ผลภาพถ่ายรังสีของการผ่าตัดแก้ไขกระดูก distal radius ผิดรูปโดยการใช้ beta-tricalcium phosphate เปรียบเทียบกับการใช้กระดูกเชิงกราน
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
วัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาเปรียบเทียบภาพถ่ายรังสีที่เป็นผลจากการผ่าตัดแก้ไขกระดูก distal radius ผิดรูปโดยการใช้กระดูกเทียมชนิด beta-tricalcium phosphate เปรียบเทียบกับการใช้กระดูกเชิงกราน
วิธีการศึกษา: ผู้ป่วยที่มีกระดูก distal radius ผิดรูปจำนวน 27 รายในโรงพยาบาลเลิดสิน ที่มีอาการจากกระดูกผิดรูป และมีค่า parameters จากภาพถ่ายรังสีที่ผิดปกติ ที่เข้ารับการผ่าตัดแก้ไขโดยใช้กระดูกเทียมชนิด beta-tricalcium phosphate และกระดูกจากเชิงกราน โดยทำการติดตามค่า parameters จากภาพรังสีทั้งก่อนผ่าตัด หลังผ่าตัด 4 สัปดาห์ และครั้งสุดท้ายที่มาตรวจติดตามผล โดยรวบรวมผลและคำนวณโดยใช้ unpaired t-test, paired t-test และ chi-squared (Fisher exact test)
ผลการศึกษา: ค่า parameters จากภาพถ่ายรังสี ไม่พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติของทั้งสองวิธี แต่พบว่าในกลุ่มที่ใช้กระดูกเทียมชนิด beta-tricalcium phosphate มีการติดของกระดูกหลังผ่าตัดเพียงร้อยละ 80 และในกลุ่มที่ใช้กระดูกจากเชิงกราน มีการติดของกระดูกหลังผ่าตัดถึงร้อยละ 91.67 และยังพบว่าในกลุ่มที่ใช้กระดูกเทียมชนิด beta-tricalcium phosphate มีอาการปวด และมีปัญหาจากการใช้งาน มีการสูญเสียมุมที่แก้ไขถึงร้อยละ 26.67 และต้องกลับมารับการผ่าตัดซ้ำถึงร้อยละ 33 ส่วนในกลุ่มที่ใช้กระดูกจากเชิงกราน มีการสูญเสียมุมที่แก้ไข และต้องกลับมารับการผ่าตัดซ้ำร้อยละ 8.33
สรุป: ค่า parameters จากภาพรังสี ไม่พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติของทั้งสองวิธี แต่พบว่าในกลุ่มที่ใช้กระดูกเทียมชนิด beta-tricalcium phosphate มีอัตราการติดของกระดูกน้อยกว่า มีการสูญเสียมุมที่แก้ไขและต้องกลับมารับการผ่าตัดซ้ำมากกว่ากลุ่มที่ใช้กระดูกจากเชิงกราน แต่ก็ไม่พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
Article Details
เอกสารอ้างอิง
2. Shea, K., et al., Corrective osteotomy for malunited, volarly displaced fractures of the distal end of the radius. J Bone Joint Surg Am, 1997. 79(12): p. 1816-26.
3. Smith, D.W. and M.H. Henry, Volar fixed-angle plating of the distal radius. J Am Acad Orthop Surg, 2005. 13(1): p. 28-36.
4. Khan, S.N., et al., The biology of bone grafting. J Am Acad Orthop Surg, 2005. 13(1): p. 77-86.
5. Verhaegen, F., I. Degreef, and L. De Smet, Evaluation of corrective osteotomy of the malunited distal radius on midcarpal and radiocarpal malalignment. J Hand Surg Am. 35(1): p. 57-61.
6. Graham, T.J., Surgical Correction of Malunited Fractures of the Distal Radius. J Am Acad Orthop Surg, 1997. 5(5): p. 270-281.
7. Luchetti, R., Corrective osteotomy of malunited distal radius fractures using carbonated hydroxyapatite as an alternative to autogenous bone grafting. J Hand Surg Am, 2004. 29(5): p. 825-34.
8. Yasuda, M., et al., Early corrective osteotomy for a malunited Colles' fracture using volar approach and calcium phosphate bone cement: a case report. J Hand Surg Am, 2004. 29(6): p. 1139-42.
9. Ekrol, I., et al., A comparison of RhBMP-7 (OP-1) and autogenous graft for metaphyseal defects after osteotomy of the distal radius. Injury, 2008. 39 Suppl 2: p. S73-82.
10. Jakubietz, M.G., J.G. Gruenert, and R.G. Jakubietz, The use of beta-tricalcium phosphate bone graft substitute in dorsally plated, comminuted distal radius fractures. J Orthop Surg Res. 6: p. 24.
