ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการเลิกบุหรี่ของผู้สูบบุหรี่ที่อยู่ในครอบครัวของผู้ที่มารับบริการในคลินิกฝากครรภ์ หน่วยหลังคลอดและคลินิคสุขภาพเด็กดีในโรงพยาบาลของรัฐ

Main Article Content

วาริศา วิเศษสรรพ์
ชมพูนุท พงษ์ศิริ

Abstract

การวิจัยนี้เป็นวิจัยเชิงพรรณนา มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาพฤติกรรมการเลิกบุหรี่ ปัจจัยด้านการรับรู้ ประโยชน์ของการเลิกบุหรี่ การรับรู้อุปสรรคของการ เลิกบุหรี่ การรับรู้ความสามารถในการเลิกบุหรี่ ความตั้งใจ ในการเลิกบุหรี่ และสัมพันธภาพครอบครัวของผู้สูบบุหรี่ และศึกษาอำนาจการทำนายระหว่างปัจจัยด้านการรับรู้ ประโยชน์ของการเลิกบุหรี่ การรับรู้อุปสรรคของการ เลิกบุหรี่ การรับรู้ความสามารถในการเลิกบุหรี่ ความตั้งใจ ในการเลิกบุหรี่ และสัมพันธภาพครอบครัวกับพฤติกรรม การเลิกบุหรี่ของผู้สูบบุหรี่ โดยกลุ่มตัวอย่างเป็นผู้สูบบุหรี่ในครอบครัวหญิงตั้งครรภ์ หญิงหลังคลอดและเด็ก ที่มารับบริการในคลินิกฝากครรภ์ หน่วยหลังคลอดและ คลินิกสุขภาพเด็กดีในโรงพยาบาลของรัฐ 9 แห่ง จำนวน 197 คน เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถามที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น ตามหลักแนวคิดตามโมเดลส่งเสริมสุขภาพของเพนเดอร์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปคอมพิวเตอร์ สถิติที่ใช้ประกอบด้วย ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบน มาตรฐาน ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ และวิธีวิเคราะห์ ความถดถอยพหุคูณแบบคัดเลือก (Multiple linear regression) ผลการวิจัยพบว่า

1. ผู้สูบบุหรี่ในครอบครัวมีพฤติกรรมการเลิกบุหรี่ อยู่ในระดับปานกลาง (\inline \dpi{80} \bar{X} = 2.24, SD = 0.53) การรับรู้ ประโยชน์ของการเลิกบุหรี่ของผู้สูบบุหรี่ในครอบครัวอยู่ใน ระดับสูง (\inline \dpi{80} \bar{X} = 3.10, SD = 0.42) การรับรู้อุปสรรค ของการเลิกบุหรี่ การรับรู้ความสามารถในการเลิกบุหรี่ ความตั้งใจในการเลิกบุหรี่และสัมพันธภาพครอบครัวของ ผู้สูบบุหรี่ในครอบครัวอยู่ในระดับปานกลาง (\inline \dpi{80} \bar{X} = 2.61, 2.91, 2.73 และ 2.98 SD = 0.51,0.50, 0.50 และ 0.54 ตามลำดับ)

2. ปัจจัยด้านการรับรู้ความสามารถในการเลิกบุหรี่ และความตั้งใจในการเลิกบุหรี่มีความสัมพันธ์ทางบวก กับพฤติกรรมการเลิกบุหรี่ของผู้สูบบุหรี่ในครอบครัวอย่าง มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 (r = 0.211 และ 0.343 ตามลำดับ)

3. ปัจจัยด้านความตั้งใจในการเลิกบุหรี่สามารถ ทำนายพฤติกรรมการเลิกบุหรี่ได้ร้อยละ 8.3 (p < .05)

ข้อเสนอแนะจากการวิจัย : ปัจจัยด้านความตั้งใจ ในการเลิกบุหรี่เป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการเลิกบุหรี่ ดังนั้นพยาบาลจึงควรหาแนวทาง หรือกลยุทธ์เพื่อ ส่งเสริมให้ผู้สูบบุหรี่มีความมุ่งมั่นตั้งใจในการเลิกบุหรี่ และสามารถเลิกบุหรี่ได้สำเร็จ

 

Factors Influencing Smoking Cessation among Smokers with Family Members Seeking Antenatal, Postpartum and Well Baby Care in the Government Hospitals

Visetsun, V. and Pongsiri, C.

The purpose of this descriptive study was to explore smoking cessation behavior and influencing factors including perceived benefits, perceived barriers, perceived self-efficacy, intention to quit, and family relationships. The participants included 197 smokers with family members seeking services at ANC, postpartum clinic, and well baby clinics of nine government hospitals. The questionnaire was developed and used for data collection based on Pender's Health Promotion Model. SPSS Program was utilized for data analysis including percentage, mean, SD, Pearson's correlation and multiple linear regression.

Study findings included:

1) Smokers had smoking cessation behavior at a moderate level (\inline \dpi{80} \bar{X} = 2.24, SD = 0.53), perceived benefits of quitting smoking was at a high level (\inline \dpi{80} \bar{X} = 3.10, SD = 0.42), perceived barriers of smoking cessation, perceived self-efficacy in quitting smoking, intention to quit and family relationships were at a moderate level (\inline \dpi{80} \bar{X} = 2.61, 2.91, 2.73 and 2.98; SD = 0.51,0.50, 0.50 and 0.54 respectively).

2) There was a statistically significant relationship between perceived self-efficacy and smoking cessation behavior, and between intention to quit and smoking cessation at p = .01 (r = 0.211 and 0.343).

3) Intention to quit had predictor accounted for 8.30% of the variance a significant influence on smoking cessation behavior among participants at p value = .05 (Beta = .211).

The findings of this study show that : Intention to quit had a significant influence on smoking cessation behavior. Consequently nurses should use strategies to encourage smokers who are determined to quit. And help them to quit successfully.

Article Details

How to Cite
วิเศษสรรพ์ ว., & พงษ์ศิริ ช. (2016). ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการเลิกบุหรี่ของผู้สูบบุหรี่ที่อยู่ในครอบครัวของผู้ที่มารับบริการในคลินิกฝากครรภ์ หน่วยหลังคลอดและคลินิคสุขภาพเด็กดีในโรงพยาบาลของรัฐ. Thai Journal of Nursing, 61(1), 42–53. Retrieved from https://he02.tci-thaijo.org/index.php/TJN/article/view/47482
Section
Research Article