แนวทางการดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองในระยะเปลี่ยนผ่านจากโรงพยาบาลสู่บ้านโดยการมีส่วนร่วมของครอบครัวในเขตภาคเหนือ
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยและพัฒนานี้มีวัตถุ ประสงค์เพื่อศึกษาปัญหาและความต้องการการดูแลและพัฒนาแนวทางการดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองในระยะเปลี่ยนผ่านจากโรงพยาบาลสู่บ้านโดยการมีส่วนร่วมของครอบครัวในเขตภาคเหนือ ดำเนินการ 3 ระยะ ระยะที่ 1 ศึกษาปัญหาและความต้องการการดูแลผู้ป่วย ระยะที่ 2 พัฒนาแนวทางการดูแลผู้ป่วยสำหรับผู้ดูแล ระยะที่ 3 การศึกษาประสิทธิผลของการใช้แนวทางการดูแลผู้ป่วย ใช้ระเบียบวิธีการวิจัยแบบกึ่งทดลองชนิดหนึ่งกลุ่ม วัดก่อนและหลังการทดลอง กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 27 คู่ เป็นผู้ดูแลผู้ป่วยและผู้ป่วย วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา และการทดสอบที ผลการวิจัย พบว่า ผู้ดูแลไม่มีความมั่นใจและไม่มีส่วนร่วมในการวาง แผนการดูแล ผู้ป่วยกลับมารักษาซ้ำ การติดตามดูแลไม่ต่อเนื่อง และทรัพยากรไม่เพียงพอ แนวทางการดูแลผู้ป่วยที่พัฒนาขึ้น ประกอบด้วย 2 ส่วน ได้แก่ สำหรับพยาบาลวิชาชีพและสำหรับผู้ดูแล ประกอบด้วย การร่วมระบุปัญหาและความต้องการเกี่ยวกับการดูแล การเตรียมความพร้อมด้านความรู้ และการฝึกทักษะในการดูแล ประสิทธิผลของแนวทางการดูแลผู้ป่วย พบว่า คะแนนความพร้อมโดยรวมของผู้ดูแลอยู่ในระดับดี ความสามารถการปฏิบัติกิจวัตรประจำวันของผู้ป่วยหลังใช้แนวทางการดูแลสูงกว่าก่อนใช้แนวทางการดูแลอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตดีขึ้นอยู่ในระดับดี อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงสาธารณสุข กองยุทธศาสตร์และแผนงาน. (2566). สถิติสาธารณสุข 2565. https://spd.moph.go.th/wp-content/uploads/2023/
/Hstatistic65.pdf
จารวี คณิตาภิลักษณ์, ทศพร คำผลศิริ, และลินจง โปธิบาล. (2563). ผลของโปรแกรมการสร้างเสริมพลังอำนาจ ต่อคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุที่เป็นโรคหลอดเลือดสมอง. พยาบาลสาร, 47(1), 220-230.
ณีรนุช วงค์เจริญ, ทัศนมินทร์ รัชตาธนรัชต์, และพิสิษฐ์ สมงาม. (2563). การพัฒนารูปแบบการดูแลต่อเนื่องที่บ้านของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง. วารสารวิชาการสาธารณสุขชุมชน, 6(4), 61- 71.
ธัญพิมล เกณสาคู, เตือนใจ สินอำไพสิทธิ์, และวีรยุทธ ศรีทุมสุข. (2563). ประสิทธิผลของแนวปฏิบัติการพยาบาลการวางแผนจำหน่ายต่อความสามารถในการปฏิบัติกิจวัตรประจำวัน การกลับเข้ารักษาซ้ำในโรงพยาบาลและคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองชนิดตีบอุดตัน. วารสารพยาบาลทหารบก, 21(3), 215-224.
นาฏยา เอื้องไพโรจน์, ชนกพร อุตตะมะ, จรรยา กาวีเมือง, และปริชาติ ขันทรักษ์. (2564). การพัฒนาระบบการดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองเครือข่ายจังหวัดเชียงใหม่. พยาบาลสาร, 48(1), 1-14.
ปราโมทย์ ถ่างกระโทก, วชิรา โพธิ์ใส, เพลินตา พิพัฒน์สมบัติ, วินัย ไตรนาถถวัลย์, และวานิช สุขสถาน. (2562). ความตรงและความเที่ยงของแบบวัดคุณภาพชีวิตเฉพาะผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ฉบับภาษาไทย. วารสารการแพทย์และวิทยาศาสตร์สุขภาพ, 26(3), 33-43.
