เมื่อไรจึงควรส่งตรวจภาพถ่ายทางรังสีในภาวะเนื้อเยื่ออ่อนบวมช้ำที่ได้รับบาดเจ็บบริเวณแขนขา โดยไม่มีลักษณะกระดูกหักชัดเจน

Main Article Content

Mongkol T, MD

บทคัดย่อ

วัตถุประสงค์: เพื่อหาข้อบ่งชี้ในการส่งตรวจภาพทางถ่ายรังสีในผู้ป่วยได้รับบาดเจ็บบริเวณแขนขาและมีภาวะเนื้อเยื่ออ่อนบวมช้ำโดยไม่มีลักษณะกระดูกหัก


วัสดุและวิธีการ: เป็นการศึกษาแบบเหตุและผลณจุดเวลาใดเวลาหนึ่ง สุ่มตรวจผู้ป่วยอายุมากกว่า 15 ปีขึ้นไป ระหว่าง มกราคม 2550 ถึงธันวาคม 2552 ซึ่งมาตรวจที่แผนกอุบัติเหตุฉุกเฉิน ด้วยภาวะเนื้อเยื่ออ่อนบวมช้ำจากการบาดเจ็บบริเวณแขนขาภายใน 2 วันโดยไม่มีลักษณะกระดูกหักชัดเจน โดยการตรวจร่างกายอย่างละเอียด และให้การวินิจฉัยว่ามีกระดูกหักหรือไม่ จากนั้นส่งตรวจภาพถ่ายทางรังสีทุกราย นำผลการตรวจร่างกายที่ได้นำไปทดสอบความถูกต้องของการวินิจฉัยภาวะกระดูกหักด้วยภาพถ่ายทางรังสี


ผลการศึกษา: จากผู้ป่วย 400 รายพบความชุกของกระดูกหักในภาวะเนื้อเยื่ออ่อนบวมช้ำจากบาดเจ็บบริเวณแขนขาโดยไม่มีกระดูกหักชัดเจนร้อยละ 17.25 การตรวจร่างกายด้วยวิธีเคาะบริเวณปลายของอวัยวะเพื่อให้แรงสะเทือนถ่ายทอดตามแนวแกนไปทำให้เกิดความเจ็บปวดบริเวณที่สงสัย และหรือการกดเจ็บบริเวณกระดูกเป็นข้อบ่งชี้ในการส่งตรวจภาพถ่ายทางรังสี ผลความถูกต้องในการวินิจฉัยกระดูกหักจากการเคาะ และการกดเจ็บบริเวณกระดูกมีค่าร้อยละ 88.50 และ 73.50 ตามลำดับ


สรุป: ควรส่งตรวจภาพถ่ายทางรังสีในภาวะเนื้อเยื่ออ่อนบวมช้ำที่ได้รับบาดเจ็บบริเวณแขนขาโดยไม่มีลักษณะกระดูกหักชัดเจน เมื่อการตรวจร่างกายด้วยวิธีเคาะบริเวณปลายของอวัยวะทำให้เกิดความเจ็บปวดบริเวณที่สงสัย และหรือ การพบตำแหน่งที่กดเจ็บบริเวณกระดูก

Article Details

ประเภทบทความ
นิพนธ์ต้นฉบับ

เอกสารอ้างอิง

1. Bachmann LM, Kolb E, Kolher MT, Steurer J, Riet GT. Accuracy of Ottawa ankle rules to exclude fractures of the ankle and mid-foot: systemic reviw. BMJ. 2003; 326(7386): 417-9.
2. McBride KL. Validation of the Ottawa ankle rules: experience at a community hospital. Can Fam Physician. 1997; 43: 459-65.
3. Brand DA, Frazier WH, Kohlhepp WC, Shea KM, Hoefer AM, Ecker MD, et al. A protocol for selecting patients with injured extremities who need x-rays. N Engl J Med. 1982; 306(6): 333-9.
4. Roberts PW. The axial percussion test for fracture. Can Fam Physician. 1979; 25: 749-51.