Relationship between Health Belief and Self-care Behaviors in Diabetes Mellitus Patient Muak Lek District, Saraburi Province
Keywords:
Health Belief, Self-care Behaviors, Diabetes MellitusAbstract
Diabetes is a chronic non-communicable disease. Complications arising from diabetes significantly impact the quality of life of patients. The objective of this study was to examine the levels of health beliefs, self-care behaviors, and the relationship between health beliefs and self-care behaviors among diabetic patients in Muak Lek District, Saraburi Province. A multi-stage random sampling method was employed to select a sample of 349 participants. The research instruments included a personal information questionnaire, a health beliefs questionnaire, and a self-care behavior questionnaire. The Index of item objective congruence (IOC) was from 0.87-1.00 and the reliability scores of Cronbach’s alpha coefficient were .811 and .725, data was analyzed using descriptive statistics, including percentages, arithmetic means, and standard deviations. The relationship between health beliefs and self-care behaviors among diabetic patients was examined using Pearson's correlation coefficient.
The results showed the overall health beliefs of diabetic patients were at a high level (M= 4.16, SD = 0.99). There overall self-care behaviors were at a moderate level (M = 3.20, SD = 1.38). There was a statistically significant positive correlation between overall health beliefs and self-care behaviors among diabetic patients, with a high level of correlation (r = .759) at the .01 level of significance.
The findings and recommendations should emphasize strategies for modifying health behaviors among diabetic patients to promote appropriate health practices. This approach aims to achieve sustainable and tangible outcomes in blood sugar control and the prevention of severe complications.
References
กมลพรรณ จักรแก้ว, รพีพร เทียมจันทร์, และวราภรณ์ ศิริสว่าง. (2562). การดูแลตนเองของผู้สูงอายุที่ป่วยด้วยโรคเบาหวาน ตำบลลวงเหนือ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่. วารสารวิทยาลัยบัณฑิตเอเชีย, 9(2), 32-38.
กระทรวงสาธารณสุข. (2567). ร้อยละของผู้ป่วยโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูงที่ควบคุมได้.
จรูญ บุญธกานนท์. (2565). ความชุกและปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับภาวะเบาหวานเข้าจอประสาทตาในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่2 หน่วยบริการปฐมภูมิ โรงพยาบาลเกษตรสมบูรณ์. วารสารการแพทย์โรงพยาบาลศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์, 37(2), 341-351.
จุฑาภรณ์ สว่างเมฆ. (2564). ปัจจัยที่มีผลต่อความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) หมู่บ้านปรับเปลี่ยนพฤติกรรมต้นแบบ จังหวัดกระบี่. วารสารอนามัยสิ่งแวดล้อมและสุขภาพชุมชน, 6(3), 121-130.
จุฬารัตน์ รวมจิต. (2565). ผลการใช้โปรแกรมการสอนทางกายภาพบำบัดตามรูปแบบความเชื่อด้านสุขภาพร่วมกับทฤษฎีความสามารถตนเองต่อระดับความเจ็บปวดและความสามารถทางกายของผู้ป่วยปวดหลังส่วนล่างเรื้อรังในคลินิกฝังเข็ม.http://202.29.52.112/dspace/bitstream/123456789/161/1/61552790108.pdf
ธีรศักดิ์ พาจันทร์, กฤชกันทร สุวรรณพันธุ์, บุญสัน อนารัตน์, และนิรันดร์ ถาละคร. (2565). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย. วารสารศูนย์อนามัยที่ 9, 16(1), 285-298.
นนทิยา กาลิ้ม. (2565). ความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้ภาวะสุขภาพ และพฤติกรรมสุขภาพของบุคลากรที่มีภาวะเมตาบอลิกซินโดรมโรงพยาบาลบ้านโป่ง. วารสารวิจัยเพื่อการส่งเสริมสุขภาพและคุณภาพชีวิต, 1(1), 37-48.
บุญชรัสมิ์ ธันย์ธิติธนากุล และสุมาพร ดุภะสกุล. (2565). แบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพ หลังจากติดไวรัส Covid-19 ในช่วงการเปลี่ยนแปลงสู่สังคมดิจิทัล. วารสาร มจร. อุบลปริทรรศน์, 7(3), 487-502.
ประเสริฐ ธนกิจจารุ, สกานต์ บุนนาค, และวรางคณา พิชัยวงศ์. (2557). โรคไตเรื้อรัง (Chronic Kidney Disease: CKD). โรงพยาบาลราชวิถี.
พิมพ์ใจ อันทานนท์. (2561). ภาวะแทรกซ้อนที่เท้าในผู้ป่วยเบาหวาน (Diabetic foot). สรุปเนื้อหางานอบรมวิชาการโรคต่อมไร้ท่อในเวชปฏิบัติ (ครั้งที่ 33). สาขาวิชาต่อมไร้ท่อและเมตะบอลิสม ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
พรพรรณ สมินทร์ปัญญา และกัญญ์ฐพิมพ์ บํารุงวงศ์. (2561). ความสัมพันธ์เชิงเหตุผลระหว่างตัวแปรคัดสรรที่มีผลต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่มารับบริการรักษาที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลคลองไทร อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชียฉบับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, 14(3), 86-98.
