การประเมินผลโครงการส่งเสริมทันตสุขภาพและป้องกันโรคด้านทันตกรรมสำหรับเด็กภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า "ยิ้มสดใส เด็กไทยฟันดี" ปีการศึกษา 2548-2550

Main Article Content

วราภรณ์ จิระพงษา
ปิยะดา ประเสริฐสม

บทคัดย่อ

 โครงการส่งเสริมทันตสุขภาพและป้องกันโรคด้านทันตกรรมสำหรับเด็ก ภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า “ยิ้ม สดใส เด็กไทยฟันดี” ปีการศึกษา 2548-2550 เป็นโครงการที่กรมอนามัยโดยกองทันตสาธารณสุข ดำเนินการในลักษณะ Program ด้วยการสนับสนุนงบประมาณจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) การประเมินผลโครงการในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อสรุปบทเรียนการดำเนินงานโครงการสำหรับการดำเนินโครงการในลักษณะ Vertical Program โดย วิเคราะห์และสรุปผลจากรายงานประจำเดือน เอกสารสรุปผลการดำเนินงานรายปีของจังหวัดและเขต การประชุมผู้ประสาน งานโครงการ และการนิเทศติดตาม ผลการศึกษา พบว่า การบริหารจัดการโครงการในลักษณะของ Vertical Program ทำให้ มีความชัดเจน ทั้งเป้าหมายระบบสนับสนุน ตลอดจนระบบรายงาน และการประเมินผล ทำให้เกิดการปรับปรุงระบบการทำงาน มีการควบคุมตรวจสอบงานทั้งระบบของจังหวัดได้ เงื่อนไขสำคัญที่ทำให้เกิดความสำเร็จคือ การจัดทำข้อตกลงการดำเนิน งานระหว่างนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกับอธิบดีกรมอนามัยทำให้ผู้บริหารหน่วยงานมีความผูกพันในผลสำเร็จของโครงการ และการแต่งตั้งผู้ประสานงานโครงการระดับจังหวัด เขต และประเทศ โดยมีบทบาทหน้าที่ที่ชัดเจนและมีการติดต่อประสาน งานอย่างเป็นระบบโครงการสามารถดำเนินการบรรลุเป้าหมายในช่วง 2 ปีแรก โดยการให้บริการตรวจสุขภาพช่องปากและ ลงบันทึกแก่เด็กประถมศึกษาปีที่ 1 และ 3 การเคลือบหลุมร่องฟันแก่เด็กประถมศึกษาปีที่ 1 และการแปรงฟันหลังอาหาร กลางวันในโรงเรียน ผ่านเกณฑ์ประเมิน แต่บริการตรวจฟันและเคลือบหลุมร่องฟันลดลงอย่างชัดเจนในปีที่ 3 ซึ่งมีการปรับ เปลี่ยนระบบบริหารจัดการการเงิน อย่างไรก็ตาม โครงการก่อให้เกิดผลลัพธ์ในการพัฒนาระบบบริการทันตสุขภาพในจังหวัด 4 ด้าน ได้แก่ การพัฒนาระบบข้อมูลเพื่อการจัดบริการ การพัฒนาทักษะผู้ปฏิบัติงาน การพัฒนากลไกกำกับคุณภาพบริการ และการเสริมสร้างความเข้มแข็งของเครือข่ายทันตสาธารณสุข และก่อให้เกิดผลกระทบโดยผลการตรวจสุขภาพช่องปากเด็ก ประถมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2550 พบว่า เด็กกลุ่มที่ได้รับการเคลือบหลุมร่องฟันมีประสบการณ์ฟันกรามแท้ซี่ที่หนึ่ง เพียงครึ่งหนึ่งของเด็กกลุ่มที่ไม่ได้รับบริการโครงการ “ยิ้มสดใส เด็กไทยฟันดี” เป็นแบบอย่างที่ดีของการดำเนินงานโครงการ ในลักษณะ Vertical Program ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยให้เด็กได้รับบริการตรวจสุขภาพช่องปากและเคลือบหลุมร่องฟันเพื่อ เป็นการป้องกันโรคฟันผุ แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาระบบบริการทันตสุขภาพผสมผสานสำหรับเด็กวัยเรียน แนวทาง การดำเนินงานในอนาคตคือ การพัฒนาให้เชื่อมโยงกับการบริการทันตกรรมตามระบบปกติ และการดำเนินกิจกรรมส่งเสริม ทันตสุขภาพในโรงเรียน

Downloads

Download data is not yet available.

