โปรแกรมการพัฒนาความรอบรู้ด้านสุขภาวะในการป้องกันการสูบบุหรี่ของนักเรียนประถมศึกษาระดับชั้นปีที่ 5 - 6 จังหวัด สุพรรณบุรี
คำสำคัญ:
ความรอบรู้ด้านสุขภาพ, การป้องกันการสูบบุหรี่, นักเรียนประถมศึกษาบทคัดย่อ
การป้องกันการสูบบุหรี่ในเยาวชนเป็นการลดผู้สูบบุหรี่หน้าใหม่ที่สำคัญในสังคม การวิจัยนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลองแบบกลุ่มเดียว มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของโปรแกรมการส่งเสริมความรอบรู้ด้านสุขภาวะเพื่อการป้องกันการสูบบุหรี่ของนักเรียนประถมศึกษาระดับชั้นปีที่ 5 -6 จังหวัดสุพรรณบุรี กลุ่มตัวอย่าง คือวัยรุ่นชายและหญิงที่กำลังศึกษาในอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5-6 จำนวน 100 คน โดยใช้การสุ่มแบบเฉพาะเจาะจง โดยเป็นกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม กลุ่มละ 50 คน ดำเนินการทดลอง โดยจัดกิจกรรมการให้ความรู้และโปรแกรมพัฒนาความรอบรู้ด้านสุขภาวะ ระยะเวลา 4 สัปดาห์ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา วัดผลโปรแกรมก่อนและหลังการทดลองเปรียบเทียบความแตกต่างค่าเฉลี่ยด้วยสถิติ Paired Sample T-test
ผลการวิจัยพบว่า หลังทดลองค่าเฉลี่ยความรอบรู้ด้านสุขภาพเพื่อป้องกันการสูบบุหรี่ของนักเรียนประถมศึกษาระดับชั้นปีที่ 5 -6 ระหว่างทดลองและกลุ่มควบคุม กลุ่มทดลอง แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p -value<0.001) และค่าเฉลี่ยคะแนนของกลุ่มทดลองระหว่างก่อนและหลังการทดลองแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p-value<0.001)
ผลการศึกษามีข้อเสนอแนะในการดำเนินการป้องกันการสูบบุหรี่ในนักเรียนชั้นประถมศึกษา โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านการป้องกันการเสพของเสพติดควรจัดโปรแกรมการส่งเสริมความรอบรู้ด้านสุขภาวะ พร้อมกับให้ความรู้เกี่ยวกับโทษของการสูบบุหรี่ และการเลิกบุหรี่ พัฒนาทักษะการรู้เท่าทันสื่อให้แก่นักเรียนระดับประถมศึกษา
เอกสารอ้างอิง
กรมควบคุมโรค สำนักงานควบคุมการบริโภคยาสูบ. (2559). ความรู้พื้นฐานและประเภทของผลิตภัณฑ์ยาสูบ. (พิมพ์ครั้งที่ 2). ไนซ์ เอิร์ธ ดีไซน์.
กองสถิติเศรษฐกิจ. (2567, 3 เมษายน). การสำรวจการมีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในครัวเรือน. สำนักงานสถิติแห่งชาติ. https://www.nso.go.th/nsoweb/nso/survey_detail/jJ?set_lang=th
กองสุขศึกษา กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ. (2567, 3 เมษายน). แนวทางการดำเนินงานสุขศึกษาและพฤติกรรมสุขภาพ. กองสุขศึกษา กระทรวงสาธารณสุข. https://hed.hss.moph.go.th/wp-content/uploads/2024/06/แนวทางการดำเนินงานสุขศึกษาและพฤติกรรมสุขภาพ.pdf
กันต์ธสิทธิ์ พิมพ์สอาด และ อิทธิพัทธ์ สุวทันพรกูล. (2562). ประสิทธิผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบเน้นประสบการณ์เพื่อส่งเสริมความรู้ ความตระหนัก และทักษะปฏิบัติด้านอัคคีภัยของนักเรียนระดับประถมศึกษาชั้นปีที่ 6 สังกัดกรุงเทพมหานคร. วารสารพัฒนาการเรียนการสอน มหาวิทยาลัยรังสิต, 13(1), 1-13.
จรุณรักษ์ ยี่ภู่ อุษา คงทอง และ บุญเรือง ศรีเหรัญ. (2561). การพัฒนารูปแบบกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อลด ละ เลิกพฤติกรรมการสูบบุหรี่สำหรับผู้ป่วยยาเสพติดเด็กและวัยรุ่น. วารสารวไลยอลงกรณ์ปริทัศน์ (มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์. 8(1). 131 -142.
จารุวรรณ สนองญาติ พิศิษฐ์ พลธนะ เนติยา แจ่มทิม ลักขณา ศิรถิรกุล และ เมทณี ระดาบุตร. (2562). ผลของโปรแกรมการสร้างเสริมความรอบรู้ทางสุขภาวะโดยการเรียนรู้ผ่านเกม ต่อความรอบรู้ทางสุขภาวะในการป้องกันการเสพกัญชาในนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย. วารสารวิทยาลัยพยาบาลพระจอมเกล้า จังหวัดเพชรบุรี, 5(2), 14-27.
