การประเมินความต้องการจำเป็นในการบริหารจัดการศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเพื่อส่งเสริมพัฒนาการเด็กตามวัยภายใต้สถานการณ์โควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น
คำสำคัญ:
ความต้องการจำเป็น, การบริหารจัดการ, ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก, การศึกษาปฐมวัย, โควิด-19 ประจำถิ่นบทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินความต้องการจำเป็นในการบริหารจัดการศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเพื่อส่งเสริมพัฒนาการเด็กตามวัยภายใต้สถานการณ์โควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น ใช้การวิจัยเชิงสำรวจแบบภาคตัดขวาง กลุ่มตัวอย่าง 385 คน ได้มาจากการสุ่มแบบชั้นภูมิ ประกอบด้วยผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หัวหน้าศูนย์ ครูปฐมวัย และผู้ดูแลเด็ก เครื่องมือคือแบบสอบถามประเมินความต้องการ 5 ด้าน ได้แก่ การบริหารจัดการ การจัดการเรียนรู้ การดูแลสุขภาพและความปลอดภัย บุคลากร และการมีส่วนร่วมของชุมชน ผ่านการตรวจสอบคุณภาพโดยผู้ทรงคุณวุฒิ (IOC = 0.67-1.00) และทดสอบความเชื่อมั่น (Cronbach's alpha = 0.94) วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติพรรณนาและดัชนี PNImodified
ผลการวิจัยพบความต้องการจำเป็นโดยรวมอยู่ในระดับสูง (PNImodified = 0.386) โดยด้านการบริหารจัดการมีความต้องการสูงสุด (0.434) ต้องพัฒนาการวางแผนเชิงกลยุทธ์ การสร้างแรงจูงใจ และการจัดสรรทรัพยากร รองลงมาคือด้านบุคลากร (0.423) ต้องเน้นการพัฒนาสมรรถนะครู และด้านการมีส่วนร่วมของชุมชน (0.388) ต้องสร้างความร่วมมือแบบหุ้นส่วน
การวิจัยสรุปได้ว่า การพัฒนาระบบบริหารจัดการที่ยืดหยุ่น การยกระดับศักยภาพครู และการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนเป็นความต้องการจำเป็นเร่งด่วนในการยกระดับคุณภาพศูนย์พัฒนาเด็กเล็กให้พร้อมรับมือกับความท้าทายในยุคโควิด-19 ประจำถิ่น และสนับสนุนพัฒนาการเด็กได้อย่างเหมาะสม
เอกสารอ้างอิง
กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น. (2565). ข้อมูลศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก สังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ปีงบประมาณ พ.ศ. 2565. http://www.dla.go.th/servlet/EbookServlet?category_id=4244
กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น. (2565). มาตรฐานการดำเนินงานศูนย์พัฒนาเด็กเล็กขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565. กรุงเทพฯ: กองส่งเสริมและพัฒนาการจัดการศึกษาท้องถิ่น.
กระทรวงศึกษาธิการ. (2560). หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2560. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.
กระทรวงสาธารณสุข. (2565). ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ชื่อและอาการสำคัญของโรคติดต่ออันตราย (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2565. ราชกิจจานุเบกษา, 139(224 ง), 42.
กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา. (2565). รายงานผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ต่อความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา. https://www.eef.or.th/wp-content/uploads/2022/07/EEF-Covid-Impact-on-Education-Inequality.pdf
คณะกรรมการส่งเสริมการพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ. (2564). (ร่าง) ยุทธศาสตร์การพัฒนาเด็กปฐมวัย พ.ศ. 2564-2570. https://www.dcy.go.th/webnew/upload/download/file_th_20964.pdf
คณะกรรมการส่งเสริมการพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ. (2564). แผนพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2560 - 2564 ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019. กรุงเทพฯ: กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์.
รุ่งนภา ตั้งจิตรเจริญกุล และคณะ. (2565). การมีส่วนร่วมของชุมชนในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตเด็กปฐมวัยในช่วงวิกฤตโควิด-19. วารสารพัฒนาสังคม, 24(1), 1-24.
