การพัฒนารูปแบบของหลักสูตรโรงเรียนรักษ์ไตวิทยา โรงพยาบาลมหาสารคาม

ผู้แต่ง

  • อริสรา สิทธิจันทร์เสน โรงพยาบาลมหาสารคาม
  • อนุชา ไทยวงษ์ วิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม คณะพยาบาลศาสตร์ สถาบันพระบรมราชชนก กระทรวงสาธารณสุข
  • นันท์ชญาน์ นฤนาทธนาเสฏฐ์ โรงพยาบาลมหาสารคาม
  • อุไรวรรณ ประเสริฐสังข์ โรงพยาบาลมหาสารคาม
  • มะรีวัล ไหลหาโคตร์ โรงพยาบาลมหาสารคาม
  • โชติรส ฤกษ์ดี โรงพยาบาลมหาสารคาม
  • มลฤดี แสนจันทร์ วิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม คณะพยาบาลศาสตร์ สถาบันพระบรมราชชนก กระทรวงสาธารณสุข
  • กำทร ดานา วิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม คณะพยาบาลศาสตร์ สถาบันพระบรมราชชนก กระทรวงสาธารณสุข

คำสำคัญ:

รูปแบบ, การชะลอไตเสื่อม, โรคไตเรื้อรัง, การสนับสนุนของครอบครัว

บทคัดย่อ

          การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ พัฒนาและศึกษาประสิทธิผลของรูปแบบของหลักสูตรโรงเรียนรักษ์ไตวิทยา โรงพยาบาลมหาสารคาม ประกอบด้วย 4 ขั้นตอนหลัก ได้แก่ 1) การวิเคราะห์สถานการณ์ปัญหาและความต้องการในการพัฒนา 2) การสร้างต้นแบบ ตรวจสอบคุณภาพ และศึกษานำร่อง 3) การทดสอบประสิทธิผลในกลุ่มตัวอย่างขนาดใหญ่โดยใช้แบบแผนการวิจัยกึ่งทดลองแบบหนึ่งกลุ่มวัดผลก่อน-หลัง กลุ่มตัวอย่างเลือกแบบเฉพาะเจาะจง คือผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังระยะที่ 3-4 คลินิกโรคไตเรื้อรัง โรงพยาบาลมหาสารคาม จำนวน 30 คน และ 4) การประเมินผล ปรับปรุงแก้ไขและยืนยันคุณภาพ เครื่องมือวิจัยประกอบด้วย แนวคำถามการสนทนากลุ่ม แบบบันทึกข้อมูลทั่วไป แบบวัดความรู้เกี่ยวกับโรคไตเรื้อรัง แบบวัดพฤติกรรมการจัดการตนเองเพื่อชะลอไตเสื่อม แบบวัดคุณภาพชีวิตทั่วไป และแบบบันทึกข้อมูลคลินิก ดำเนินการวิจัยระหว่างเดือนกันยายน 2565-สิงหาคม 2566 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา สถิติทดสอบทีรายคู่ และการวิเคราะห์เนื้อหา

          ผลการศึกษาพบว่า รูปแบบของหลักสูตรโรงเรียนรักษ์ไตวิทยา ประกอบด้วย 6 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) หลักสูตรรักษ์ไต 2) การจัดการเรียนรู้รายบุคคลและรายกลุ่ม 3) การเสริมสร้างการรับรู้สมรรถนะแห่งตน 4) การสนับสนุนทางสังคมโดยครอบครัว 5) การติดตามเยี่ยมด้วยการพยาบาลทางไกล และ 6) ชุดนวัตกรรมสื่อและอุปกรณ์ให้ความรู้ ภายหลังการทดลองใช้เป็นระยะเวลา 6 เดือน พบว่า กลุ่มตัวอย่างมีคะแนนเฉลี่ยความรู้และพฤติกรรมการจัดการตนเองเพื่อชะลอไตเสื่อมโดยรวม และมีระดับคุณภาพชีวิตสูงกว่าก่อนเข้าร่วมการทดลองอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ .05 นอกจากนี้กลุ่มตัวอย่างทุกรายมีอัตราการกรองของไตอยู่ในระยะเดิม ทีมสุขภาพมีความคิดเห็นสอดคล้องกันว่ารูปแบบของหลักสูตรฯ ที่พัฒนาขึ้นนี้ มีประโยชน์และมีความเป็นไปได้ในการนำไปใช้จริง สะท้อนให้เห็นว่ารูปแบบของหลักสูตรฯ ที่พัฒนาขึ้นช่วยให้ผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังมีพฤติกรรมการจัดการตนเองเพื่อชะลอไตเสื่อม ผลลัพธ์ทางคลินิกและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

เอกสารอ้างอิง

Arora, P., Jalal, K., Gupta, A., Carter, R. L., & Lohr, J. W. (2017). Progression of kidney disease in elderly stage 3 and 4 chronic kidney disease patients. International Urology Nephrology, 49(6), 1033-1040. https://doi.org/1033-1040. 10.1007/s11255-017-1543-9

Bandura, A. (1997). Self-efficacy: The exercise of control. Macmillan.

