ปัจจัยที่สัมพันธ์กับการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองสุขภาพของผู้ไม่สูบบุหรี่ พ.ศ. 2535 ของผู้ประกอบการร้านบริการอินเตอร์เน็ตและเกมส์ กรุงเทพมหานคร

Abstract

บทคัดย่อ

                         การกำหนดให้สถานที่สาธารณะเป็นเขตปลอดบุหรี่เป็นมาตรการสำคัญในการปกป้องสุขภาพจากควันบุหรี่มือสอง ร้านอินเตอร์เน็ตเป็นสถานที่หนึ่งที่ถูกบังคับให้เป็นเขตปลอดบุหรี่การวิจัยเชิงสำรวจแบบตัดขวางนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสถานการณ์ และปัจจัยที่สัมพันธ์กับการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองสุขภาพของผู้ไม่สูบบุหรี่ พ.ศ. 2535 ของผู้ประกอบการร้านอินเตอร์เน็ตและเกมส์ ในกรุงเทพมหานคร จำนวน 236 คน เลือกโดยการสุ่มแบบหลายขั้นตอน เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยแบบสอบถามชนิดตอบด้วยตนเอง วิเคราะห์ความสัมพันธ์ด้วย สถิติทดสอบไค-แสควร์ ผลการศึกษาพบว่า ผู้ประกอบการร้อยละ 11.4 ไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎหมาย มีเพียงร้อยละ 22.9 ปฏิบัติตามครบถ้วน ร้อยละ 74.2 ห้ามเมื่อพบการสูบบุหรี่ในร้าน ร้อยละ 69.9 ไม่จัดอุปกรณ์อำนวยการสูบ และร้อยละ 32.2  ติดป้ายเขตปลอดบุหรี่ มากกว่าร้อยละ 50 ไม่ทราบเกี่ยวกับโรคจากการได้รับควันบุหรี่มือสอง สถานที่สาธารณะที่เป็นเขตปลอดบุหรี่ และบทลงโทษตามกฎหมาย ผลการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ พบว่า การสูบบุหรี่ของผู้ประกอบการ ความรู้ เจตคติ ความรับผิดชอบต่อสังคม อิทธิพลของผู้ใช้บริการ การรับรู้การควบคุมพฤติกรรม และปัจจัยภายนอก มีความสัมพันธ์กับการปฏิบัติตามกฎหมาย อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05)ดังนั้น กระทรวงสาธารณสุข และภาคีเครือข่ายควรรณรงค์สร้างความตระหนัก ความรู้และการปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎหมาย โดยเฉพาะการติดป้ายห้ามสูบบุหรี่ รวมทั้ง การบังคับใช้กฎหมายให้มากยิ่งขึ้น

ABSTRACT

                   Providing smoke-free areas in public places is a significant health protection measure due to the risks of exposure to second-hand smoke.  Internet cafés are one of the public places in which smoke-free areas have been enforced. This cross-sectional survey research aimed to examine the internet café proprietors’ compliance with the Non-Smokers’ Health Protection Act of 1992 (NSHPA) and factors associated with this compliance. A total of 236 internet café proprietors in Bangkok were selected by a multi-stage sampling method. A self-administered questionnaires was used for data collection. Data were analyzed using frequency, percentage, mean, standard deviation, and chi-square statistics. The results showed that 11.4% of internet café proprietors did not comply fully with NSHPA, 22.9% did comply fully, and 65.7% complied partially. The conditions which were complied with most frequently were warning customers to stop smoking in non-smoking area(74.2%), and not providing  ashtrays in non-smoking area (69.9%). The condition with the lowest rate of compliance was posting no smoking signs (32.2%). More than 50% of internet café proprietors did not know about diseases related to second-hand smoke, public places where smoking is prohibited by NSHPA, or the penalties associated with NSHPA. The analysis of association of internet café proprietors’ smoking, knowledge, attitude, social responsibility, customer influence, perceived behavioral control, and external factors were significantly associated with NHSPA compliance. (p<0.05). The study suggests that the public awareness campaign to increase knowledge of and compliance with NHSPA, specifically including posting no smoking signs as well as enforcement should be strengthened by Ministry of Public Health and tobacco control partners.