Predictive Factors of Non-Communicable Disease Prevention Behaviors Based on the “3E-2S” Principle among Village Health Volunteers in Nong Waeng Subdistrict, Lahan Sai District, Buriram Province
Keywords:
Health Literacy, Non-communicable Disease Prevention Behavior, Village Health Volunteers (VHVs), Health Behaviors 3E-2SAbstract
The study was a cross-sectional analytical study. The objectives were to investigate the level of health literacy and prevention behaviors for non-communicable diseases (NCDs), and to examine the influence of personal factors and health literacy on these prevention behaviors among Village Health Volunteers (VHVs) in Nong Waeng Subdistrict, Lahan Sai District, Buriram Province. A sample of 142 VHVs was selected using a simple random sampling method. The data were collected using a questionnaire and analyzed using descriptive statistics and multiple linear regression analysis. The results showed that most participants were female (89.44%), with an average age of 50.97 years (SD = 9.80). Most were Buddhist (99.30%) and married (78.87%). The highest level of education attained was primary school (50%), and the primary occupation was farming (69.72%). The average monthly income was 6,331.69 THB (SD = 4,739.67). Additionally, 77.46% of the participants had no NCDs, and the average body mass index (BMI) was 25.32 kg/m². (SD = 4.07). Health literacy was at a very good level (83.80%), while NCD prevention behavior was at a fair level (85.21%). The variables that could significantly predict NCD prevention behavior were male gender (β = -5.950, p = 0.017), age (β = 0.164, p = 0.039), occupation (β = – 9.504, p = 0.009), health literacy (β = 1.060, p = 0.029). All independent variables explained 8.6% of the variation in the NCD prevention behavior score. Therefore, appropriate health-promoting activities should be designed and organized for VHVs. These activities must emphasize their involvement in decision-making rather than merely receiving information. This approach will encourage them to adopt proper health behaviors and serve as role models for the community.
References
World Health Organization. Noncommunicable diseases [Internet]. 2022 [cited 2024 Oct 4]. Available from: https://www.who.int/news-room/fact-sheets/detail/noncommunicable-diseases
กองโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค. จำนวนและอัตราตายด้วย 5 โรคไม่ติดต่อ (NCD) ปี 2559–2563 [อินเตอร์เน็ต]. 2565 [เข้าถึงเมื่อ 2567 ตุลาคม 4]. เข้าถึงได้จาก: http://www.thaincd.com/2016/mission/documents-detail.php?id=14220&tid=32&gid=1-020
ระบบคลังข้อมูลด้านการแพทย์และสุขภาพ (HDC) สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ เขตสุขภาพที่ 9. ข้อมูลเพื่อตอบสนอง Service Plan สาขาโรคไม่ติดต่อ [อินเตอร์เน็ต]. 2566 [เข้าถึงเมื่อ 2567 ตุลาคม 4]. เข้าถึงได้จาก: https://hdc.moph.go.th/brm/public/standard-subcatalog/b2b59e64c4e6c92d4b1ec16a599d882b
วรธา มงคลสืบสกุล. การเข้าถึงบริการทางสาธารณสุข: ภาพสะท้อนและความเหลื่อมล้ำของกลุ่มเปราะบางทางสังคม. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์ 2565;6(1):55–69.
กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ. คู่มือสำหรับเจ้าหน้าที่ หลักสูตรฝึกอบรม สมาร์ท อสม. และอสม. หมอประจำบ้าน ปีงบประมาณ 2565. นนทบุรี: กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ; 2564.
สมตระกูล ราศิริ, สุชาดา อินทรกำแหง ณ ราชสีมา, ชิติรัตน์ ราศิริ. บทบาทของอาสาสมัครสาธารณสุขไทย. วารสารวิจัยและพัฒนาด้านสุขภาพ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา 2564;7(2):80–97.
Sørensen K, Van den Broucke S, Fullam J, Doyle G, Pelikan J, Slonska Z, et al. Health literacy and public health: A systematic review and integration of definitions and models. BMC Public Health 2012; 12(80):1–13
อังศินันท์ อินทรกำแหง. รายงานวิจัย เรื่องการสร้างและพัฒนาเครื่องมือความรอบรู้ด้านสุขภาพคนไทย. กรุงเทพมหานคร: สถาบันวิจัยพฤติกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ; 2560.
สำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค. คู่มือกระบวนการสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพในการป้องกันควบคุมโรคและภัยสุขภาพ.พิมพ์ครั้งที่ 1. นนทบุรี: บริษัท อาร์ เอ็น พี พี วอเทอร์ จำกัด; 2564.
