ประสิทธิผลโปรแกรมการติดตามการจัดทำแผนงานโครงการ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ
คำสำคัญ:
ระบบ, แผนงานโครงการบทคัดย่อ
การจัดทำแผนงานโครงการที่ดี การได้รับการอนุมัติให้ดำเนินการได้อย่างรวดเร็วเป็นสิ่งสำคัญ การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาระบบการติดตามการจัดทำแผนงานโครงการ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ โดยใช้รูปแบบการวิจัยและพัฒนา กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ ผู้รับผิดชอบงานการจัดทำแผนงานโครงการของโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลชุมชน สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ จำนวน 32 คนประยุกต์ใช้แนวคิดและทฤษฎีวงจรพัฒนาระบบในการพัฒนาโปรแกรมการติดตามการจัดทำแผนงานโครงการ 6 ขั้นตอน ได้แก่ 1) ขั้นการวางแผน 2) ขั้นการวิเคราะห์ 3) ขั้นการออกแบบ 4) ขั้นการสร้าง ทดสอบและเผยแพร่ 5) ขั้นการติดตั้งระบบ และ 6) ขั้นการดูแลและพัฒนา หลังจากนั้นจึงประเมินความ พึงพอใจผู้ใช้บริการ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ จำนวน ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่างเป็นเพศชายเท่ากับเพศหญิง (ร้อยละ 50) ส่วนใหญ่มีอายุระหว่าง 46-55 ปี (ร้อยละ 46.70) การศึกษาจบระดับปริญญาตรี (ร้อยละ 53.30) ตำแหน่งนักวิชาการ (ร้อยละ 70) ปฏิบัติงานที่โรงพยาบาลชุมชน (ร้อยละ 56.70) มีความพึงพอใจในภาพรวม อยู่ในระดับพอใจมากที่สุด ( = 4.22, S.D.= 0.54) พบว่า ด้านประสิทธิภาพ และประโยชน์ของระบบมีความพึงพอใจมากที่สุด ( = 4.31, S.D.= 0.51) ข้อที่ได้คะแนนมากที่สุดในด้านประสิทธิภาพและประโยชน์ของระบบ ได้แก่ ระบบทำให้การทำงานรวดเร็วขึ้น ( = 4.50, S.D.= 0.68) รองลงมา ได้แก่ ระบบช่วยลดปริมาณการใช้กระดาษ ( = 4.40, S.D.= 0.72) พบว่า ก่อนใช้ระบบ Project Tracking กลุ่มตัวอย่างมีการติดตามการจัดทำแผนงานโครงการโดยการติดตามทางโทรศัพท์มากที่สุด (ร้อยละ 60) หลังการใช้ระบบ Project Tracking มีการใช้กระดาษลดลง จาก 16 แผ่น / โครงการ เหลือเพียง 8 แผ่น / โครงการ และลดระยะเวลาในการจัดทำแผนงานโครงการจาก 36 วัน / โครงการ เหลือ 29 วัน / โครงการ ดังนั้น จึงควรพัฒนาโปรแกรมระบบติดตามการจัดทำแผนงานโครงการ (Project Tracking)ไปประยุกต์ใช้กับงานที่มีลักษณะคล้ายกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
เอกสารอ้างอิง
2. สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี.แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 พ.ศ.2560-2564.[ออนไลน์]2562.เข้าถึงเมื่อ20 ธันวาคม 2562. เข้าถึงได้จาก http://plan.bru.ac.th/wp-content/uploads/2018/
3. สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข. คู่มือการจัดทำแผนปฏิบัติการ. [ออนไลน์] 2562 เข้าถึงเมื่อ 20ธันวาคม 2562. เข้าถึงได้จาก http://bps.moph.go.th/new_bps/sites/default/ files/ 3. guide_the_ministrys_action_plan54.pdf.
4. โอภาส เอี่ยมสิริวงศ์. คู่มือการพัฒนาและปรับปรุงระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร.ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559. ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย.
5. สำนักงานมาตรฐานและประเมินผลอุดมศึกษา สำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา. แบบประเมินความพึงพอใจเกี่ยวกับระบบ. [ออนไลน์] 2562 เข้าถึงเมื่อ 20 ธันวาคม 2562.เข้าถึงได้จากhttp://www.cheqa.mua.go.th/cheplus/che_questionaire54.doc.
6. กุสุมา เลาะเด. การประเมินผลการใช้งานโปรแกรมเรียนรู้ภาษาอังกฤษด้วยตนเอง “ SPEEXX”: กรณีศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ในพระบรมราชูปภัมภ์. วารสารวไลอลงกรณ์ปริทัศน์ (มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์). 2560; 7(2): 83-95.
7. ยุทธ สุขสงัด. ความพึงพอใจการใช้งานโปรแกรม ไมโครซอฟท์ เอาท์ลุค ของพนักงานแผนกสายบัตรเครดิต ธนาคารกรุงเทพจำกัด(มหาชน) สำนักงานใหญ่. วารสารวิจัย มทร. 2560; 11(2); 78-92.
8. นารีรัตน์ ทรงทิพย์. ความพึงพอใจของพนักงานระดับปฏิบัติการในการใช้ระบบข้อมูลจากจุดขาย(PSO) ในการดำเนินงานด้านการกระจายสินค้า(Logistic)ของเซเว่นอีเลเว่นในเขตกรุงเทพมหานคร.[วิทยานิพนธ์บัณฑิตวิทยาลัย] กรุงเทพ: สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง; 2547.
9. ปภัสสร ธนวิโรจน์กุล. ประสิทธิผลของโปรแกรมคอมพิวเตอร์สำหรับบันทึกการพยาบาลผ่าตัด. วารสารพยาบาลศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. 2553; 22(พิเศษ2): 144-154.
10. นรเทพ ศักดิ์เพชร, แก้ว นวลฉวี, สุพรรณ กาญจนสุธรรม และณรงค์ พลีรักษ์. ความพึงพอใจของผู้ใช้งานโปรแกรมประยุกต์บนเว็บเชิงพื้นที่เพื่อเตือนภัยน้ำท่วมเมืองหาดใหญ่. วารสารวิชาการสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี(เพื่อการพัฒนาท้องถิ่น) มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ 2559; 11(2): 103 - 116.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ลงพิมพ์ในวารสารวิชาการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 จังหวัดนครราชสีมา ถือว่าเป็น
ลิขสิทธิ์ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 จังหวัดนครราชสีมา