วราภรณ์ ฤชัยพานิช. (2564). การปรับตัวเชิงรุกของครูปฐมวัยในยุควิถีใหม่ (New Normal). วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร, 23(2), 399-412.
วีระศักดิ์ ปัญญาสุข, จุฑามาศ บุญชู, และจิราพร บุญกอบ. (2565). ปัจจัยการบริหารจัดการสถานศึกษาปฐมวัยหลังสถานการณ์โควิด 19 จังหวัดบุรีรัมย์. วารสารบัณฑิตวิทยาลัย พิชญทรรศน์, 17(1), 207-220.
ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงศึกษาธิการ. (2564). รายงานผลกระทบของสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ที่มีต่อการจัดการศึกษาของประเทศไทย. https://www.moe.go.th/moe/upload/news20/FileUpload/49859-8297.pdf
ศูนย์อนามัยที่ 9 นครราชสีมา กรมอนามัย. (2565). ผลการประเมินสถานการณ์ผลกระทบโควิด-19 ต่อพัฒนาการเด็กในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จังหวัดชัยภูมิ. https://hpc9.anamai.moph.go.th/web/index.php?mode=research&id=71
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2561). แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560-2579. กระทรวงศึกษาธิการ.
สุภัทรา คงเรือง และภารดี อนันต์นาวี. (2564). การศึกษาความต้องการในการพัฒนาตนเองของครูปฐมวัยในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019. วารสารบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา, 14(2), 145-159.
Best, J. W. (1981). Research in education (4th ed.). Prentice Hall.
Bronfenbrenner, U. (1979). The Ecology of Human Development: Experiments by Nature and Design. Cambridge, MA: Harvard University Press.
Department of Disease Control. (2022). COVID-19 situation reports. https://covid19.ddc.moph.go.th/en
Heckman, J. J., Pinto, R., & Savelyev, P. (2013). Understanding the Mechanisms Through Which an Influential Early Childhood Program Boosted Adult Outcomes. American Economic Review, 103(6), 2052-2086.
Kekkonen, A., & Alasuutari, M. (2022). Striving to maintain ECEC quality in the time of COVID-19: The views of Finnish early childhood education and care directors. Journal of Early Childhood Research, 20(1), 95-110.
NAEYC. (2020). Developmentally Appropriate Practice in Early Childhood Programs Serving Children from Birth Through Age 8 (4th ed.). Washington, DC: National Association for the Education of Young Children.
Papadopoulou, K., Birbili, M., Liodaki, N., & Martini, A. (2022). COVID-19: Early childhood teachers' perceived stress, needs and concerns about the return to face-to-face teaching. European Early Childhood Education Research Journal, 30(1), 104-121.
Pratiwi, S. D., Fauziyah, N., Hanafi, M., & Hidayati, L. (2021). The Impact of COVID-19 on Early Childhood Development in Indonesia. International Journal of Early Childhood Special Education, 13(2), 1180-1187.
Supratikto, G., Kristiyani, N., & Amalia, N. (2022). Early Childhood Education Policy during COVID-19 Pandemic in Indonesia: Challenges and Strategies. International Journal of Early Childhood, 54(2), 285-298.
Szente, J. (2020). Live Virtual Sessions with Toddlers and Preschoolers Amid COVID-19: Implications for Early Childhood Teacher Education. Journal of Technology and Teacher Education, 28(2), 373-380.
Yamane, T. (1967). Statistics: An introductory analysis (2nd ed.). Harper and Row.
Zhao, Y., Guo, Y., Xiao, Y., Zhu, R., Sun, W., Huang, W., ... & Wu, J. L. (2020). The effects of online homeschooling on children, parents, and teachers of grades 1–9 during the COVID-19 pandemic. Medical science monitor: international medical journal of experimental and clinical research, 26, e925591-1.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สุพรรณบุรี
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สุพรรณบุรี และคณาจารย์ท่านอื่นๆในวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว