ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วมของพยาบาลวิชาชีพ ในการพัฒนาคุณภาพโรงพยาบาลวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร

บทคัดย่อ

การศึกษานี้เป็นเชิงพรรณาเพื่อศึกษาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วมของพยาบาลวิชาชีพในการพัฒนาคุณภาพโรงพยาบาลวานรนิวาส กลุ่มตัวอย่างคือพยาบาลวิชาชีพที่ปฏิบัติงานประจำที่โรงพยาบาลวานรนิวาส จำนวน 107 คน เก็บรวบรวมข้อมูลระหว่างวันที่ 1-31 มกราคม 2563 เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาเป็นแบบสอบถามประกอบด้วย 1) แบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคล 2) แบบสอบถามเจตคติต่อการมีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพโรงพยาบาล 3) การรับรู้ข้อมูลข่าวสารในการพัฒนาคุณภาพโรงพยาบาล 4) แบบวัดการรู้หลักคิด กระบวนการพัฒนาคุณภาพโรงพยาบาล 5) แบบสอบถามการสนับสนุนจากผู้นำ 6) แบบสอบถามเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพโรงพยาบาล วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณโดยใช้สถิติ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน หาความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรโดยใช้สถิติสหสัมพันธ์ของเพียร์สัน ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง ร้อยละ 91.6 มีอายุระหว่าง 20 – 29 ปี ร้อยละ 43.0 ( =38.86, S.D.=9.19, Max=57ปี, Min=23 ปี) มีสถานภาพโสด ร้อยละ 50.5 จบการศึกษาระดับปริญญาตรีหรือเทียบเท่า ร้อยละ 93.5 ปฏิบัติงานระหว่าง 1-10 ปี ร้อยละ 65.4 ( =9.38,S.D.=8.74, Max=35 ปี, Min=1 ปี) ตำแหน่งงานเป็นผู้ปฏิบัติ ร้อยละ 81.3 ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วม พบว่าปัจจัยด้านเจตคติของการมีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพมีความสัมพันธ์ทางบวกในระดับต่ำ  (r=0.438, p=0.000) การรับรู้ข้อมูลข่าวสารมีความสัมพันธ์ทางบวกในระดับปานกลาง (r=0.535, p=0.000) การรู้หลักคิดและกระบวนการพัฒนาคุณภาพมีความสัมพันธ์ทางบวกในระดับต่ำมาก (r=0.201, p=0.038) การสนับสนุนจากผู้นำมีความสัมพันธ์ในทางบวกในระดับสูง (r=0.715, p =0.000)

ข้อสรุป : การศึกษานี้ชี้ให้เห็นถึงความสำเร็จของการบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วมของพยาบาลวิชาชีพในการพัฒนาคุณภาพโรงพยาบาลวานรนิวาสอย่างเห็นได้ชัด ข้อเสนอแนะ: ผู้บริหารควรส่งเสริมการมีส่วนร่วมของบุคลากรทุกระดับเพื่อให้การพัฒนาคุณภาพโรงพยาบาลเป็นไปอย่างต่อเนื่องและครอบคลุมทุกงานบริการของโรงพยาบาล 

คำสำคัญ: การพัฒนาคุณภาพโรงพยาบาล, การบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วม, พยาบาลวิชาชีพ