พัฒนาการการประกันคุณภาพการศึกษาภายใน : กรณีศึกษามหาวิทยาลัยศิลปากร
Main Article Content
Abstract
บทคัดย่อ
มหาวิทยาลัยศิลปากรจัดการศึกษาในระดับปริญญาบัณฑิตและบัณฑิตศึกษาใน 3 กลุ่มสาขาวิชา คือ กลุ่มสาขาวิชาศิลปะและการออกแบบ กลุ่มวิชามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ และกลุ่มวิชาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์สุขภาพ โดยมีระบบและกลไกการประกันคุณภาพการศึกษาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปีการศึกษา 2542 จนถึงปัจจุบัน โดยมหาวิทยาลัยศิลปากรได้ร่วมกันศึกษาข้อมูลการประเมินคุณภาพการศึกษาภายในของคณะวิชาในปีการศึกษา 2553 และ 2554 จากเอกสารรายงานการประเมินคุณภาพภายใน การสัมภาษณ์ส่วนบุคคลเชิงลึก และการสังเกตแบบมีส่วนร่วม ซึ่งจากการศึกษาและวิเคราะห์ผลการดำเนินการประกันคุณภาพการศึกษาในระบบคะแนนเต็ม 5.00 คะแนน พบว่าในภาพรวมมหาวิทยาลัยมีผลการประเมินอยู่ในเกณฑ์ “ดี” ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากการให้ความสำคัญกับระบบและกลไกการประกันคุณภาพการศึกษาของคณะวิชาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม ผลการประกันคุณภาพการศึกษาภายในสะท้อนให้เห็นว่า กลุ่มสาขาวิชาศิลปะและการออกแบบต้องเสริมสร้างความเข้มแข็งในด้านการผลิตบัณฑิต การวิจัย และการบริหารจัดการ ส่วนกลุ่มวิชามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ต้องให้ความสำคัญกับการผลิตบัณฑิต และการวิจัย และกลุ่มวิชาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์สุขภาพต้องมุ่งเน้นในด้านการผลิตบัณฑิต
Abstract
Silpakorn university is one of Thai’s universities that has produced under-graduated and graduated students in 3 main clusters. These are art and design, sociology and humanity and science, technology and health science. Silpakorn university has been continuously creating and operating quality assurance system and mechanism from academic year 1999. Between academic year 2011 and 2012, Silpakorn university has applied 5 scale assessment for quality assurance. Result from the assessments express a good quality ranking for these two academic years. Obviously, every faculty of the university recognized that the system and mechanism of quality assurance has been considered as the most important system and mechanism to drive Silpakorn university to meet its own aspiration. However, the result of the assessment reflects that the art and design group should concentrate on teaching and learning, research and social service, while the sociology and humanity group should pay more attention on teaching and learning and research. Moreover, the science, technology and health science group has to focus on teaching and learning.