การศึกษาสภาพการใช้ ปัญหาและอุปสรรคในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษาภายในโรงเรียนสังกัดเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาจังหวัดนครปฐม
Main Article Content
Abstract
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1) ศึกษาสภาพการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษาของโรงเรียนสังกัดเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาในจังหวัดนครปฐม 2) ศึกษาปัญหาและอุปสรรคการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษาของโรงเรียนสังกัดเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาในจังหวัดนครปฐม ประชากร คือ โรงเรียนภายในเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครปฐม เขต 1 และ เขต 2 จำนวน 250 โรงเรียน กลุ่มตัวอย่างจำนวน 152 โรงเรียน โดยผู้ให้ข้อมูลทั้งหมดจำนวน 304 คน ประกอบด้วย ผู้อำนวยการสถานศึกษา และครูผู้สอน เครื่องมือในการศึกษาและเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบสอบถาม และแบบสัมภาษณ์ การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณใช้สถิติแจกแจงความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ส่วนการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพใช้การวิเคราะห์เนื้อหาและสรุปประเด็นสำคัญจากการสัมภาษณ์ ผลการวิจัยพบว่า
1) สภาพการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษาของโรงเรียนสังกัดเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาในจังหวัดนครปฐม 2 ด้าน มีดังนี้ 1.1) ด้านการใช้คอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ตอยู่ในระดับมาก ( = 4.00, S.D = .99 ) ใช้โปรแกรม Ms – Word พิมพ์เอกสารต่างๆในระดับมากที่สุด ( = 4.60 , S.D = .69) รองลงมาคือ ใช้คอมพิวเตอร์เพื่อสร้างเสริมทักษะและฝึกฝนความรู้สำหรับตนเอง ( = 4.22 , S.D = .81 ) และมีความรู้เกี่ยวกับอินเตอร์เน็ตและใช้งานอินเตอร์เน็ตได้ ( =4.18, S.D = .81 ) 1.2 )ด้านการนำคอมพิวเตอร์มาใช้ในการเรียนการสอนนั้นอยู่ในระดับปานกลาง( = 3.44 ,S.D = 1.06 ) โดยในการจัดเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลผลการเรียนของนักเรียน ( = 3.94,S.D = .94 ) รองลงมาคือใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์มาช่วยสอน (CAI) ( =3.55 ,S.D = 1.01 ) และใช้ในการเรียนด้วยซอฟต์แวร์บทเรียนสำเร็จรูป ( = 3.42 ,S.D = 1.10 )
2) ปัญหาและอุปสรรคการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษาของโรงเรียนสังกัดเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาในจังหวัดนครปฐม มี 4 ด้าน ดังนี้ 2.1) ด้านฮารด์แวร์นั้นอยู่ในระดับปานกลาง ( = 3.07,S.D = 1.29 ) พบว่าปัญหาเกี่ยวกับไม่มีอุปกรณ์ต่อพ่วงอื่นๆเช่น สแกนเนอร์หรือมีไม่เพียงพอและจำนวนคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการสอนมีประสิทธิต่ำ ( = 3.13 ,S.D = 1.24 และ 1.10 ) ตามลำดับ รองลงมา คือ จำนวนคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานอินเตอร์เน็ตในสถานศึกษาไม่เพียงพอ ( = 3.09 ,S.D = 1.2) 2.2) ด้านซอฟต์แวร์นั้นอยู่ในระดับปานกลาง( = 2.92 ,S.D = 1.17) พบว่าระบบเครือข่ายระหว่างเครื่องมีปัญหา ( = 3.27 ,S.D = 1.23 ) ตามลำดับ รองลงมาคือ ซอฟต์แวร์ที่ใช้อยู่ล้าสมัย ( = 2.9 ,S.D = 1.18)
2.3) ด้านบุคลากรนั้นอยู่ในระดับปานกลาง ( = 3.15 ,S.D = 1.45 ) พบว่าจำนวนผู้ดูแลรักษาและให้คำแนะนำเกี่ยวกับสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศมีไม่เพียงพอ ( = 3.38 ,S.D = 2.23) รองลงมาคือ บุคลากรมีความรู้ความสามารถในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศน้อย ( = 3.15 ,S.D = 1.56 ) 2.4.) ด้านการใช้ระบบเครือข่ายของเทคโนโลยีสารสนเทศนั้นอยู่ในระดับปานกลาง( = 3.33,S.D= 1.01) งบประมาณด้านการใช้ระบบเครือข่ายของเทคโนโลยีสารสนเทศ มีไม่เพียงพอ อยู่ในระดับมาก ( = 3.51 ,S.D = 1.31 ) รองลงมาคือ ระบบเครือข่าย Internet ของโรงเรียนขัดข้องบ่อย ( = 3.50 ,S.D = 1.21)
Abstract
The research objective of this study were 1) to study the use of information technology for the education of schools under the district primary education in Nakhon Pathom 2) study the barriers to using information technology to the study of schools. district primary education in Nakhon Pathom.Population is the director of the academy. Teachers of Elementary Education Area 1 and Area 2 SBM sample of 250 schools, 152 schools to 304 people. All information provided by 304 people, including the director of schools and teachers in the study and data collection tools, including questionnaires and interviews. Quantitative data analysis using frequency, percentage, average, standard deviation. Analysis of qualitative data context analysis and summarize the key points from the interview.
The use of information technology for the education of schools under the district primary education in Nakhon Pathom 1.1), the use of computers and the Internet in much( = 4.00, S.D = .99 ) the program Ms- Word documents in very much ( = 4.60 , S.D = .69), followed by the use of computers to enhance their skills and knowledge for their own training ( = 4.22, S.D = .81), and also found that the majority had no knowledge of the Internet and Internet applications. ( = 4.18,S.D= .81) 1.2) and computer application in teaching that are moderate ( = 3.44 ,S.D = 1.06 ) by the collection and analysis of student results ( = 3.94, S.D =. 0.94), followed by the use of computer-assisted instruction (CAI), (= 3.55, S.D = 1.01), and the lesson learned by the software.
Barriers to using information technology to the education of schools under the district primary education in Nakhon Pathom province has four areas: 2.1) hardware is seen at moderate ( = 3.07,S.D = 1.29 ) levels found problems with no peripherals other. such as scanners or are inadequate and the number of computers used in teaching effective low ( = 3.13, S.D = 1.24 and 1.10), respectively, followed by the number of computers that use the Internet in schools is not enough ( = 3.09, S.D = 1.2) 2.2) software that is the medium ( = 2.92 ,S.D = 1.17 ) that networking between problems ( = 3.27, S.D = 1.23), respectively, followed by the software they use is obsolete ( = 2.9. , S.D = 1.18) 2.3) personnel that are moderate ( = 3.15 ,S.D = 1.45 ), the number of caregivers and advise on media, information technology is not enough ( = 3.38, S.D = 2.23), followed by the staff there. the ability to use information technology ( = 3.15, S.D = 1.56) 2.4.) The network of information technology is a moderate budget ( = 3.33 ,S.D = 1.01), the network of information technology at a high level. There is not enough ( = 3.51,S.D=1.31), followed by the network Internet. School of frequent outages ( = 3.5 ,S.D = 1.21)