ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการสร้างเสริมสุขภาพของนักเรียนประถมศึกษาตอนหลายโรงเรียนวัดศรีวารีน้อย ตำบลศีรษะจระเข้ใหญ่ อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ
คำสำคัญ:
Health promoting behaviors, prathom 4-6 Students, พฤติกรรมการสร้างเสริมสุขภาพ, นักเรียนประถมศึกษาตอนปลายบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพฤติกรรมการสร้างเสริมสุขภาพ และปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการสร้างเสริมสุขภาพของนักเรียนประถมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนวัดศรีวารีน้อย ตำบลศีรษะจระเข้ใหญ่ อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาตอนปลาย (ป. 4-6) เลือกโดยวิธีการสุ่มอย่างง่าย จำนวน 167 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามการรับรู้ประโยชน์ของพฤติกรรมการสร้างเสริมสุขภาพ (ค่าความเชื่อมั่น .81) แบบสอบถามการรับรู้อุปสรรคของพฤติกรรมการสร้างเสริมสุขภาพ (ค่าความเชื่อมั่น .87) แบบสอบถามการรับรู้ความสามารถของตนเองด้านการสร้างเสริมสุขภาพ (ค่าความเชื่อมั่น .83) แบบสอบถามการรับรู้อิทธิพลความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลเกี่ยวกับการสร้างเสริมสุขภาพ (ค่าความเชื่อมั่น .83) และแบบสอบถามพฤติกรรมการสร้างเสริมสุขภาพด้านอนามัยส่วนบุคคล (ค่าความเชื่อมั่น .88) วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่า ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ
ผลการวิจัยพบว่า
1. กลุ่มตัวอย่าง มีพฤติกรรมการสร้างเสริมสุขภาพรายข้อและโดยภาพรวม อยู่ในระดับดี แต่เมื่อพิจารณารายข้อ พบว่า ส่วนใหญ่มีพฤติกรรมการสร้างเสริมสุขภาพอยู่ในระดับดี (M = 2.36, SD = .72)
2. การรับรู้ความสามารถของตนเองเกี่ยวกับพฤติกรรมการสร้างเสริมสุขภาพด้านอนามัยส่วนบุคคลตามสุขบัญญัติแห่งชาติ เป็นปัจจัยที่สามารถทำนายพฤติกรรมการสร้างเสริมสุขภาพของกลุ่มตัวอย่างได้ร้อยละ 9.50 (R2 = .095, p < .01)
ผลการวิจัยสามารถใช้เป็นแนวทางในการจัดกิจกรรมเพื่อสร้างเสริมพฤติกรรมสุขภาพด้านอนามัยส่วนบุคคลตามสุขบัญญัติแห่งชาติ ของนักเรียนประถมศึกษาตอนปลาย โดยเน้นที่กลยุทธ์การรับรู้ความสามารถของตนเองเกี่ยวกับการสร้างเสริมสุขภาพเป็นหลัก
The purpose of this research was to examine health promoting behavior and factors influencing on health promoting behaviors of prathom 4-6 students in Watsrivareenoi School,BangSoathongSubdistrict, Samutprakran. The sample was 167 students in prathom 4-6. The instruments were perceive benefit, perceive barrier, perceive self-efficacy, interpersonal influence, and health promoting behavior questionnaires. The reliability coefficients of these questionnaires were .81, .87, .83, .83 and .88., respectively. Frequency, percent, mean, standard deviation and multiple regression were employed to analyze the data.
The results of the study were as follows :
1. The students inWatsrivareenoiSchool, Bang Soathong District, Samutprakran showed a good level in the overall of personal hygiene health-promoting behavior based on National Health Recommendation.
2. Perceived self-efficacy of health promoting behavior was significantly predictors of the health promoting behavior among prathom 4-6 students in Watsrivareenoi School, Bang Soathong District, Samutprakran at the percentage of 9.50 (R2 = .095, p < .01).
The results can be guidelines for developing health promoting behavior among prathom 4-6 students in Watsrivareenoi School, Bang Soathong District, Samutprakran. It should address as strategy in perceived self-efficacy in a health promotion.