ประสิทธิผลของโปรแกรมการให้ความรู้โรคต้อกระจกและทักษะการปฏิบัติตัวของผู้ป่วยผ่าตัดต้อกระจกและผู้ดูแลหลักโรงพยาบาลปทุมธานี
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยกึ่งทดลองนี้ เพื่อเปรียบเทียบความรู้โรคต้อกระจก และทักษะการปฏิบัติตัว ภายหลังได้รับโปรแกรมการให้ความรู้โรคต้อกระจกและทักษะการปฏิบัติตัว ของผู้ป่วยผ่าตัดต้อกระจก และผู้ดูแลหลัก โรงพยาบาลปทุมธานี กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ป่วยผ่าตัดต้อกระจก 60 คน และผู้ดูแลหลัก 60 คน คัดเลือกแบบเจาะจง โดยแต่ละกลุ่มแบ่งเป็นกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม กลุ่มละ 30 คน เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่โปรแกรมการให้ความรู้โรคต้อกระจกและทักษะการปฏิบัติตัว เครื่องมือเก็บรวบ รวมข้อมูลประกอบด้วยแบบวัดความรู้โรคต้อกระจกและแบบประเมินทักษะการปฏิบัติตัว ค่าดัชนีความสอดคล้องอยู่ระหว่าง .93 - .97 ส่วนค่าสัมประสิทธิ์ความเชื่อมั่นโดยวิธีของ คูเดอร์-ริชาร์ดสันเท่ากับ .60 และ ค่าความเชื่อมั่นระหว่างผู้ประเมินเท่ากับ 1.00 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติบรรยาย และการทดสอบที ผลการวิจัยพบว่า ภายหลังการใช้โปรแกรม กลุ่มทดลองทั้งกลุ่มผู้ป่วยและกลุ่มผู้ดูแลหลักมีความรู้โรคต้อกระจกและทักษะการปฏิบัติตัวมากกว่า กลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข. (2563). แผนงาน/โครงการและตัวชี้วัด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ของกระทรวงสาธารณสุข. กระทรวงสาธารณสุข.
https://dmsic.moph.go.th/index/detail/9125กนกพร อริยภูวงศ์,
ศุภพร ไพรอุดม, และ ทานตะวัน สลีวงศ์. (2562). ผลของการพยาบาลระบบสนับสนุนและให้ความรู้ต่อพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ป่วยผ่าตัดต้อกระจก โรงพยาบาลสุโขทัย.วารสารวิทยาลัยพยาบาลพระจอมเกล้า จังหวัดเพชรบุรี, 2(3),17-30.
นิราศศิริ โรจนธรรมกุล. (2563). การพยาบาลผู้สูงอายุด้านการดูแลสุขภาพกายและสุขภาพจิต. คณะพยาบาลศาสตร์มิชชั่น มหาวิทยาลัยนานาชาติเอเชีย-แปซิฟิก. เอส เค เอส อินเตอร์ พริ้น.
พระราชบัญญัติวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2540 และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง. (2540, 23 ธันวาคม). ราชกิจจานุเบกษา ฉบับกฤษฎีกา. เล่ม 114 ตอนที่ 75 ก. หน้า 1.
ไพศาล ร่วมวิบูลย์สุข. (2559). ตาดีได้ตาร้ายไม่เสีย. ราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย.
รังสรรค์ คีละลาย และ ประเสริฐ์ ประสมรักษ์. (2560). ผลของรูปแบบการส่งเสริมการดูแลตนเองในชุมชนของผู้ป่วยหลังผ่าตัดต้อกระจกในพื้นที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ตำบลนากอก อำเภอเลิงนกทา จังหวัดยโสธร. วารสารการพัฒนาสุขภาพชุมชน มหาวิทยาลัยขอนแก่น, 5(3), 242-258.
โรงพยาบาลปทุมธานี. (2564). รายงานประจำปี 2563. โรงพยาบาลปทุมธานี.
โรงพยาบาลปทุมธานี. (2565). รายงานประจำปี 2564. โรงพยาบาลปทุมธานี.
โรงพยาบาลปทุมธานี. (2566). รายงานประจำปี 2565. โรงพยาบาลปทุมธานี.
อมราภรณ์ ลาภชูรัต. (2561). ผลการใช้โปรแกรมส่งเสริมและป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากการผ่าตัด ต่อความรู้และการปฏิบัติตัวของผู้สูงอายุที่เข้ารับการผ่าตัดต้อกระจก โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี. วารสารวิชาการแพทย์เขต 11, 9(1), 1109-1112.
อรทัย เส็งกิ่ง และ ศุภิกษณา ตันชาว. (2560). ประสิทธิผลของ การให้ข้อมูลโดยการใช้สื่อวีดิทัศน์ต่อความรู้และความสามารถของครอบครัวในการดูแลผู้สูงอายุหลังผ่าตัดต้อกระจก. วารสารโรงพยาบาลนครพิงค์, 9(1), 22-32.
อังคนา อัศวบุญญาเดช, ดุจดาว ศุภจิตกุลชัย, และ วริศนันท์ ปุรณะวิทย์. (2565). ผลการสอนสุขศึกษาโดยใช้สื่อวีดิทัศน์เรื่องการปฏิบัติตัวหลังทำผ่าตัดต้อกระจกให้กับผู้ป่วยผ่าตัดต้อกระจก. บูรพาเวชสาร, 9(1), 13-27.
อารีย์ ธวัชวัฒนานันท์ และ วารินทร์ บินโฮเซ็น. (2563). ผลของการให้ข้อมูลโดยใช้สื่อวีดีทัศน์เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนผ่าตัดต่อความวิตกกังวลในผู้ที่ได้รับการผ่าตัดต้อกระจกแบบไม่ค้างคืน. นครศรีธรรมราชเวชสาร, 3(2), 19-29.
Bandura, A. (1977). Self-efficacy: Toward a unifying theory of behavioral change. Psychological Review, 84(2), 191–215. https://doi.org/10.1037/0033-295X.84.2.191
Dale, E. (1965). Audio – visual methods teaching (2nd ed.). Hot, Rinchart and Winston.
Dale, E. (1969). Audiovisual methods in teaching (3rd ed.). Dryden Press.
Evans, J. S. B. T. (1989). Bias in human reasoning: Causes and consequences. Lawrence Erlbaum Associates.