Krejcie RV, Morgan DW. Determining Sample Size for Research Activities. Educational and Psychological Measurement 1970;30(3):607–10.
กองสุขศึกษา. เครื่องมือสำหรับแกนนำสุขภาพ (อสม., แกนนำนักเรียน, ยุว อสม.) [อินเตอร์เน็ต]. 2566 [เข้าถึงเมื่อ 2567 ตุลาคม 4]. เข้าถึงได้จาก: https://hed.hss.moph.go.th/tool-hlhb/
อัญชลี สามงามมี. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมป้องกันโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงของบุคลากรสายสนับสนุนในมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง [ปริญญานิพนธ์สาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต]. ลำปาง: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์; 2562.
Bloom B. Mastery learning: UCLA – CSEIP evaluation. Los Angeles: University of California at Los Angeles; 1968.
สายชล ศรีพนมวรรณ. ความรอบรู้ด้านสุขภาพกับบทบาทของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ในการป้องกันโรคเรื้อรัง อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์. วารสารวิชาการและการพยาบาล วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี จักรีรัช 2567;4(2):1–13.
พัดชา คุณวุฒิ. ความสัมพันธ์ระหว่างความรอบรู้ด้านสุขภาพกับพฤติกรรมสุขภาพของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.). วารสารวิชาการ วิจัย และนวัตกรรม มสธ. (มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์) 2566; 3(2):94–106.
วิชุดา นพเสริฐ, นิศาชล บุปผา, อรุณณี ใจเที่ยง. ความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพของกลุ่มวัยทำงานอายุ 45–59 ปี ในอำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์. วารสารพยาบาลสาร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 2566; 50(1):256–70.
จุฑาภรณ์ สว่างเมฆ. ปัจจัยที่มีผลต่อความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพของอาสาสมัครสาธารณสุขประจาหมู่บ้าน (อสม.) หมู่บ้านปรับเปลี่ยนพฤติกรรมต้นแบบ จังหวัดกระบี่. วารสารอนามัยสิ่งแวดล้อมและสุขภาพชุมชน 2564;6(3):121–30.
นพมาศ โกศล, ประนอม อุบลกาญจน์, เชาวลิต ลิ่มวิจิตรวงศ์, นิติยา ศิริแก้ว. ความรอบรู้ด้านสุขภาพ และพฤติกรรมสุขภาพ 3อ.2ส. ของกลุ่มวัยทำงานสำหรับหมู่บ้านจัดการสุขภาพ: กรณีศึกษาชุมชน บ้านวังหิน อำเภอทุ่งใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช. การประชุมหาดใหญ่วิชาการระดับชาติและนานาชาติครั้งที่ 10; 2562 กรกฎาคม 12-13; มหาวิทยาลัยหาดใหญ่.สงขลา; 2562.: 1600–11.
วัชรา จันทร์กระจ่าง. ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความรอบรู้ด้านสุขภาพในประชาชนกลุ่มเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูง ในอำเภอแห่งหนึ่งของจังหวัดพิจิตร[สาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต]. พิษณุโลก: มหาวิทยาลัยนเรศวร;2565.
Becker MH, Maiman LA. The health belief model: origins and correlation in psychological theory. Health Educ Monogr 1975;2:336–85.
พรรณรัตน์ เป็นสุข, นิรันตา ไชยพาน, จันทกานต์ วลัยเสถียร. ความรอบรู้ด้านสุขภาพในการป้องกันควบคุมโรคของบุคลากรสาธารณสุข จังหวัดนครราชสีมา ประจำปี 2564. วารสารวิชาการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 จังหวัดนครราชสีมา 2564;29(3):5–18.
Nutbeam D. The evolving concept of health literacy. Soc Sci Med 2008;67(12):2072–8.
ภมร ดรุณ. ปัจจัยความรอบรู้ด้านสุขภาพที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมสุขภาพของประชาชนจังหวัดบึงกาฬ. วารสารวิชาการกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ 2562;15(3):71–82.
Downloads
Published
How to Cite
Issue
Section
License
Copyright (c) 2025 The office of disease prevention and control 9th Nakhon Ratchasima

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ลงพิมพ์ในวารสารวิชาการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 จังหวัดนครราชสีมา ถือว่าเป็น
ลิขสิทธิ์ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 จังหวัดนครราชสีมา
