ประสิทธิผลของโปรแกรมการจัดการโรคสำหรับผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงที่เสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช

Main Article Content

เตือนใจ ขุนทอง
สุทธีพร มูลศาสตร์
สมนึก สกุลหงส์โสภณ

บทคัดย่อ

การวิจัยกึ่งทดลองนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของโปรแกรมการจัดการโรคความดันโลหิตสูงที่เสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดต่อความรู้เกี่ยวกับโรคความดันโลหิตสูงและโรคหัวใจและหลอดเลือด พฤติกรรมการจัดการตนเองและโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงที่ควบคุมระดับความดันโลหิตไม่ได้ และมีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดในอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช จังหวัดนคร ศรีธรรมราชซึ่งสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้น แบ่งเป็นกลุ่มทดลองและกลุ่มเปรียบเทียบกลุ่มละ 35 คน เครื่องมือวิจัย ได้แก่   1) โปรแกรมการจัดการโรคความดันโลหิตสูงที่เสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด      2) แบบสอบถามความรู้เกี่ยวกับโรคความดันโลหิตสูงและโรคหัวใจและหลอดเลือดและพฤติกรรมการจัดการตนเองซึ่งมีค่าดัชนีความตรงเชิงเนื้อหา เท่ากับ 0.92 และ 1.00 ตามลำดับ แบบสอบถามความรู้มีค่าสัมประสิทธิ์ความเที่ยง KR-20 เท่ากับ 0.87 และพฤติกรรมการจัดการตนเองมีค่าสัมประสิทธิ์แอลฟาของครอน บาค เท่ากับ 0.85 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติพรรณนาและการทดสอบที ผลการวิจัยพบว่า หลังเข้าร่วมโปรแกรม กลุ่มทดลองมีความรู้และพฤติกรรมการจัดการตนเองดีกว่าก่อนเข้าร่วมโปรแกรมและดีกว่ากลุ่มเปรียบเทียบ และมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดน้อยกว่าก่อนเข้าร่วมโปรแกรม และน้อยกว่ากลุ่มเปรียบเทียบอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
ขุนทอง เ., มูลศาสตร์ ส., & สกุลหงส์โสภณ ส. . (2025). ประสิทธิผลของโปรแกรมการจัดการโรคสำหรับผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงที่เสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช. วารสารพยาบาล, 74(2), 1–10. สืบค้น จาก https://he02.tci-thaijo.org/index.php/TJN/article/view/269447
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กระทรวงสาธารณสุข กรมควบคุมโรค กองโรคไม่ติดต่อ. (2563). รายงานสถานการณ์โรค NCDs เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และปัจจัยเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง พ.ศ. 2562. อักษรกราฟิคแอนด์ดีไซน์. https://ddc.moph.go.th/uploads/publish/1035820201005073556.pdf

กระทรวงสาธารณสุข กลุ่มรายงานมาตรฐาน (2566). ร้อยละผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงทีควบคุมความดันโลหิตได้ดี ปีงบประมาณ 2567. https://hdcservice.moph.go.th/hdc/reports/report.php?cat_id=b2b59e64c4e6c92d4b1ec16a599d 882b&id=2e3813337b6b5377c2f68affe247d5f9

จันทร์จิรา สีสว่าง, ปุลวิชช์ ทองแตง, และดวงหทัย ยอดทอง (2557). ผลของโปรแกรมสนับสนุนการจัดการตนเองในผู้สูงอายุโรคความดันโลหิตสูง. รามาธิบดีพยาบาลสาร, 20 (2), 179-192.

นพาภรณ์ จันทร์ศรี, กนกพร นทีธนสมบัติ, และทวีศักดิ์ กสิผล (2563). ผลของโปรแกรมการจัดการตนเองในผู้ป่วย โรคความดันโลหิตสูงที่ควบคุมความดันโลหิตไม่ได้. วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ, 6(2), 58-68.

รัฏฐรินีย์ ธนเศรษฐ. (2561). ผลของโปรแกรมส่งเสริมการจัดการตนเองและการมีส่วนร่วมของครอบครัวต่อพฤติกรรมสุขภาพและความดันโลหิตของกล่มผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงวัยทํางาน. วารสารวิชาการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 จังหวัดนครราชสีมา, 24(2), 100-111.

Huber, D. L. (2006). Leadership and nursing care management (3rd ed.). Saunders.

Kanfer, F. H., & Gaelick-Buys, L. (1991). Self-management methods. In F. H. Kanfer & A. P. Goldstein (Eds.), Helping people change: A textbook of methods (4th ed., pp. 305–360). Pergamon Press.

World Health Organization. (2011). Hypertension fact sheet. http://www.searo.who.int/entity/noncomunicable _diseases/ media/non_comunicable_diseases_hy pertension_fs.pdf?ua=1