ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมสุขภาพช่องปากในเด็กนักเรียนประถมศึกษา อำเภอสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมสุขภาพช่องปากเด็กนักเรียนประถม ศึกษาชั้นปีที่ 4-6 ของอําเภอสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เดือนกรกฎาคม 2549 จํานวน 184 คน ใช้แบบสอบถามที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้น วิเคราะห์ข้อมูลโดยโปรแกรมคอมพิวเตอร์สําเร็จรูปด้วยสถิติ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สันและวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ ผลการศึกษา พบว่าพฤติกรรมสุขภาพช่องปากเด็กนักเรียนอยู่ในระดับดี รายได้ครอบครัวและการศึกษาของผู้ปกครอง ไม่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมสุขภาพช่องปากโดยรวม (p> 0.05) การเป็นแบบอย่างของผู้ปกครอง การได้รับ การสนับสนุนทางสังคม มีความสัมพันธ์ทางบวกกับพฤติกรรมสุขภาพช่องปากโดยรวม (r = 0.655 และ 0.54, p < 0.05 ตามลําดับ) ปัจจัยการรับรู้ประโยชน์ของการปฏิบัติพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพ มีความสัมพันธ์ทาง บวกกับพฤติกรรมสุขภาพ (r = 0.285, p < 0.05) และปัจจัยการเป็นแบบอย่างของผู้ปกครอง การได้รับการ สนับสนุนทางสังคม การศึกษาของผู้ปกครองและการรับรู้ประโยชน์ของการปฏิบัติพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพได้ สามารถร่วมทํานายพฤติกรรมสุขภาพช่องปากได้ร้อยละ51.8 อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 มีสมการ การทํานายดังนี้
Ż (DHB) = 0.495 (Model) + 0.275 (Social support) + 0.110 (Education) + 0.113 (Benefits)
Downloads
Article Details
เอกสารอ้างอิง
2. โรงพยาบาลสามร้อยยอด สํานักงานสาธารณสุข จังหวัดประจวบคีรีขันธ์, สรุปผลการปฏิบัติงาน ประจําปี 2544
3. งานทันตสาธารณสุข สํานักงานสาธารณสุข จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ผลการดําเนินงานโครงการสํารวจโรค ฟันผุในเด็กอายุ 3 ปี2547.
4. ระพีภัทร์ ไชยยอดวงษ์, ปัจจัยด้านครอบครัวที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมทันตสุขภาพของเด็กวัยเรียน, 2544
5. กองทันตสาธารณสุข กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข รายงานผลการสํารวจสภาวะ ทันตสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 4 กรุงเทพมหานคร 2537.
6. โสภา ชื่นชูจิตต์, พฤติกรรมทันตสุขภาพของนักเรียนประถมศึกษาปีที่ 6 ในโรงเรียนสาธิต วิชาการของศูนย์ส่งเสริมสุขภาพเขต 3 ชลบุรี 2541. ระยะเวลานาน
7. พอเพ็ญ ไกรนก. ความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมทันตสุขภาพของมารดาต่อสถานภาพโรคฟันผุ 2532.
8. Pender, N.J. (1996). Health promotion in nursing practice. 3rd ed; Connecticut, U.S.A: Appleton & Lange.
9. ศิริลักษณ์ สุวรรณวงศ์. ทฤษฎีและเทคนิค การลุ่มตัวอย่าง, กรุงเทพฯ. 2538
10. บุญใจ ศรีสถิตนรากูร, ระเบียบวิธีการวิจัยทางพยาบาลศาสตร์, พิมครั้งที่ 2 กรุงเทพฯ 2545
11. วิกุล วิสาลเสสถ์, การดูแลทันตสุขภาพของผู้ปกครองที่มีต่อนักเรียนชั้นประถมศึกษาตอนต้น โรงเรียน อนุบาลเชียงใหม่, 2534.
12. ปิยะรัตน์ พลพงศ์, ประสิทธิผลของโปรแกรมทันตสุขศึกษาร่วมกับแรงสนับสนุนทางสังคม จาก ครูและ ผู้ปกครองต่อพฤติกรรมการแปรงฟัน ของนักเรียนชั้น ป.1 สังกัดกรุงเทพมหานคร 2539
13. รําพึง ษรบัณฑิต. ประสิทธิผลของโปรแกรมสุขศึกษาในพฤติกรรมการป้องกันโรคฟันผุ และโรคเหงือกอักเสบของนักเรียนประถม ศึกษาปีที่ 6 อําเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก 2536.
14. สันติ บุญช่วย ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อภาวะทันตสุขภาพของนักเรียนประถมปลาย อําเภอเกาะพงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี, 2539.
15. Pender. N.J., Murdaugh, C.L., & parsons, MA. (2002). Health promotion in nursing practice. 4th ed; Connecticut, Appleton & Lange.
16. สดุดี ภูห้องไทย. ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น, 2541.
17. จิตรา จันชนะ, การศึกษาพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพของผู้สูงอายุโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง 2541.
18. เยาวลักษณ์ ตรีธัญญาทรัพย์, การประยุกต์ความสามารถตนเองในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ป้องกันด้าน ทันตสุขภาพของนักเรียนมัธยม ศึกษาตอนต้น อําเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี 2538.