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
1.
จิระพงษา ว, ประเสริฐสม ป. การประเมินผลโครงการส่งเสริมทันตสุขภาพและป้องกันโรคด้านทันตกรรมสำหรับเด็กภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า "ยิ้มสดใส เด็กไทยฟันดี" ปีการศึกษา 2548-2550. Th Dent PH J [อินเทอร์เน็ต]. 31 ธันวาคม 2008 [อ้างถึง 30 ธันวาคม 2025];13(5):85-96. available at: https://he02.tci-thaijo.org/index.php/ThDPHJo/article/view/179411
ประเภทบทความ
นิพนธ์ต้นฉบับ

เอกสารอ้างอิง

1. จันทนา อึ้งชูศักดิ์, ปิยะดา ประเสริฐสม และ ยุพิน ส่งไพศาล, รายงานผลการสํารวจทันตสุขภาพ แห่งชาติ ครั้งที่ 3 ประเทศไทย 2532 2534 กรุงเทพมหานคร: องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก
2. ศรีสุดา ลีละศิธร และคณะ รายงานผลการสํารวจสภาวะทันตสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 5 พ.ศ. 2543-2544 2545, กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์สามเจริญพาณิชย์,
3. สํานักส่งเสริมสุขภาพ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข, เกณฑ์มาตรฐานการประเมิน โรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ สําหรับโรงเรียน ประถมศึกษาและมัธยมศึกษา ฉบับปรับปรุง 2548 2548, นนทบุรี: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.
4. วราภรณ์ จิระพงษา และคณะ โครงการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคด้านทันตกรรมสําหรับเด็ก “ยิ้มสดใส เด็กไทยฟันดี” คู่มือดําเนินงาน โครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า, 2548, กรุงเทพมหานคร: ออลพริ้นซ้อพ.
5. สํานักสถิติพยากรณ์, การสํารวจอนามยและสวัสดิการ พ.ศ. 2549 The 2006 Health and Welfare Survey. 2549, กรุงเทพมหานคร สํานักงานสถิติแห่งชาติ,
6. ปริญญา คงทวีเลิศ, การยึดติดแน่นของสารเคลือบหลุมร่องฟันในฟันกรามแท้ซี่ที่ 1 ใน ระยะเวลา 2 ปี โดยเจ้าพนักงานทันตสาธารณสุข ภายใต้โครงการยิ้มสดใส เด็กไทยฟันดี (พ.ศ. 2548-2549) จ.สุโขทัย, ว. ทันต. สธ. 2550 12(3): p. 86-96.
7. เดชา ธรรมธาดาวิวัฒน์, ประสิทธิผลของโครงการเคลือบหลุมร่องฟันในเด็กนักเรียน ประถมศึกษาปีที่ 1 อําเภอชะอํา จังหวัดเพชรบุรี, ว. ทันต. สธ., 2551. 13 (1): p.25-36.
8. โคสิต อบสุวรรณ, ประสิทธิผลของงานเคลือบหลุมร่องฟันในโครงการยิ้มสดใสเด็กไทยฟันดี จังหวัดเชียงราย, ว. ทันต. สธ. 2551. 13(1):p. 52-62.
9. บานเย็น ศิริสกุลเวโรจน์ และ สุกัญญา เธียรวิวัฒน์, ความเสี่ยงของการเกิดฟันผุกับ การติดอยู่ของสารเคลือบหลุมร่องฟันของฟันที่ ได้รับการเคลือบหลุมร่องฟันในหน่วยทันตกรรมเคลื่อนที่. ว. ทันต. สธ. 2551. 13 (1): p.131-140.
10. ศุภนิจ ชาญวานิชพร, ผลการยึดติดของการเคลือบหลุมร่องฟันในเด็กชั้นประถมศึกษา ปีที่ 3 ภายหลังการเคลือบหลุมร่องฟัน 3 ปี จังหวัดระนอง ปี 2550. ว. ทันต. สธ., 2551 13(1): p. 63-71.
11. Simonsen RJ., Pit and fissure sealant: review of the literature. Pediatr Dent, 2002. 24(5): p. 393-414.
12. Beauchamp J, et al., Evidence-based clinical recommendations for the use of pit-and-fissure sealants: a report of the American Dental Association Council on Scientific Affairs. J Am Dent Assoc, 2008. 139(3): p. 257-68.
13. Ahovuo-Saloranta A, et al., Pit and fissure sealants for preventing dental decay in the permanent teeth of children and adolescents. Cochrane Database Syst Rev, 2008. 8(4): p. CD001830.
14. ปิยะดา ประเสริฐสม และ ขนิษฐ์ รัตนรังสิมา, รายงานผลการสํารวจสภาวะทันตสุขภาพ แห่งชาติ ครั้งที่ 4 พ.ศ. 2537 ประเทศไทย 2538, กรุงเทพมหานคร: กองทันตสาธารณสุข กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
15. ปิยะดา ประเสริฐสม และ ขนิษฐ์ รัตนรังสิมา, รายงานผลการสํารวจ สภาวะสุขภาพช่องปาก ระดับประเทศ ครั้งที่ 6 ประเทศไทย พ.ศ. 2549-2550, 2551, กรุงเทพมหานคร: สํานักกิจการองค์การทหารผ่านศึก
16. สุณี วงศ์คงคาเทพ และคณะ การประเมินผลการจัดบริการสุขภาพช่องปากตามชุดสิทธิประโยชน์ ทันตกรรม ภายใต้โครงการหลักประกันสุขภาพ ถ้วนหน้า ปี 2547. วว. ทันต. สธ. 2548. 14 p. 840-54.
17. Kumar JV and Wadhawan S, Targeting dental sealants in school-based programs: evaluation of an approach. Community Dent Oral Epidemiol, 2002. 30 (3): p.210-5.