วิรารัตน์ นิลสวัสดิ์. (2565). ผลของโปรแกรมการดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองและผู้ดูแลในระยะเปลี่ยนผ่านจากโรงพยาบาลสู่บ้านต่อความสามารถการใช้ชีวิตประจำวัน ภาวะแทรกซ้อนของผู้ดูแล และความสามารถการจัดการตนเองของผู้ดูแล. วารสารวิจัยการพยาบาลและการสาธารณสุข, 2(3), 57-70.
ศรารินทร์ พิทธยะพงษ์. (2561). สถานการณ์ ปัญหา และอุปสรรคการดูแลผู้ป่วยหลังการเกิดโรคหลอดเลือดสมองระยะเปลี่ยนผ่านจากโรงพยาบาลสู่บ้าน. วารสารพยาบาลสภากาชาดไทย, 11(2), 26-39.
สมศักดิ์ เทียมเก่า. (2564). สถานการณ์โรคหลอดเลือดสมอง. วารสารประสาทวิทยาแห่งประเทศไทย, 37(4), 54-60.
สุกัญญา ตรุสานันท์. (2567). การพยาบาลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองจากภาวะหลอดเลือดสมองแตก. วารสารสาธารณสุขมูลฐานภาคเหนือ, 34 (1), 38-44.
อรพรรณ นันตาดี, ศิริภรณ์ ทองคำ, และวิชุดา ศรียุทนา. (2560). ปัญหาและความต้องการของผู้ดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง เขตพื้นที่อำเภอเถิน จังหวัดลำปาง. วารสารวิชาการสุขภาพภาคเหนือ, 4(1), 29- 41.
อุไรวรรณ ทองอร่าม และนิภาวรรณ สามารถกิจ. (2562). อิทธิพลของความพร้อมในการดูแล ภาระในการดูแล และรางวัลจากการดูแลต่อการปรับตัวของญาติผู้ดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง. วารสารกองการพยาบาล, 46(3), 88-102.
Braun, V., & Clarke, V. (2006). Using thematic analysis in psychology. Qualitative Research in Psychology, 3(2), 77-101. https://doi.org/10.1191/1478088706qp063oa
Civelek, G. M., Atalay, A., & Turhan, N. (2016). Medical complications experienced by first-time ischemic stroke patients during inpatient, tertiary level stroke rehabilitation. Journal of Physical Therapy Science, 28(2), 382-391.
Cohen, J. (1988). Statistical power for the behavioural sciences (2nd.ed.). Lawrence Erlbaum.
Faul, F., Erdfelder, E., Lang, A. G., & Buchner, A. (2007). G* Power 3: A flexible statistical power analysis program for the social, behavioral, and biomedical sciences. Behavior Research Methods, 39(2), 175-191.
Naylor, M. D., Brooten, D. A., Campbell, R. L., Maislin, G., McCauley, K. M., & Schwartz, J. S. (2004). Transitional care of older adults hospitalized with heart failure: A randomized, controlled trial.
Journal of the American Geriatrics Society, 52(5), 675-684. https://doi.org/10.1111/j.1532-5415.2004.52202.x
Pucciarelli, G., Lee, C. S., Lyons, K. S., Simeone, S., Alvaro, R., & Vellone, E. (2019). Quality of life trajectories among stroke survivors and the related changes in caregiver outcomes: A growth mixture study. Archives of Physical Medicine and Rehabilitation, 100(3), 433-440. Article e431. https://doi.org/10.1016/j.apmr.2018.07.428
Sewell, K., Tse, T., Harris, E., Matyas, T., Churilov, L., Ma, H., Davis, S. M., Donnan, G. A., & Carey, L. M. (2021). Pre-existing comorbidity burden and patient perceived stroke impact. International Journal
of Stroke, 16(3), 273-279. https://doi.org/10.1177/17474930209208
Wulansari, Y. P., Nurmala, I., & Hargono, R. (2020). Needs of family caregiver education for caring stroke patients at home. Indian Journal of Public Health Research & Development, 11(3), 1362-1368.
Zhao, J., Zeng, Z., Yu, J., Xu, J., Chen, P., Chen, Y., Li, J., & Ma, Y. (2021). Effect of main family caregiver’s anxiety and depression on mortality of patients with moderate-severe stroke. Scientific Reports, 11(1), 2747. https://doi.org/10.1038/s41598-021-81596-8