การศึกษาเปรียบเทียบประสิทธิภาพของแปรงสีฟันซิสเท็มมาและแปรงสีฟันรุ่น Tooth & Gum Care กับแปรงสีฟันกรมอนามัย

Main Article Content

วิกุล วิสาลเสสถ์
นนทินี ตั้งเจริญดี
เพ็ญแข ลาภยิ่ง
มัลลิกา ตัณฑลเวศม์
สุวิภา อนันต์ธนสวัสดิ์

บทคัดย่อ

การศึกษานี้เป็นการเปรียบเทียบความสามารถในการกําจัดคราบจุลินทรีย์ระหว่างแปรงสีฟัน ซิสเท็มมาที่มีขนแปรงปลายเรียวแหลม และแปรงสีฟันรชรุ่น Tooth & Gum Care ที่มีขนแปรงแตก ปลายแบบขนนก กับแปรงสีฟันกรมอนามัยที่มีปลายขนแปรงมนกลม กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียน พยาบาลที่มีสุขภาพช่องปากดีจํานวน 90 คน แบ่งเป็น 3 กลุ่มเท่ากันโดยวิธีสุ่มอย่างง่าย แต่ละ กลุ่มใช้แปรงสีฟันที่กําหนดให้เป็นเวลา 30 วัน โดยแปรงฟันวันละ 2 ครั้ง ทําการประเมินในวันแรก วันที่ 15 และวันที่ 30 ของการใช้แปรงสีฟัน โดยนับจํานวนแผลในช่องปาก บันทึกดัชนีคราบจุลินทรีย์ และดัชนีเหงือกอักเสบ ก่อนและหลังการแปรงฟัน ผลการศึกษา พบว่าแปรงสีฟันทั้ง 3 ชนิดไม่ทํา อันตรายต่อเหงือกและเนื้อเยื่ออ่อนในช่องปาก สามารถกําจัดคราบจุลินทรีย์และลดเหงือกอักเสบลง ได้อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ (p <0.05 ) และไม่พบความแตกต่างในการกําจัดคราบจุลินทรีย์ ระหว่างแปรงสีฟัน 3 ชนิดที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้

Downloads

Download data is not yet available.

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
1.
วิสาลเสสถ์ ว, ตั้งเจริญดี น, ลาภยิ่ง เ, ตัณฑลเวศม์ ม, อนันต์ธนสวัสดิ์ ส. การศึกษาเปรียบเทียบประสิทธิภาพของแปรงสีฟันซิสเท็มมาและแปรงสีฟันรุ่น Tooth & Gum Care กับแปรงสีฟันกรมอนามัย. Th Dent PH J [อินเทอร์เน็ต]. 25 มิถุนายน 2001 [อ้างถึง 28 ธันวาคม 2025];6(1):7-16. available at: https://he02.tci-thaijo.org/index.php/ThDPHJo/article/view/213515
ประเภทบทความ
นิพนธ์ต้นฉบับ

เอกสารอ้างอิง

1. กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ประกาศกรมอนามัย เรื่อง มาตรฐานวิชาการแปรงสีฟัน ลงวันที่ 29 มิถุนายน 2542 2. กระทรวงอุตสาหกรรม มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม แปรงสีฟัน มอก. 42 - 2525 UDC 687.9:646.73 ISBN 974 - 8118-14-2.
3. American Dental Association: Acceptance Program Guidelines For Toothbrushes Council on Scientific Affairs Chicago. January 1996.
4. The standards association of Australia standard house. Australian Standard® Dental equipment – Tooth brushes. AS 1032 - 1985 UDC 687.972
5. Yankell, S.L., Tawil G, Green PA : Overnight plaque formation. J Prev Dent 1980 ; 6: 313 -315.
6. ชุติมา ไตรรัตน์วรกุล ภารณี เตชจิตอนันต์ วริษฐา ลิ้มบุญภิวัฒน์ การกําจัดคราบจุลินทรีย์แผลจากปลายขนแปรง และการกระแทกของแปรงสีฟัน 4 ชนิดในกลุ่มวัยรุ่นและผู้ใหญ่ ว.ทันต. จุฬาฯ พ.ศ. 2536 ; 16 ( 3 ) : 181-193.
7. Marten LV, Meskin LH : An innovative technique for assessing oral hygiene. J Dent Child 1972 ; 32: 12 - 14.
8. Loe H, Silness J : Periodontal disease in pregnancy: prevalence and Severity, Acta. Odont. 1963 ; 21: 535-551.
9. Danser MM, Timmerman MF, Ijzerman Y, Bulthuis H, van der Velden U, van der Weijden GA : Evaluation of the incidence of gingival abrasion as a result of toothbrushing. J Clin Periodontol 1998 ; 25 : 701 - 706.
10. Hotta M, Yoshida T, Sekine 1, Imada S, Sano A. Evaluation of tapered-end toothbrushes regarding subgingival access efficacy.J Clin Dent 1997;8(6):156-158.
11. Yankell SL, Shi X, Emling RC, Harris M. Laboratory evaluation of the Reach tooth & gum care toothbrush and three additional manual toothbrushes for subgingival access. J Clin Dent 1998;9 (1):1-4.
12. McDaniel TF, Miller DL, Jones RM, Davis MS, Russel CM. Effect of toothbrush design and brushing proficiency on plaque removal. Compend Contin Educ Dent 1997 ; 18 ( 6 ):572-577.