารทันตแพทยศาสตร์ 2552 ; 59 :233 - 43.

3. Huntington N.L., Kim I.J. & Hughes C.V. Caries-risk factors for Hispanic children affected by early childhood caries. Pediatr Dent 2002 ; 24: 536-42.

4. Ohsuka K., N. Chino. et al. (2009). Analysis of risk factors for dental caries in infants: a comparison between urban and rural areas. Environ Health Prev Med 14(2): 103-1

5. Wiennhall I, Matsson L, Schrader U. & Twetman S. Caries prevalence in 3-year-old children living in a low socio-economic multicultural urban area in southern Sweden. Swed Dent I 2002; 26 : 167-72.

6. Du M., Bian Z., Guo L., Holt R., Champion J. & Bedi R. Caries pattern and their relationship to infant feeding and socio-economic status in 2-4-yearold Chinese children. Int Dent J 2000; 50 : 385-9.

7. Al-Malik M.I., Holt R.D. & Bedi R. The relationship between erosion, caries and rampant caries and dietary habits in preschool children in Saudi Arabia. Int Dent J 2001; 11: 430-9.

8. Rajab L.D. & Hamdan M.A. Early childhood caries and risk factors in Jordan. Community Dent Health 2002; 19:224-9.

9. Thitasomakul S. Dental Caries, Oral hygiene and Dietary Habits, Aarhus : The University of Aarhus, Faculty of Health Sciences; 2000.

10. จุไรรัตน์ คุณะไชยโชติ และอุบลวรรณ ธีระพิบูลย์, ความสัมพันธ์ระหว่างวินัยของพ่อแม่กับการเกิดฟันผุของลูก. วิทยาสารทันตแพทยศาสตร์ 2550 : 57:265 – 74.

11. Skeie M.S., Raadal M., Strand G.V. & Espelid L. The relationship between caries in the primary dentition at 5 years of age and permanent dentition at 10 years of age - a longitudinal study. Int J Pediatr Dent 2006; 16: 152-60

12. Acs G., Lododini G., Kaminski S. & Cisneros G.J. Effect of nursing caries on body weight in a pediatric population. Pediatr Dent 1992 ; 14:302-5.

13. Tinanoff N., Kanellis M.J. & Vargas C.M. Current understanding of the epidemiology, mechanism and prevention of dental caries in preschool children. Pediatr Dent 2002: 24: 543-51.

14. วรวรรณ อัศวกุล, รัชนี ลิ้มสวัสดิ์, สุมาลี อรุณรัตนดิลก, พรรณี ผานิดานันท์ และจิระนันท์ พากเพียร.ปัจจัยทางจิตสังคมที่เกี่ยวกับพฤติกรรมของมารดาในการดูแลทันตสุขภาพแก่บุตรก่อนวัยเรียน, รายงานการวิจัยฉบับสมบูรณ์ทุนอุดหนุนการวิจัย ประเภทการวิจัยและพัฒนาระบบพฤติกรรมไทย สํานักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ: (วช.) : 2546.

15. ปิยะนุช ดวงกางใต้, ปัจจัยทางจิตสังคมที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมมารดา ในการดูแลการบริโภคอาหารแก่บุตรก่อนวัยเรียน. ภาคนิพนธ์ ปริญญามหาบัณฑิต สถาบันบัณฑิตพัฒนาบริหารศาสตร์; 2551.

16. สกล เที่ยงแท้ และสุมิตรา เจิมพันธ์, ผลการฝึกจิต-พฤติกรรมแบบบูรณาการต่อพฤติกรรมการขับขี่อย่างปลอดภัยของ นักเรียนวัยรุ่นตอนต้น. รายงานการวิจัยฉบับสมบูรณ์ทุนอุดหนุนการวิจัยประเภทการวิจัยและพัฒนาระบบพฤติกรรมไทย สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ; 2546.

17. บุญรับ ศักดิ์มณี. การเสริมสร้างจิตลักษณะเพื่อพัฒนาพฤติกรรมการทำงานราชการ ปริญญานิพนธ์การศึกษาดุษฎีบัณฑิต สาขา พัฒนศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, 2532.

18. เมธินี คุปพิทยานันท์, ประสิทธิผลของการ ไทย สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติฝึกอบรมทางจิตพฤติกรรมศาสตร์เพื่อปลูก (วช.) ; 2546. ฝังและพัฒนาพฤติกรรมทันตสุขภาพเด็ก

19. พิสมัย วิบูลย์สวัสดิ์, นิภา วินิจ, พรพิมล วรวุฒิพุทธพงศ์, สงคราม เชาวน์ศิลป์ และพิมพ์ชนก เครือสุคนธ์.ผลของการฝึกจิต ลักษณะและทักษะการพัฒนาเพื่อนต่อการช่วยเพื่อนป้องกันความเสี่ยงต่อโรคเอดส์ในนักศึกษาชายระดับอุดมศึกษา รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ ทุนอุดหนุนการวิจัย ประเภทการวิจัยและพัฒนาระบบพฤติกรรมไทยสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ; 2547.

20. เกรียงศักดิ์ ไชยยา การสอนสุขศึกษาโดยใช้วิธีการเรียนรู้จากปัญหาในการป้องกันโรคเอดส์ของนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคระนอง กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยมหิดล : 2534

21. เรณุมาศ มาอุ่น, เจิดหล้า สุนทรวิภาต และ (วช.) : และกุลยา ตันติผลาชีวะ, ประสิทธิผลของการฝึกอบรมทางจิตพฤติกรรมศาสตร์เพื่อเสริมสร้างพฤติกรรมการป้องกันโรคเอดส์ในนิสิต นักศึกษาชายในมหาวิทยาลัย. รายงานการวิจัยฉบับสมบูรณ์ ทุนอุดหนุนการวิจัยประเภทการวิจัยและพัฒนาระบบพฤติกรรมไทย สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ; 2546.