Bujang, M. A., Omar, E. D., Foo, D. H. P., & Hon, Y. K. (2024). Sample size determination for conducting a pilot study to assess reliability of a questionnaire. Restorative Dentistry & Endodontics, 49(1), e3. https://doi.org/10.5395/rde.2024.49.e3

Cheung, A. K., Chang, T. I., Cushman, W. C., Furth, S. L., Hou, F. F., Ix, J. H., Knoll, G. A., Muntner, P., Pecoits-Filho, R., & Sarnak, M. (2021). KDIGO 2021 clinical practice guideline for the management of blood pressure in chronic kidney disease. Kidney International, 99(3), S1-S87. https://doi.org/10.1016/j.kint.2020.11.003

Dai, D., Alvarez, P. J., & Woods, S. D. (2021). A predictive model for progression of chronic kidney disease to kidney failure using a large administrative claims database. Clinicoeconomics Outcomes Research, 13, 475-486. https://doi.org/10.2147/CEOR.S313857

de Boer, I. H., Caramori, M. L., Chan, J. C., Heerspink, H. J., Hurst, C., Khunti, K., Liew, A., Michos, E. D., Navaneethan, S. D., & Olowu, W. A. (2020). Executive summary of the 2020 KDIGO diabetes management in CKD guideline: Evidence-based advances in monitoring and treatment. Kidney International, 98(4), 839-848. https://doi.org/10.1016/j.kint.2020.06.024

Donald, M., Kahlon, B. K., Beanlands, H., Straus, S., Ronksley, P., Herrington, G., Tong, A., Grill, A., Waldvogel, B., & Large, C. A., Harwood, L., Novak, N., James, M. T., Elliott, M., Fernandez, N., Brimble, S., Samuel, S., & Hemmelgarn, B. R. (2018). Self-management interventions for adults with chronic kidney disease: A scoping review. BMJ Open, 8(3), e019814. https://doi.org/10.1136/bmjopen-2017-019814

Herrington, G., Waldvogel, B., Large, C., Large, C., & Fernandez, N. (2017). Self-management interventions for adults with chronic kidney disease: A scoping review. BMJ Open, 8(3), e019814. https://doi.org/10.1136/bmjopen-2017-019814

Hertzog, M. A. (2008). Considerations in determining sample size for pilot studies. Research in Nursing & Health, 31(2), 180-191. https://doi.org/10.1002/nur.20247

House, J. S., Umberson, D., & Landis, K. R. (1988). Structures and processes of social support. Annual Review of Sociology, 14(1), 293-318. https://doi.org/10.1146/ annurev.so.14.080188.001453

Kaneyama, A., Hirata, A., Hirata, T., Imai, Y., Kuwabara, K., Funamoto, M., Sugiyama, D., & Okamura, T. (2023). Impact of hypertension and diabetes on the onset of chronic kidney disease in a general japanese population. Hypertension Research, 46(2), 311-320. https://doi.org/10.1038/s41440-022-01041-9

Khwanchum, R., Pothiban, L., Wonghongkul, T., & Lirtmulikaporn, S. (2023). Effectiveness of the nurse-led self and family management support program among adults with early-stage chronic kidney disease: A Randomized controlled trial. Pacific Rim International Journal of Nursing Research, 28(1), 219–233. https://doi.org/10.60099/prijnr.2024.264735

Kovesdy, C. P. (2022). Epidemiology of chronic kidney disease: An update 2022. Kidney International Supplements, 12(1), 7-11. https://doi.org/10.1016/j.kisu.2021.11.003

Lorig, K. R., & Holman, H. R. (2003). Self-management education: History, definition, outcomes, and mechanisms. Annals of behavioral medicine, 26(1), 1-7. https://doi.org/10.1207/S15324796ABM2601_01

National Kidney Foundation. (2020). KDIGO 2020 clinical practice guideline for the evaluation and management of chronic kidney disease. Journal Kidney International Supplement, 3(1), 1-150. https://www.kidney-international.org/article/S0085-2538%2820%2930718-3/fulltext

Peng, S., He, J., Huang, J., Lun, L., Zeng, J., Zeng, S., Zhang, L., Liu, X., & Wu, Y. (2019). Self-management interventions for chronic kidney disease: a systematic review and meta-analysis. BMC nephrology, 20, 1-13. https://doi.org/10.1016/j.kint.2020.06.019

Suvamat, J., Powwattana, A., Thaingtham, W., Pichayapinyo, P., & Boonlue, S. (2023). Effectiveness of program to slow progression of chronic kidney disease among T2DM with HT with CKD 3 in the community: A randomized controlled trial. Journal of Primary Care & Community Health, 14, 21501319231210619. https://doi.org/10.1177/21501319231210619

Taba, H., & Spalding, W. B. (1962). Curriculum development: Theory and practice. Harcourt, Brace & World.