ยศธการ ศรีเนตร และวรรณศรี แววงาม. (2567). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่2 อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี. วารสารความปลอดภัยและสุขภาพ, 17(2), 177-197.
วิชุดา จันทะศิลป์, พรรณี บัญชรหัตถกิจ, ทัศพร ชูศักดิ์, และรัฐพล ศิลปะรัศมี. (2567). ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดไม่ได้ในจังหวัดนครราชสีมา.วารสารศูนย์อนามัยที่ 9, 18(2), 498-511.
วีรชัย ศรีวณิชชากร, และเพชร รอดอารีย์. (2565). การป้องกันโรคเบาหวานในสภาพการณ์ของประเทศไทย. วารสารวิชาการสาธารณสุข, 31(2), 363-375.
ศศิวรรณ ขันทะชา และเบญจา มุกตพันธุ์. (2564). ความสัมพันธ์ของพฤติกรรมการดูแลตนเองและความเชื่อเกี่ยวกับโรคเบาหวานกับการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ในพื้นที่ที่มีความหลากหลายเชื้อชาติ อำเภอนาแก จังหวัดนครพนม. ศรีนครินทร์เวชสาร, 36(1), 97-104.
สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ. (2564). ผลการศึกษาการประเมินผลการดูแลผู้ป่วยเบาหวานชนิด
ที่ 2 และความดันโลหิตสูง สปสช.เขต 4 สระบุรี.
https://www.nhso.go.th/storage/files/shares/PDF/fund_spec32.pdf
อรรัตน์ หวั่งประดิษฐ์, ชลาลัย โชคดีศรีจันทร์, สมสมัย ทัพนันท์, ศิริขวัญ โพธิ์แจ้ง, และจารุวรรณ สุรัสโม. (2567). การรับรู้ด้านสุขภาพและความร่วมมือในการใช้ยาของผู้สูงอายุโรคความดันโลหิตสูงที่ควบคุมระดับความดันโลหิตไม่ได้. วารสารวิจัยการพยาบาลและการสาธารณสุข, 4(2), 1-18.
อ้อมใจ แต้เจริญวิริิยะกุล และกิตติยา ศิลาวงศ์ สุวรรณกูฎ. (2559). การรับรู้และพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ป่วยโรคเบาหวาน ตำบลทุ่งมน อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์. วารสารวิจัยและพัฒนาระบบสุขภาพ, 9(2), 331-338.
อำนาจ เมืองแก้ว, อิสระพงศ์ เพลิดเพลิน, จิตรรัตน์ ปองทอง และเกษศิรินทร์ พุทธวงศ์. (2563). การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสี่ยงโรคไม่ติดต่อเรื้อรังด้านการบริโภคอาหารรสเค็มโดยใช้ชุมชนเป็นฐานในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน ปี พ.ศ. 2563. สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่1 จังหวัดเชียงใหม่.
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านข้าม. (2560). พฤติกรรมการดูแลสุขภาพของตนเองในกลุ่มผู้ป่วยโรคเบาหวาน ตำบลแม่เหียะ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่. https://www.nkp-hospital.go.th/th/H.ed/mFile/20180316191617.pdf
เพ็ญศรี ผาสุก. (2563). ความเชื่อด้านสุขภาพและพฤติกรรมการดูแลสุขภาพตนเองของผู้สูงอายุ ตำบล หนองแค อำเภอราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษ. วารสารวิชาการกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ, 16(1), 44-55.
ฤทธิชัย แกมนาค. (2567). ทัศนคติและพฤติกรรมในการออกกำลังกายของผู้สูงอายุโรงเรียนผู้สูงอายุ วัดหัวฝาย ตำบลสันกลาง อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย. วารสารนวัตกรรมการจัดการศึกษาและการวิจัย, 5(2), 445-454.
Becker, M.H. and Maiman, L.A. (1975) Sociobehavioral determinants of compliance with health and medical care recommendations.
https://www.scirp.org/reference/referencespapers?referenceid=913892
Best, J. W. (1977). Research in Education. New Jersey: Prentice hall Inc.
Krejcie.R.V. & D.W.Morgan. Determining Sample Size for Research Activities. Education and Psychological Measurement1970; 30: 607-601.
Lazarus, R S and Folkman, S, (1984). Stress, Appraisal, and Coping. New York: Springer.
Rosenstock, I. M. (1974). The health belief model and preventive health behavior. Health Education Monographs, 2, 354-386.
Downloads
Published
Issue
Section
License

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สุพรรณบุรี
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สุพรรณบุรี และคณาจารย์ท่านอื่นๆในวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว