ผลของโปรแกรมพัฒนาความสามารถในการฟื้นฟูสมรรถภาพกล้ามเนื้อ ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองของผู้ดูแล อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยกึ่งทดลองนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการฟื้นฟูสมรรถภาพกล้ามเนื้อผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองของผู้ดูแล กำลังกล้ามเนื้อและความสามารถในการทำกิจวัตรประจำวันของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง กลุ่มทดลองและกลุ่มเปรียบเทียบ ระหว่างก่อนและหลังทดลอง และระหว่างกลุ่มทดลองและกลุ่มเปรียบเทียบ หลังทดลอง กลุ่มตัวอย่าง เป็นผู้ดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองที่เป็นผู้ดูแลหลักและอาศัยอยู่บ้านเดียวกับผู้ป่วย และผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ที่มารับการรักษาในโรงพยาบาลพนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา และอาศัยอยู่ในอำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ จำนวน 66 คน เลือกแบบเจาะจง แบ่งเป็นกลุ่มทดลองและกลุ่มเปรียบเทียบ กลุ่มละ 33 คน เครื่องมือทดลองเป็นโปรแกรมพัฒนาความสามารถในการฟื้นฟูสมรรถภาพกล้ามเนื้อผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองของผู้ดูแล ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นตามแนวคิดทฤษฎีการดูแลตนเองของโอเร็ม โดยใช้ระบบการพยาบาลแบบสนับสนุนและให้ความรู้ เครื่องมือรวบรวมข้อมูล เป็นแบบสอบถามความสามารถในการฟื้นฟูสมรรถภาพกล้ามเนื้อผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง มีค่าสัมประสิทธิ์แอลฟ่าของครอนบาค 0.94 และแบบบันทึกข้อมูลส่วนบุคคล กำลังกล้ามเนื้อผู้ป่วย และความสามารถในการทำกิจวัตรประจำวัน วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติพรรณนา การทดสอบที วิลคอกซันซายน์แรงค์ และแมนวิทนีย์ยู ผลการวิจัย พบว่า (1) หลังทดลอง ผู้ดูแลกลุ่มทดลองมีความสามารถในการฟื้นฟูสมรรถภาพกล้ามเนื้อผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองสูงกว่าก่อนทดลอง และสูงกว่ากลุ่มเปรียบเทียบ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < .05) ผู้ดูแลกลุ่มเปรียบเทียบมีความสามารถในการฟื้นฟูสมรรถภาพกล้ามเนื้อ ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองไม่แตกต่างจากก่อนทดลอง และ (2) หลังทดลอง ผู้ป่วยกลุ่มทดลองมีกำลังกล้ามเนื้อและความสามารถในการทำกิจวัตรประจำวันสูงกว่าก่อนทดลอง และมีกำลังกล้ามเนื้อซีกขวาและความสามารถในการปฏิบัติกิจวัตรประจำวันสูงกว่ากลุ่มเปรียบเทียบ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < .05) ผู้ป่วยกลุ่มเปรียบเทียบมีกำลังกล้ามเนื้อและความสามารถในการทำกิจวัตรประจำวันไม่แตกต่างจากก่อนทดลอง
Article Details
เอกสารอ้างอิง
กอบกุล พันธ์เจริญวรกุล. (2553). ศาสตร์ทางการพยาบาล. ใน เอกสารการสอนชุดวิชา มโนมติและกระบวนการพยาบาล ฉบับปรับปรุง (พิมพ์ครั้งที่ 13, น. 113-171). นนทบุรี: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
กระทรวงสาธารณสุข สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์. (2559). สถิติสาธารณสุข (Public Health Statistics). นนทบุรี: ผู้แต่ง.
กระทรวงสาธารณสุข สำนักโรคไม่ติดต่อ. (2561). โรคหลอดเลือดสมองและการรักษา. สืบค้นเมื่อ 5 มีนาคม 2561, จาก http://thaihealthlife.com
เตือนตา สุขเกษ. (2561). ผลของโปรแกรมพัฒนาความสามารถการดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองของผู้ดูแล อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร. วารสารพยาบาล, 67(3), 19-28.
นพรัตน์ รุจิรารุ่งเรือง. (2551). ผลของโปรแกรมการสอนแนะร่วมกับการฝึกการเคลื่อนไหวของร่างกายต่อความสามารถในการปฏิบัติกิจวัตรประจำวันของผู้ป่วยสูงอายุโรคหลอดเลือดสมอง (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต ไม่ได้ตีพิมพ์). จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, กรุงเทพมหานคร.
บุญใจ ศรีสถิตย์นรากูร. (2553). ระเบียบวิธีการวิจัยทางพยาบาลศาสตร์ (พิมพ์ครั้งที่ 5). กรุงเทพมหานคร: ยู แอนด์ไอ อินเตอร์มีเดีย.
โรงพยาบาลพนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา งานเวชระเบียน. (2561). สรุปรายงานผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ปีงบประมาณ 2556. สุรินทร์: ผู้แต่ง.
สุทธิชัย จิตะพันธ์กุล. (2545). การดูแลระยะยาว (Long-term care) และทิศทางนโยบายที่ควรจะเป็นสำหรับประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียแปซิก. วารสารพฤฒาวิทยาและเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ, 3(5), 40-42.
สุทธีพร มูลศาสตร์. (2559). แนวคิดทฤษฎีการพยาบาลที่นำมาใช้ในการพยาบาลเวชปฏิบัติชุมชน. ใน ประมวลสาระชุดวิชา นโยบายและระบบสุขภาพ ภาวะผู้นำ แนวคิดทฤษฎีทางการพยาบาล และบทบาทของพยาบาลเวชปฏิบัติชุมชน (พิมพ์ครั้งที่ 1, น. 11-1 - 11-75). นนทบุรี: สำนักพิมพ์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
Medical Research Council. (1976). Aids to the examination of the peripheral nervous system, Memorandum no. 45. London: Her Majesty’s Stationery Office.
Orem, D. E., Taylor, S. G., & Renpening, K. M. (2001). Nursing: Concepts of practice (6th ed.).
St. Louis: Mosby.
Simon, R. P., Greenberg, D., & Aminoff, M. J. (Eds.). (2009). Clinical neurology. New York: McGraw-Hill.