จีรภัทร์ รัตนชมภู และ ณรงค์ศักดิ์ หนูสอน. (2563). การป้องกันนักสูบบุหรี่หน้าใหม่ สังคมไทยต้องเปลี่ยนแปลง. วารสารวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี อุตรดิตถ์, 12(1), 13-27.
บุรฉัตร จันทร์แดง. (2560). ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมเสี่ยงต่อยาเสพติดของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนดงหลวงวิทยา อำเภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร. [วิทยานิพนธ์ปริญญารัฐประศาสนศาสตร์มหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม].
ประกิต วาทีสาธกกิจ. (2562). การสูบบุหรี่ของเยาวชน. มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่.
ปรัชพร กลีบประทุม ศรัณญา เบญจกุล มณฑา เก่งการพานิช และ ธราดล เก่งการพานิช. (2559). ผลของโปรแกรมส่งเสริมการเลิกสูบบุหรี่สำหรับผู้สูบบุหรี่ ในตำบลบางแก้ว อำเภอเมืองอ่างทอง จังหวัดอ่างทอง. วารสารวิชาการ Veridian E - Journal, Silpakorn University ฉบับภาษาไทย สาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, 3(4), 30-43.
ปรียานุช อุทัยรัศมี รุ่งรัตน์ ศรีสุริยเวศน์ และ พรนภา หอมสินธุ์. (2563). ผลของกระบวนการระดมพลังสร้างสรรค์ชุมชนต่อทัศนคติและความตั้งใจในการไม่สูบบุหรี่ของวัยรุ่นชายในสถานสงเคราะห์. วารสารพยาบาลศาสตร์, 43(1), 10-18.
พรรณปพร ลีวิโรจน์ และ อรวรรณ คุณสน. (2559). ผลของโปรแกรมการส่งเสริมความรอบรู้ด้านสุขภาพเพื่อการลด เลิกบุหรี่ของนักศึกษาระดับอาชีวศึกษาในสถาบันแห่งหนึ่งอำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี. วารสารสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 ขอนแก่น, 30(3), 160-170.
พัชราภัณฑ์ ไชยสังข์ ประภาส ธนะ รัชพร ศรีเดช และ นพภัสสร วิเศษ. (2563). ประสิทธิภาพของการพัฒนาศักยภาพด้านความรู้ และทักษะการให้คำปรึกษาเรื่องการเลิกบุหรี่ทางออนไลน์ในสถาบันการศึกษาในแกนนำนักศึกษาพยาบาล. วารสารพยาบาล, 69(1), 36-43.
ภาสกร เนตรทิพย์วัลย์.(2564). โปรแกรมสร้างเสริมความรอบรู้ทางสุขภาพเพื่อพัฒนาพฤติกรรมการป้องกันการสูบบุหรี่ในวัยรุ่นตอนต้นโดยประยุกต์การจัดการเรียนรู้แบบปรากฏการณ์เป็นฐาน. [วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต, มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ].
วิรัช วรรณรัตน์. (2560). คะแนนสอบและการตัดเกรด. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชพฤกษ์, 2(3), 1-11.
สุกฤตา สวนแก้ว และ ศิวพร อึ้งวัฒนา. (2564). ปัจจัยความรอบรู้ด้านสุขภาพที่สัมพันธ์กับพฤติกรรมการสูบบุหรี่และการดื่มสุราของวัยรุ่น ตำบลยางเนิ้ง อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่. วารสารพยาบาลสภากาชาดไทย, 14(2), 93-106.
สำนักเลขานุการคณะรัฐมนตรี. (2565). พระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. 2564 ประมวลกฎหมายยาเสพติด พระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดียาเสพติด พ.ศ. 2550 (แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2564). บัณฑิตอักษร.
อังศินันท์ อินทรกำแหง. (2560). การสร้างและพัฒนาเครื่องมือความรอบรู้ด้านสุขภาพของคนไทย. สถาบันวิจัยพฤติกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
Best, J. W., & Kahn, J. V. (2003). Research in Education. 9th Edition, Prentice-Hall of India Private Limited, New Delhi.
Cronbach, L. J. (1990). Essentials of psychology testing (5th ed.). New York: Harper.
Faul, F., Erdfelder, E., Lang, A. G., & Buchner, A. (2007). G*Power 3: A flexible statistical power analysis program for the social, behavioral, and biomedical sciences. Behavior Research Methods, 39, 175-191.
Likert, R. (1961). New Pattern of Management. Lipham.
Nutbeam, D. (2009). Defining and measuring health literacy: what can we learn from literacy studies? Int. Journal Public Health, 54, 303-305. https://link.springer.com/article/10.1007/s00038-009-0050-x
World Health Organization. (2016). Guidelines for controlling and monitoring the tobacco epidemic. World Health Organization. https://iris.who.int/handle/10665/42049
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สุพรรณบุรี
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สุพรรณบุรี และคณาจารย์ท่านอื่นๆในวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว