การพัฒนารูปแบบการวางแผนจำหน่ายผู้ป่วยสูงอายุที่เป็นโรคปอดอักเสบ สถาบันโรคทรวงอก
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยและพัฒนานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัญหาของรูปแบบการวางแผนจำหน่ายผู้ป่วยสูงอายุที่เป็นโรคปอดอักเสบ สถาบันโรคทรวงอก 2) พัฒนารูปแบบการวางแผนจำหน่ายผู้ป่วยสูงอายุที่เป็นโรคปอดอักเสบ และ 3) เปรียบเทียบการรับรู้สมรรถนะแห่งตน และความพึงพอใจต่อรูปแบบการวางแผนจำหน่ายผู้ป่วยสูงอายุของผู้ดูแลกลุ่มในระยะศีกษาปัญหาและหลังการใช้รูปแบบ ฯ กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 85 คน เลือกแบบเจาะจง ได้แก่ 1) พยาบาลวิชาชีพ 9 คน และ 2) ผู้ดูแลผู้ป่วยสูงอายุ 76 คน เครื่องมือวิจัย ได้แก่ แบบสอบถามการรับรู้สมรรถนะแห่งตน และความพึงพอใจต่อรูปแบบการวางแผนจำหน่ายของผู้ดูแล หาค่าสัมประสิทธิ์ความเที่ยงได้เท่ากับ 0.96 และรูปแบบการวางแผนจำหน่ายที่พัฒนาขึ้น วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา และการทดสอบที ผลการวิจัยพบว่า 1) สภาพปัญหา มีใน 3 ด้าน ได้แก่ (1) ด้านโครงสร้าง มีนโยบายการวางแผนจำหน่าย แต่ไม่มีรูปแบบที่เป็นลายลักษณ์อักษร ไม่มีส่วนร่วมของผู้ดูแล และไม่มีอุปกรณ์ (2) ด้านกระบวนการ ไม่มีขั้นตอนการปฏิบัติ และการบันทึกที่เป็นระบบ และ (3) ด้านผลลัพธ์ ไม่มีการประเมินผลอย่างเป็นระบบ 2) รูปแบบการวางแผนจำหน่ายที่พัฒนาขึ้น มีขั้นตอนอย่างเป็นระบบ มีการประเมินผู้ป่วยและผู้ดูแล การวินิจฉัย การวางแผนร่วมกันระหว่างพยาบาล ผู้ป่วย และผู้ดูแล การปฏิบัติตามแผน การประเมินผลโดยใช้ D-METHOD และการเสริมสร้างพลังอำนาจ และ 3) หลังการใช้รูปแบบ ฯ ผู้ดูแลมีการรับรู้สมรรถนะแห่งตน และความพึงพอใจต่อรูปแบบการวางแผนจำหน่าย ฯ สูงกว่ากลุ่มผู้ดูแลในระยะศึกษาปัญหา (p < .05)
Article Details
References
กระทรวงสาธารณสุข กรมควบคุมโรค, สำนักงานระบาดวิทยา. (2561). สรุปรายงานการเฝ้าระวังโรคทางระบาด
วิทยา ประจำปี 2561. นนทบุรี: ผู้แต่ง.
กำธร มาลาธรรม. (2550). โรคติดเชื้อในผู้สูงอายุ. รามาธิบดีพยาบาลสาร, 13(3), 272-287.
ชไมพร บัวพิน. (2562). ประสิทธิผลของแนวปฏิบัติทางการพยาบาลการวางแผนจำหน่ายต่อคุณภาพชีวิตของ
ผู้ป่วยสูงอายุโรคหลอดเลือดสมอง. วารสารเครือข่ายวิทยาลัยพยาบาลและการสาธารณสุขภาคใต้, 6(1),
- 62.
นวลตา โพธิ์สว่าง. (2557). การพัฒนารูปแบบการวางแผนจำหน่ายผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง. วารสารการ
พยาบาลและการดูแลสุขภาพ, 32(1), 165-175.
บุญใจ ศรีสถิตย์นรากูร. (2553). ระเบียบวิธีการวิจัยทางพยาบาลศาสตร์ (พิมพ์ครั้งที่ 5). กรุงเทพมหานคร:
ยูแอนไออินเตอร์มีเดีย.
ประคอง กรรณสูต. (2542). สถิติเพื่อการวิจัยทางพฤติกรรมศาสตร์(พิมพ์ครั้งที่ 3). กรุงเทพมหานคร:
สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
เพ็ญจันทร์ แสนประสาน. (2560). การวางแผนจําหน่ายผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาโรคหลอดเลือดโคโรนารีย์
ผ่านสายสวน: มุมมองของผู้ป่วยสูงอายุโรคหัวใจขาดเลือดและญาติผู้ดูแล. วารสารพยาบาลโรคหัวใจ
และทรวงอก, 28(1), 142-153.
เรวดี ศรีสุข. (2558). ผลของโปรแกรมการวางแผนจำหน่ายต่อพฤติกรรมการดูแลตนเองและภาวะสุขภาพ
ของผู้ป่วยสูงอายุที่มีภาวะหัวใจล้มเหลวที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลศูนย์เขตภาคกลาง.
วารสารวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี อุตรดิตถ์, 7(1), 13-30.
วันเพ็ญ พิชิตพรชัย, และอุษาวดี อัศดรวิเศษ. (2546). การวางแผนจำหน่ายผู้ป่วยแนวคิดและการประยุกต์
ใช้ (ฉบับปรับปรุง). กรุงเทพมหานคร: คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล.
สถาบันโรคทรวงอก, งานเวชระเบียนและสถิติ. (2562). สถิติผู้ป่วยที่มารับบริการปี 2561. นนทบุรี:
ผู้แต่ง.
สถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (องค์กรมหาชน). (2561). มาตรฐานโรงพยาบาลและบริการสุขภาพ
ฉบับที่ 4. กรุงเทพมหานคร: หนังสือวันดี.
สุรีย์ ธรรมิกบวร. (2554). การพยาบาลองค์รวม: กรณีศึกษา. กรุงเทพมหานคร: ธนาเพรส.
โสพิศ สุมานิต. (2554). ผลของการเสริมสร้างการรับรู้สมรรถนะแห่งตนต่อการรับรู้สมรรถนะการมีส่วนร่วมดูแลผู้ป่วยเด็ก
ภาวะวิกฤตของผู้ดูแล. รามาธิบดีพยาบาลสาร, 17(1), 66-74.
Aday, L A., & Andersen, R. (1975). Development of indices of access to medical care. Ann Arbor, MI:
Health Administration Press.
Bandura, A. (1986). Social foundations of thought and action. New York: Prentice Hall.
Chen, G., Gully, S. M., & Eden, D. (2001). Validation of a new general self-efficacy scale.
Organizational Research Methods, 4(1), 62-83. doi: 10.1177/109442810141004
Kanter, R. M. (1993). Men and women of the corporation. New York: Basic Books.
Lin, C. (2012). Discharge planning. International Journal of Gerontology, 6(4), 237-240.
Mckeehan, E. M. (1981). Continuing care: A multidisciplinary approach to discharge
planning. St. Louis: The C.V.Mosby.
Wong, E. L., Yam,C. H., Cheung, A. W., Leung, M. C., Chan, F. W., Wong, F. Y., & Yeoh, E.
K. (2011). Barriers to effective discharge planning: A qualitative study investigating the
perspectives of frontline healthcare professionals. BMC Health Services Research, 11(1), 242.
doi: 10.1186/1472-6963-11-242