ผลของการใช้โคล์ดครีมทาผิวหนังต่อการป้องกันการเกิดแผลกดทับระยะแรก ในผู้ป่วยที่ติดเตียงช่วยเหลือตัวเองไม่ได้หน่วยการพยาบาลผู้ป่วยหนัก โรงพยาบาลชลประทาน

Main Article Content

สดใส สิ่งคงสิน
เณศรา สัมพันธรัตน์
ศิริภา ชื่นตระกูล

บทคัดย่อ

การวิจัยเชิงทดลองนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของการใช้โคล์ดครีม ทาผิวหนังต่อการป้องกันการเกิดแผลกดทับระยะแรกในผู้ป่วยที่ติดเตียง ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ หน่วยการพยาบาลผู้ป่วยหนักโรงพยาบาลชลประทาน กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ป่วยที่มารับบริการหน่วยการพยาบาลผู้ป่วยหนัก 30 ราย เลือกแบบเจาะจง   ผู้ป่วยทั้ง 30 คนได้รับการพยาบาลตามมาตรฐาน  และการพยาบาลตามมาตรฐานร่วมกับใช้โคล์ดครีม  เครื่องมือวิจัย ได้แก่   แบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคล  แบบประเมินการเกิดแผลกดทับ การพยาบาลตามมาตรฐาน  และการพยาบาลตามมาตรฐานร่วมกับใช้โคล์ดครีม    วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบน  ผลการวิจัย พบว่าผู้ป่วยทุกคนที่ได้รับการพยาบาลตามมาตรฐาน และได้รับการพยาบาลตามมาตรฐาน ร่วมกับใช้ โคล์ดครีมไม่เกิดแผลกดทับทั้งก่อนและหลังการทดลอง

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
สิ่งคงสิน ส., สัมพันธรัตน์ เ., & ชื่นตระกูล ศ. (2020). ผลของการใช้โคล์ดครีมทาผิวหนังต่อการป้องกันการเกิดแผลกดทับระยะแรก ในผู้ป่วยที่ติดเตียงช่วยเหลือตัวเองไม่ได้หน่วยการพยาบาลผู้ป่วยหนัก โรงพยาบาลชลประทาน. วารสารพยาบาล, 68(4), 49–55. สืบค้น จาก https://he02.tci-thaijo.org/index.php/TJN/article/view/233548
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

จิณพิชญ์ชา มะมม. (2554). ผลของรูปแบบการพัฒนาทักษะการดูแลต่อการหายของแผลในผู้ป่วยที่มีแผล
กดทับ. ปทุมธานี: โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

จิตสมาน กี่ศิริ. (2525). เภสัชกรรมพื้นฐาน. กรุงเทพมหานคร: ภาควิชาเภสัชกรรม คณะ เภสัชศาสตร์
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

วาสนา มิกราช. (2557). การพัฒนาแนวปฏิบัติการป้องกันการเกิดแผลกดทับในแผนกหอผู้ป่วยหนัก
โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสว่างแดนดิน. สืบค้นเมื่อ 8 กุมภาพันธ์ 2559, จาก
http://sawanghospita.com/sawang/cqisearch.php

โรงพยาบาลโรคผิวหนังเขตร้อนภาคใต้ จังหวัดตรัง. (2553). การพัฒนากระบวนการผลิตยา 5% Coal tar in
0.05% Betamethasone valerate cream โดยใช้วิธี Homogenization. สืบค้นเมื่อ 22 มีนาคม 2559,
จาก www.trangskin.org/web2010/?name=knowledge&file=readknowledge&id=21

อัจฉรา สุคนธรรพ์. (2532). การป้องกันและการพยาบาลผู้ป่วยที่มีแผลกดทับ. เชียงใหม่: ภาควิชาการ
พยาบาลศัลยศาสตร์ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.

อรรถ นิติพน. (2560). แผลกดทับ อย่าปล่อยไว้ให้รุนแรง. สืบค้นเมื่อ 1 ธันวาคม 2561, จาก
https://www.bangkokhospital.com/th/disease-treatment/pressure-ulcers

Ash, M., & Ash, I. (2004). Handbook of green chemicals. Endicott, NY: Synapse Information
Resources.

Cochran, W. G. (1953). Sampling techniques. New York: John Wiley & Sons.

National Pressure Ulcer Advisory Panel. (2009). Treatment of pressure ulcers: Quick
reference guide. Washington, DC: Author.

Reynolds, J. E. F. (Ed.). (1989). Matindale the extra pharmacopoeia (29th. ed.). London: The
Phamaceutical Press.

U. S. Food and Drug Administration. (2016). Paraben. Retrieved April 6, 2016, from
http://www.fda.gov/cosmetics/productsingredients/ingredients/ucm128042.htm

U. S. National Library of Medicine. (2016). Sodium dodecyl sulfate. Retrieved April 6, 2016, from
http://pubchem.ncbi.nlm.nih.gov/compound/Sodium-dodecyl-sulfate

Web MD. (2009). Vitamin and supplements. Retrieved April 6, 2016, from http://www.webmd.com/
vitamins-supplements/ingredientmono-305beeswax.aspx?activeingredientid=305

Wikipedia. (2018). Braden scale for predicting pressure ulcer risk. Retrieved December 1, 2018, from
https://en.wikipedia.org/wiki/Braden_Scale_for_Predicting_Pressure_Ulcer_Risk