สภาวะปริทันต์และความสัมพันธ์ระหว่างการมีหินน้ำลายกับเหงือกอักเสบของเด็กไทยอายุ 12 ปี

Main Article Content

สุวิน วิสุทธิสิน
จันทนา อึ้งชูศักดิ์

บทคัดย่อ

การศึกษานี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาถึงระบาดวิทยาของสภาวะปริทันต์ และความสัมพันธ์ของการมี หินน้ําลายกับการเกิดโรคเหงือกอักเสบในเด็กไทยอายุ 12 ปี โดยมีนิยามของโรคเหงือกอักเสบหมายถึงการมี เลือดออกภายหลังการสอดเครื่องมือตรวจปริทันต์ในร่องเหงือก ประชากรที่ศึกษาสุ่มตัวอย่างจากทุกภาคของ ประเทศไทยและกรุงเทพมหานคร จํานวน 2,801 คน การคัดเลือกตัวอย่างใช้วิธี Stratified multistage cluster sampling จํานวนตัวอย่างรายภาคเป็นสัดส่วนกับจํานวนประชากรในภาคนั้นๆ ดัชนีที่วัดใช้ Community Periodontal Index (CPI) ตรวจและบันทึกข้อมูลแต่ละตัวอย่างเป็น 6 เซกแต้นท์ ผลการศึกษาพบว่าใน จํานวนเซกแต้นท์ทั้งหมด 16,806 เซกแต้นท์ เป็นเซกแต้นท์ปกติ (รหัส 0) ร้อยละ 23.17 มีเหงือกอักเสบ (รหัส1) ร้อยละ 17.88 มีหินน้ําลาย (รหัส 2) ร้อยละ 58.22 เมื่อแยกเซกแต้นท์ที่มีหินน้ําลายออกเป็นกลุ่ม ที่มีเลือดออก (24) กับกลุ่มที่ไม่มีเลือดออก (2-) พบว่าภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคใต้มีสัดส่วนใกล้เคียง กัน ยกเว้นในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่พบสัดส่วนของเซกแต้นท์ที่มีหินน้ําลายและมีเลือดออกมากกว่าไม่มี เลือดออกอย่างมีนัยสําคัญ และตัวอย่างจากกรุงเทพมหานครมีเซกแต้นท์ที่มีหินนําโลายและไม่มีเลือดออก มากกว่ามีเลือดออกอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ (p<.05) การศึกษาครั้งนี้ยังพบว่าแต่ละตําแหน่งในช่องปากจะ มีเลือดออกซึ่งเป็นอาการของเหงือกอักเสบแตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ เมื่อวิเคราะห์ถึงความ สัมพันธ์ของการมีหินน้ําลายและการมีเลือดออก พบว่ามีความสัมพันธ์กันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ (p<.05) เมื่อวิเคราะห์ค่า Odds ratio พบว่าเซกแตนท์ที่มีหินน้ําลายจะมีโอกาสมีเลือดออกมากกว่า เซกแตนท์ที่ไม่มี หินน้ําลาย 1.64 เท่า แต่ไม่พบนัยสําคัญทางสถิติ จึงไม่อาจสรุปได้ว่าในประชากรที่ศึกษานี้ การมีหินน้ําลาย จะทําให้มีโอกาสเกิดเลือดออกซึ่งเป็นอาการของเหงือกอักเสบได้มากกว่าการไม่มีหินน้ําลาย

Downloads

Download data is not yet available.

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
1.
วิสุทธิสิน ส, อึ้งชูศักดิ์ จ. สภาวะปริทันต์และความสัมพันธ์ระหว่างการมีหินน้ำลายกับเหงือกอักเสบของเด็กไทยอายุ 12 ปี. Th Dent PH J [อินเทอร์เน็ต]. 30 มิถุนายน 1997 [อ้างถึง 28 ธันวาคม 2025];2(1):47-55. available at: https://he02.tci-thaijo.org/index.php/ThDPHJo/article/view/214484
ประเภทบทความ
นิพนธ์ต้นฉบับ

เอกสารอ้างอิง

1. Barmes DE. Prevalence of Periodontal Disease, in Public Health Aspects of Periodontal Disease. Asger Frandsen. Quintessence Publishing Co. Inc. 1984.
2. Pilot T, Barmes DE, Leclercq MH, McCombie BJ, Sardo Infirri J : Perio dontal conditions in adolescents, 15-19 years of age : an overview of CPITN data in the WHO Global Oral Data Bank. Community Dent Oral Epidemiol 1987 ; 15 : 336- 8.
3. เรวดี ต่อประดิษฐ์ ศิริเพ็ญ อรุณประพันธ์ ยุพิน ส่งไพศาล เฉิดฉันท์ศิริ โชติดิลก อุษา มีเสถียร, ผลการสํารวจทันตสุขภาพของ ประเทศไทย. ว. ทันต. ปีที่ 37 ฉบับที่ 3 พค. - มิย. 2530 หน้า 109 - 118.
4. กองทันตสาธารณสุข กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข. รายงานการสํารวจทันตสุขภาพ แห่งชาติ ครั้งที่ 3 ประเทศไทย พ.ศ. 2532. โรงพิมพ์องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกกรุงเทพ. 2534.
5. กองทันตสาธารณสุข กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข รายงานผลการสํารวจสภาวะทันตทันตสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 4 ประเทศไทย, พ.ศ. 2538.
6. ศูนย์ทันตสาธารณสุขระหว่างประเทศ, กองทันตสาธารณสุข กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และทันตแพทยสมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรม ราชูปถัมภ์, เป้าหมายทันตสุขภาพแห่ง ประเทศไทยเพื่อบรรลสุขภาพดีถ้วนหน้าปี 2543 โรงพิมพ์บูรพาศิลป์การพิมพ์ กรุงเทพ 2529.
7. ศูนย์ทันตสาธารณสุขระหว่างประเทศและกองทันตสาธารณสุข กรมอนามัย กระทรวง สาธารณสุข. แนวทางการพัฒนากําลังคนด้าน ทันตสาธารณสุข เพื่อบรรลุเป้าหมายทางทันต สุขภาพของประเทศไทย, โรงพิมพ์องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก, กรุงเทพ 2529.
8. ฝ่ายทันตกรรมป้องกัน กองทันตสาธารณสุข กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข. การอบรม ครูฝึกระดับจังหวัดในงานทันตสาธารณสุขมูลฐาน "เอกสารประกอบการประชุม. กรกฎาคม 2536.
9. World Health Organization. Oral Health Survey Basic Methods, Third edition. WHO Geneva 1987 ISBN 92 4 1 54216 0
10. World Health Organization. Oral Health Survey Basic Methods, 4 th Edition. World Health Organization Geneva 1997.
11. ตุ๊ย ยังน้อย, ดัชนีประเมินสถานภาพสุขภาพช่องปาก. เอกสารประกอบการเรียน, สิงหาคม 2537.
12. Dong Y-J, LEE MM-S, Pai L, Peng T-K. Relationship of Gingival Calculus and bleeding on probing in CPITN code 2 sextants. Community Dent Oral Epidemiol 1994, 22 : 294-7.
13. อัญชลี ดุษฎีพรรณ์, สภาวะการมีหินน้ําลายร่วมกับการมีเลือดออก และหินน้ําลายที่ไม่มี เลือดออกของประชากรจังหวัดเชียงใหม่, ว. ทันต ปีที่ 44 ฉบับที่ 4 กค. สค. 2537 หน้า 156-162.
14. Holmgren CJ, Corbet EF. Relationship between periodontal parameter and CPITN scores. Community Dent Oral Epidemiol 1990 ; 18 : 322-3.
15. Yohikazu TAKAHASHI, Yoshikazu OKAWA, Takashi MATSUKUBO, Yoshinori TAKAESU, Yoshinori SASAKI, Toshibumi ISHII. Epidemiological analysis for the influences of plaque and calculus deposition on prevalence of pocket formation. Dentistry in Japan. Vol.27 December 1990 : 155 - 160.
16. สุณี วงศ์คงคาเทพ ทิพาพร วังกิ่งคํา อนงค์ศรี สุทธิวงษ์. ผลของการแปรงฟันถูกวิธีร่วมกับ การขูดหินปูนเปรียบเทียบกับการแปรงฟันถูกวิธี เพียงกิจกรรมเดียวในการลดปัญหาโรคเหงือก อักเสบในเด็กนักเรียนประถมศึกษาในชนบท รายงานการวิจัยโรงพยาบาลพล จังหวัดขอนแก่น 2530 : 43.
17. กองทันตสาธารณสุข กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข, การดําเนินงานทันตสาธารณสุข ปีงบประมาณ 2539.