การขริบตามความเชื่อกับความสอดคล้องทางการแพทย์ (Circumcision beliefs with medical consistency)

Abstract

               วัฒนธรรมการขริบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศเป็นการปฏิบัติของบรรพชนในอดีตกาล บางกลุ่มเชื่อว่าเป็นการพลีกรรมให้กับพระเจ้า บางกลุ่มเชื่อว่าเป็นการแสดงออกถึงการเข้าสู่วัยหนุ่มอย่างสมบูรณ์ ในขณะที่บางกลุ่มมีความเชื่อว่าเป็นพระบัญชาของพระผู้เป็นเจ้า จากศาสนประวัติในศาสนาอิสลามพบว่า ศาสดาอิบรอฮีมคือบุคคลแรกที่ทำการขริบด้วยตัวเอง เป็นบททดสอบความศรัทธาตามพระบัญชาของพระผู้เป็นเจ้า ซึ่งสอดคล้องกับในคัมภีร์ไบเบิลของศาสนาคริสต์ และเป็นวัฒนธรรมการขริบที่ถือปฏิบัติกันอย่างต่อเนื่องจากบรรดาศาสดาของศาสนายูดาห์ คริสต์และอิสลาม จากบรรพชนรุ่นต่อรุ่นจวบจนถึงท่านศาสดามุฮัมมัดซึ่งเป็นศาสดาองค์สุดท้ายในศาสนาอิสลาม โดยจุดประสงค์สำคัญของการขริบเพื่อความสะอาดทางด้านสุขภาวะ และขจัดสิ่งสกปรกที่จะก่อให้เกิดโรคร้ายต่างๆ เป็นการเอาใจใส่ดูแลสุขอนามัย ซึ่งในอดีตที่ผ่านมาผู้ที่ปฏิบัติตามเพียงเพื่อตอบรับพระบัญชาของพระผู้เป็นเจ้า แต่ในปัจจุบันการขริบเป็นการปฏิบัติที่สอดคล้องกับทางการแพทย์ โดยในทางการแพทย์ระบุไว้ว่า การขริบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศจะช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็ง ป้องกันกามโรค ช่วยลดอัตราการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ และการขริบช่วยลดการเกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โรค HIV (Human immunodeficiency virus) ป้องกันโรคติดเชื้อ HPV (Human papillomavirus) ในเพศชาย และลดการเกิดโรคมะเร็งปากมดลูกในเพศหญิงที่เป็นคู่นอนได้

             Male circumcision was a type of cultural rites generally practiced among ancient people in the past. Some ethnic groups believed it signified as a form of religious sacrifice whereas some other groups perceived it as a rite of passage marking a boy’s complete entrance into adulthood. Some cultures perceived it as a commandment from God to be fulfilled by faith. The history of male circumcision in Islam revealed that Prophet Ibrahim was the first person to practice circumcision as he did on his own effort in order to prove his faith and submission to God. This historical evidence was also equivalent to what mentioned in Christian’s Bible. Circumcision has been continually practiced among prophets of Judaism, Christianity and Islam. As for Islam, the circumcision rite was inherited from Prophet Ibrahim following down the line until the last prophet, Muhammad. The essential goal of circumcision was for hygienic purpose as well as to promote good health by means of eliminating germs and infections. Circumcision in Islam was merely conducted to fulfil God’s command in those days. However for nowadays it turned out to be conformed to the medical practice as studies revealed that circumcision helped reduce the risks of cancer, prevent venereal disease and urinary tract infection. Moreover, it also helped reduce a chance of getting infected by sexually-transmitted diseases such as HIV (Human Immunodeficiency Virus) and HPV (Human Papilloma Virus) in male, and helped reduce the risk of cervix cancer in female counterparts.