ความถี่ที่เหมาะสมในการใช้เม็ดสีย้อมคราบจุลินทรีย์เพื่อเพิ่มประสิทธิผลการแปรงฟันหลังอาหารกลางวันของนักเรียนประถมศึกษา

Main Article Content

ฉวีลักษณ์ บูรณารมย์

บทคัดย่อ

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความถี่ที่เหมาะสมในการใช้เม็ดสีย้อมคราบจุลินทรีย์ เพื่อ เพิ่มประสิทธิผลการแปรงฟันหลังอาหารกลางวันของเด็กนักเรียนประถมศึกษา


โดยใช้วิธีการศึกษาเชิงทดลองในเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จํานวน 127 คน อายุเฉลี่ย 9.5 ปี แบ่งนักเรียนเป็น 3 กลุ่มศึกษา ตามความถี่ของการใช้เม็ดสีย้อมคราบจุลินทรีย์ ได้แก่ กลุ่มศึกษา ที่ 1 (กลุ่มควบคุม) แปรงฟันโดยไม่ใช้เม็ดสี กลุ่มศึกษาที่ 2 แปรงฟันโดยใช้เม็ดสี 2 สัปดาห์/ครั้ง และ กลุ่มศึกษาที่ 3 แปรงฟันโดยใช้เม็ดสีสัปดาห์ละครั้ง ตรวจเหงือกอักเสบและคราบจุลินทรีย์ก่อนการศึกษา และหลังการศึกษา 1 เดือน โดยใช้ดัชนีเหงือกอักเสบ (Loe and Silness 1963) และดัชนีพีเอชพี (Patient Hygiene Performance ของ Podshadley and Haley 1968)


ผลการศึกษาพบว่า การแปรงฟันภายในกลุ่มทดลองทั้ง 2 กลุ่มซึ่งใช้เม็ดสีในความถี่ที่แตกต่างกัน มีประสิทธิผลเพิ่มขึ้นภายหลังการศึกษา โดยพบการลดลงอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ (p<0.05) ระหว่าง ดัชนีเหงือกอักเสบและดัชนีพีเอชพี่ก่อนและหลังการศึกษาของกลุ่มทดลองทั้ง 2 กลุ่ม แต่ไม่พบความ แตกต่างในกลุ่มควบคุม


การใช้เม็ดสีย้อมคราบจุลินทรีย์ในความถี่สัปดาห์ละครั้ง สามารถเพิ่มประสิทธิผลการแปรงฟันใน กลุ่มตัวอย่าง เมื่อเทียบกับการใช้เม็ดสี 2 สัปดาห์/ครั้งหรือไม่ใช้เลย แต่การศึกษาครั้งนี้ไม่พบความ แตกต่างอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติระหว่างการใช้เม็ดสี 2 สัปดาห์/ครั้งกับการไม่ใช้เม็ดสีเลย

Downloads

Download data is not yet available.

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
1.
บูรณารมย์ ฉ. ความถี่ที่เหมาะสมในการใช้เม็ดสีย้อมคราบจุลินทรีย์เพื่อเพิ่มประสิทธิผลการแปรงฟันหลังอาหารกลางวันของนักเรียนประถมศึกษา. Th Dent PH J [อินเทอร์เน็ต]. 28 มิถุนายน 1999 [อ้างถึง 27 ธันวาคม 2025];4(1):7-15. available at: https://he02.tci-thaijo.org/index.php/ThDPHJo/article/view/213944
ประเภทบทความ
นิพนธ์ต้นฉบับ

เอกสารอ้างอิง

1. Cohen D.W., and Other. A Comparison of bacterial plaque disclosants in periodontal disease. J. periodontol. 1972; 43 : 333
2. Barrickman RW, Penhall OJ Graphing indices reduces plaque. J. Am Dent Assoc. 1973; 87 : 1404-15
3. Bellini H.T, A nerud A, Moustafa MH. Disclosing wafers in an oral hygiene instruction programme. Odontologist Revy. 1974; 25 : 247-254
4. ฉวีลักษณ์ บูรณารมย์, การเพิ่มประสิทธิภาพในการทําความสะอาดฟัน ในเด็กนักเรียนประถมศึกษา วารสารแพทย์ เขต 4, 2541; 17: 160-169
5. Loe H, Silness J. Periodontal disease in pregnance. I. Prevalence and severity. Acta Odontol Scan. 1963; 21: 533
6. Loe H. The gingival index, the plaque index and the retention index system. J. Periodontol. 1967; 68 : 610
7. Podshadley AG, Haley JV. A method for evaluation oral hygiene performance. Public Health Dep. 1968; 83 : 259
8. Foder JT, Ziegler JE. A motivational study in dental health education. J. South Calif State Dent Assoc. 1966; 34 : 203-16
9. A.E.S.TAN, A.Bryan Wade. The role of visual feedback by a disclosing agent in plaque control. J.of Clinical Periodontology. 1980; 7: 146