Wint, Y. Z., Lininger, J., & Leelacharas, S. (2023). Related factors with self-management behaviors among patients with predialysis chronic kidney disease: A multicenter study in Myanmar. Makara Journal of Health Research, 27(2), 3. https://doi.org/10.7454/msk.v27i2.1451

Yoomuang, P., & Suphannakul, P. (2023). Factors predicting self-management behaviors among patients with chronic kidney disease stage 3 in suphanburi province, Thailand. Malaysian Journal of Public Health Medicine, 23(1), 272-278. https://doi.org/10.37268/mjphm/ vol.23/no.1/art.1925

กัญญาณัฐ ใจกลาง. (2567). การพัฒนาโปรแกรมการสร้างเสริมการรับรู้สมรรถนะแห่งตนในการจัดการตนเองเพื่อชะลอไตเสื่อม ในผู้ป่วยไตเรื้อรังระยะ 4 โรงพยาบาลพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก. วารสารการพยาบาล สุขภาพ และสาธารณสุข, 3(3), 27-45.

กุลฤดี จงเทพ, และ นงลักษณ์ เมธากาญจนศักดิ์. (2560). ความเชื่อด้านสุขภาพเกี่ยวกับการบำบัดทดแทนไต ของผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังระยะที่ 4. วารสารพยาบาลทหารบก, 22(1), 186-194.

จันทร์เพ็ญ ประโยงค์, กชกร พุทธา, และ วินัย กล่อมแก้ว. (2563). การพัฒนารูปแบบการป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคไตเรื้อรังในอำเภอบ้านธิ จังหวัดลำพูน. วารสารวิชาการสาธารณสุข, 29(6), 1035-1043.

ณิชชารีย์ ภูมิพาณิชย์ชัย, วีณา อิศรางกูร ณ อยุธยา, และ สนใจ ไชยบุญเรือง. (2565). ประสิทธิผลของโปรแกรมการให้ความรู้ต่อพฤติกรรมการปฏิบัติตัวเพื่อชะลอการเสื่อมของไต ในคลินิกโรคไตเรื้อรัง โรงพยาบาลพล อำเภอพล จังหวัดขอนแก่น. วารสารวิทยาลัยบัณฑิตเอเซีย, 12(2), 123-133.

นิสากร วิบูลชัย, และ รุ่งทิวา ศรีเดช. (2563). การพัฒนาโปรแกรมการเสริมสร้างแรงจูงใจในการจัดการตนเองเพื่อชะลอไตเสื่อมในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่มีภาวะความดันโลหิตสูง. วารสารแพทย์นาวี, 47(2), 373-393.

เพียงดาว จุลบาท, และ นงณภัทร รุ่งเนย. (2564). ปัจจัยทำนายพฤติกรรมการจัดการตนเองเพื่อชะลอไตเสื่อมของผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง ระยะที่ 3-4 ในโรงพยาบาลพระจอมเกล้า จังหวัดเพชรบุรี. วารสารวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สุพรรณบุรี, 7(1), 95-112.

ไพศาล ไตรสิริโชค, หลั่งพร อุตรศาสตร์, และ วราทิพย์ แก่นการ. (2562). ผลของการสนับสนุนการจัดการตนเองโดยทีมสหสาขาวิชาชีพเพื่อชะลอโรคไตเรื้อรังในหน่วยบริการปฐมภูมิ โรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น. ศรีนครินทร์เวชสาร, 34(6), 552-558.

รัตนา เสนาหนอก. (2566). ผลของโรงเรียนเบาหวานสามัคคีต่อพฤติกรรมการจัดการตนเองความพึงพอใจในการรับบริการและระดับน้ำตาลสะสมในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานประเภท 2 ที่ควบคุมระดับน้ำตาลไม่ได้. วารสารการแพทย์โรงพยาบาลศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์, 38(2), 533-543.

โรงพยาบาลมหาสารคาม. (2565). รายงานผลการดำเนินงานนตามตัวชี้วัด คลินิกโรคไตเรื้อรัง โรงพยาบาลมหาสารคาม. โรงพยาบาลมหาสารคาม.

ศุภวรรน ยอดโปร่ง, และ ลัฆวี ปิยะบัณฑิตกุล. (2562). การพัฒนาโรงเรียนเบาหวานโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน. วารสารการพยาบาลและการดูสุขภาพ, 36(2), 185-195.

สมาคมโรคไตแห่งประเทศไทย. (2565, 5 พฤษภาคม). คำแนะนำสำหรับการดูแลผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังก่อนการบำบัดทดแทนไต พ.ศ. 2565. https://www.nephrothai.org/wp-content/uploads/2023/06/CKD-guideline_-draft

อนุชา ไทยวงษ์, นิโรบล กนกสุนทรรัตน์, และ สุชิรา ชัยวิบูลย์ธรรม. (2560). ความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มอาการไม่พึงประสงค์และคุณภาพชีวิตในผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง. วารสารการพยาบาลและการดูแลสุขภาพ, 35(3), 120-128.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-04-10

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย