ผลของการส่งเสริมความรู้ในการควบคุมป้องกันโรคเบาหวานด้วยแอปพลิเคชั่นไลน์ ต้านหวานร่วมกับปิงปองจราจรชีวิต 7 สี

ผู้แต่ง

  • อรนุช ประดับทอง วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สุรินทร์ คณะพยาบาลศาสตร์ สถาบันพระบรมราชชนก กระทรวงสาธารณสุข
  • กรวรรณ ผมทอง วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สุรินทร์ คณะพยาบาลศาสตร์ สถาบันพระบรมราชชนก กระทรวงสาธารณสุข
  • ชานนท์ ชุ่มนาเสียว วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สุรินทร์ คณะพยาบาลศาสตร์ สถาบันพระบรมราชชนก กระทรวงสาธารณสุข

คำสำคัญ:

การส่งเสริมความรู้, โรคเบาหวาน, ปิงปองจราจรชีวิต 7 สี, แอปพลิเคชั่นไลน์

บทคัดย่อ

           การส่งเสริมความรู้ที่ถูกต้องเพื่อควบคุมป้องกันโรคเบาหวานเป็นแนวทางที่สำคัญในการลดภาวะแทรกซ้อนของโรคเบาหวาน การวิจัยกึ่งทดลองแบบกลุ่มเดียววัดก่อนและหลังทดลองนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของการส่งเสริมความรู้ในการควบคุมป้องกันโรคเบาหวานด้วยแอปพลิเคชั่นไลน์ต้านหวานด้วยปิงปองจราจรชีวิต 7 สี กลุ่มตัวอย่าง สุ่มแบบเฉพาะเจาะจง โดยเป็นบุคคลที่มีอายุตั้งแต่ 20 ปี ขึ้นไป อาศัยในพื้นที่ชุมชนในจังหวัดสุรินทร์  และผู้มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานระดับน้ำตาลในเลือด 100-125 ml/dl ตามเกณฑ์ปิงปองจราจรชีวิต 7 สี ในระดับสีเขียวอ่อนขึ้นไป เครื่องมือการวิจัยแบ่งออกเป็น 2 ส่วน 1) แอปพลิเคชั่นไลน์ต้านหวาน 2) แบบสอบถาม ได้แก่ 1)  แบบสอบถามความพึงพอใจ และ 2) แบบทดสอบวัดความรู้ในการการควบคุมป้องกันโรคเบาหวาน และวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบ paired t-test

           ผลการวิจัยพบว่า ภายหลังการส่งเสริมความรู้ในการควบคุมป้องกันโรคเบาหวานด้วยแอปพลิเคชั่นไลน์ต้านหวานด้วยปิงปองจราจรชีวิต 7 สี กลุ่มตัวอย่างมีคะแนนเฉลี่ยของความรู้ หลังการใช้แอปพลิเคชั่นไลน์สูงกว่าคะแนนเฉลี่ยก่อนการทดลอง อย่างมีนัยสําคัญที่ระดับ .01 2) กลุ่มตัวอย่างมีความพึงพอใจในระดับมากที่สุด (M= 4.64, SD=0.29)

           สรุปผล พบว่าแอปพลิเคชั่นไลน์ต้านหวานด้วยปิงปองจราจรชีวิต 7 สี สามารถนำไปใช้ในการส่งเสริมความรู้ในการควบคุมป้องกันโรคเบาหวานแก่ผู้ที่มีภาวะเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวานได้

เอกสารอ้างอิง

กองโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค. (2562). รายงานประจำปี 2562. กลุ่มยุทธศาสตร์แผนและประเมินผล กองโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข

กลสุภา สิงคิบุตร, เรืองฤทธิ์ โทรพันธ์ และเพชรรัตน์ พิบาลวงศ์. (2567). การพัฒนาแอปพลิเคชันเพื่อติดตามและเตือนอาการผิดปกติต่อความรู้พฤติกรรมการปฏิบัติตัวและระดับน้าตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวาน. วารสารศาสตร์สุขภาพและการศึกษา, 30(2), 56-74.

กรมควบคุมโรค. (2566). โรคเบาหวาน. https://www.hfocus.org/content/2023/11/28921

กองโรคไม่ติดต่อ, (2566). รายงานประจำปี 2566 กองโรคไม่ติดต่อ. กลุ่มยุทธศาสตร์แผนและประเมินผล กองโรคไม่ ติดต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข.

จุฬาวลี มณีเลิศ. (2564). การพัฒนาแอปพลิเคชันคัดกรองกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง. วารสารวิจัย ราชภัฏเชียงใหม่, 22(3), 109-125.

น้ำเพ็ญ พรหมประสิทธิ์, สุภาวดี มากอ้น และสมชาย ตุละ. (2563). แอปพลิเคชันส่งเสริมการออกกำลังกายสำหรับผู้สูงอายุผ่านสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์. วารสารศรีปทุมปริทัศน์ ฉบับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, 12(1): 164-175

ทรงวุฒิ สารจันทึก และลือรัตน์ อนุรัตน์พาณิช. (2565). ผลลัพธ์ในการติดตามผลการรักษาผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ด้วยแอปพลิเคชั่นไลน์. เชียงรายเวชสาร, 14(2),

-88.

ปิยะพร ศิษย์กุลอนันต์ และพรสวรรค์ คําทิพย์. (2563). ผลของโปรแกรมการจัดการตนเองและ การติดตามด้วยแอพพลิเคชั่น LINE ต่อพฤติกรรมการรับประทานอาหาร การออกกาลังกาย แกว่งแขน และระดับน้ำตาลในเลือดของสตรีที่มีภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์. วารสารสภาการพยาบาล, 35(2), 52-69.

ลักษณา พงษ์ภุมมา และศุภรา หิมานันโต. (2560). ความรู้และพฤติกรรมการดูแลตนเองของผ้ป่วยเบาหวานชนิดที่2 ตําบลบางทราย อําเภอเมือง จังหวัดชลบุรี. วารสาร มฉก.วิชาการ, 20(40), 67-76.

รุ่งนภา อาระหัง, สุธีรา ฮุ่นตระกูล และศศิธร รุจนเวช. (2561). ผลของโปรแกรมการส่งเสริมความรอบรู้ด้านสุขภาพต่อพฤติกรรมการป้องกันโรคความดันโลหิตสูงสำหรับกลุ่มเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูงที่ชุมชนแห่งหนึ่งในจังหวัดนครปฐม. วารสารแพทย์นาวี, 43(3), 509-526.

สุจิตราภรณ์ ทับครอง, เพ็ญรุ่ง นวลแจ่ม, นิตยา วิโรจนะ และพาจนา ดวงจันทร์ (2563) การศึกษาเรื่อง ผลของการใช้สื่อสุขภาพรูปแบบแอพพลิเคชั่น LINE ต่อความรู้และความเข้าใจโรคเบาหวานของบุคลากรในสถานศึกษา. วารสารพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม, 19(36), 78-87

อุษณีย์ ดำรง .(2563). โรคเบาหวาน. https://www.goodhealthdata.com/basic-knowledge-about diabetes/?fbclid=IwAR1rCR8PPJZStls9cbBdsR98no3LFbJii47TfmSkq- JgptGz9tKtsrCDqMo.

American Diabetes Association, (2025). Standards of Care in Diabetes—2025. https://diabetesjournals.org/care/issue/48/Supplement_1

Hong, M. K., Cho, Y. Y., Rha, M. Y., Kim, J. H., & Lee, M. K. (2015). Six-month Outcomes of Mobile Phone Application-based Self-management in a Patient with Type 2 Diabetes. Clinical nutrition research, 4(3), 201–207.

Kusnanto, Widyanata, K. A. J., Suprajitno, & Arifin, H. (2019). DM-calendar app as a diabetes self-management education on adult type 2 diabetes mellitus: a randomized controlled trial. Journal of diabetes and metabolic disorders, 18(2), 557–563.

Rusdiana, Savira, M., & Amelia, R. (2018). The Effect of Diabetes Self-Management Education on Hba1c Level and Fasting Blood Sugar in Type 2 Diabetes Mellitus Patients in Primary Health Care in Binjai City of North Sumatera, Indonesia. Open access Macedonian journal of medical sciences, 6(4), 715–718.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-06-19

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย