ผลของการเรียนรู้โดยใช้สถานการณ์จำลองการประเมินภาวะสุขภาพมารดาและทารกขณะตั้งครรภ์ต่อความรู้และความพึงพอใจของนักศึกษาพยาบาลในมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง

Main Article Content

สมฤดี กีรตวนิชเสถียร
อังคณา นวลยง

บทคัดย่อ

การวิจัยกึ่งทดลองนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบความรู้เกี่ยวกับการประเมินภาวะสุขภาพมารดาและทารกขณะตั้งครรภ์ ก่อนและหลังได้รับการเรียนรู้โดยใช้สถานการณ์จำลองและประเมินความพึงพอใจต่อการเรียนรู้โดยใช้สถานการณ์จำลอง หลังได้รับการเรียนรู้โดยใช้สถานการณ์จำลองของนักศึกษาพยาบาลในมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง กลุ่มตัวอย่างเป็นนักศึกษาพยาบาล จำนวน 93 คน เลือกแบบเจาะจง โดยเป็นผู้ที่ลงทะเบียนเรียนรายวิชาปฏิบัติการพยาบาลมารดาทารกและการผดุงครรภ์ ปีการศึกษา 2567 เครื่องมือวิจัย ได้แก่ สถานการณ์จำลองการประเมินภาวะสุขภาพมารดาและทารกขณะตั้งครรภ์ มีค่าดัชนีความตรงเชิงเนื้อหาเท่ากับ 0.95 แบบทดสอบความรู้เกี่ยวกับการประเมินภาวะสุขภาพมารดาและทารกขณะตั้งครรภ์ มีค่าดัชนีความตรงเชิงเนื้อหาเท่ากับ 0.92 มีค่าสัมประสิทธิ์ความเที่ยงเท่ากับ 0.82 และแบบสอบถามความพึงพอใจต่อการเรียนรู้โดยใช้สถานการณ์จำลอง มีค่าดัชนีความตรงเชิงเนื้อหาเท่ากับ 0.95 มีค่าสัมประสิทธิ์ความเที่ยงเท่ากับ 0.86 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา และการทดสอบที ผลการวิจัยพบว่าหลังได้รับการเรียนรู้โดยใช้สถานการณ์จำลอง นักศึกษาพยาบาลมีคะแนนเฉลี่ยความรู้เกี่ยวกับการประเมินภาวะสุขภาพมารดาและทารกขณะตั้งครรภ์สูงกว่าก่อนได้รับการเรียนรู้โดยใช้สถานการณ์จำลอง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .001 และมีความพึงพอใจต่อการเรียนรู้โดยใช้สถานการณ์จำลอง หลังได้รับการเรียนรู้โดยใช้สถานการณ์จำลอง อยู่ในระดับมากที่สุด

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
กีรตวนิชเสถียร ส. ., & นวลยง อ. . (2025). ผลของการเรียนรู้โดยใช้สถานการณ์จำลองการประเมินภาวะสุขภาพมารดาและทารกขณะตั้งครรภ์ต่อความรู้และความพึงพอใจของนักศึกษาพยาบาลในมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง. วารสารพยาบาล, 74(3), 21–30. สืบค้น จาก https://he02.tci-thaijo.org/index.php/TJN/article/view/272067
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กชกร ธรรมนำศีล, กาญจนา ปัญญาเพ็ชร์, สุปราณี น้อยตั้ง และจินตนา อาจสันเที๊ยะ. (2561). ผลของโปรแกรมการสอนโดยใช้สถานการณ์จำลองเสมือนจริงต่อความรู้ในการดูแลทางการแพทย์เบื้องต้นของนักศึกษาพยาบาล. วารสารพยาบาลทหารบก, 19(1), 80-88.

กมล โพธิเย็น. (2565). Active learning: การจัดการเรียนรู้ที่ตอบโจทย์การจัดการศึกษาในศตวรรษที่ 21. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร, 19(1), 11-28.

กระทรวงสาธารณสุข กรมอนามัย. (2565). คู่มือการฝากครรภ์สำหรับบุคลากรสาธารณสุข. สำนักส่งเสริมสุขภาพ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข.

ขวัญฤทัย ธรรมกิจไพโรจน์, จันทร์ฉาย มณีวงษ์, และจารุวรรณ สนองญาติ. (2566). การจัดการเรียนการสอนโดยใช้สถานการณ์จำลองเสมือนจริงต่อการคิดอย่างมีวิจารณญาณของนักศึกษาพยาบาล: การทบทวนวรรณกรรมอย่างเป็นระบบ. วารสารวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีสุพรรณบุรี, 6(1), 5-28.

ธูปทอง กว้างสวาสดิ์. (2561). การสอนคิดวิจารณญาณ. วารสารราชพฤกษ์, 16(3), 1-9.

ละมัด เลิศล้ำ, ชนิดา ธนสารสุธี, สุภาเพ็ญ ปานะวัฒนพิสุทธิ์, และชัชรีย์ บำรุงศรี. (2562). การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนด้วยสถานการณ์จำลองเสมือนจริง. วารสารเครือข่ายวิทยาลัยพยาบาลและการสาธารณสุขภาคใต้, 6(ฉบับพิเศษ), 1-10.

วินัย รอบคอบ, ศรีประไพ อินทร์ชัยเทพ, และวรภรณ์ ทินวัง. (2565). การพัฒนาการเรียนการสอนโดยใช้

ผู้ป่วยมาตรฐานในสถานการณ์เสมือนจริงต่อผลลัพธ์การเรียนรู้ในรายวิชาสุขภาพจิตและการพยาบาลจิตเวช. วารสารสหวิชาการเพื่อการพัฒนาสุขภาพ, 19(1), 1-12.

สมจิตต์ สินธุชัย, กันยารัตน์ อุบลวรรณ, และสุนีย์รัตน์ บุญศิลป์. (2560). ผลของการจัดการเรียนรู้โดยใช้

สถานการณ์จำลองเสมือนจริงต่อความรู้ ความพึงพอใจ และความมั่นใจในตนเองของนักศึกษาพยาบาลชั้นปีที่ 4 ในการฝึกปฏิบัติรายวิชาฝึกทักษะทางวิชาชีพก่อนสำเร็จการศึกษา. รามาธิบดีพยาบาลสาร, 23(1), 113-127.

Aebersold, M. (2018). Simulation-based learning: No longer a novelty in undergraduate education. Online Journal of Issues in Nursing, 23(2), 1.

Cant, R. P., & Cooper, S. J. (2017). Use of simulation-based learning in undergraduate nurse education: An umbrella systematic review. Nurse Education Today, 49, 63-71.

Chernikova, O., Heitzmann, N., Stadler, M., Holzberger, D., Seidel, T., & Fischer, F. (2020). Simulation-based learning in higher education: A meta-analysis. Review of Educational Research, 90(4), 499-541.

Doolen, J., Mariani, B., Atz, T., Horsley, T. L., O'Rourke, J., McAfee, K., & Cross, C. L. (2016). High-fidelity simulation in undergraduate nursing education: A review of simulation reviews. Clinical Simulation in Nursing, 12(7), 290-302.

INACSL Standards Committee, Watts, P. I., McDermott, D. S., Alinier, G., Charnetski, M., & Nawathe, P. A. (2021). Healthcare simulation standards of best practice™ simulation design. Clinical Simulation in Nursing, 58(1), 14-21. https://doi.org/10.1016

/j.ecns.2021.08.009

Jarvill, M., Jenkins, S., Akman, O., & Astroth, K. S. (2017). Effect of simulation on nursing students' medication administration competence. Clinical Simulation in Nursing, 14(1), 3-7. https://doi.org/10.1016/j.ecns.2017.08.001

Jeffries, P. R., Rodgers, B., & Adamson, K. (2015). NLN Jeffries simulation theory: Brief narrative description. Nursing Education Perspectives, 36(5), 292-293.

Kapucu, S. (2017). The effects of using simulation in nursing education: A thorax trauma case scenario. International Journal of Caring Sciences, 10(2), 1069-1074.

Kim, J., Park, J. H., & Shin, S. (2016). Effectiveness of simulation-based nursing education depending on fidelity: A meta-analysis. BMC Medical Education, 16, Article 152.

Kolb, D. A. (1984). Experiential learning: Experience as the source of learning and development. Prentice-Hall.

Lee, J., & Oh, P. J. (2015). Effects of the use of high-fidelity human simulation in nursing education: A meta-analysis. Journal of Nursing Education, 54(9), 501-507.

Shin, S., Park, J. H., & Kim, J. H. (2015). Effectiveness of patient simulation in nursing education: Meta-analysis. Nurse Education Today, 35(1), 176-182.

Subsomboon, K., & Ratinthorn, A. (2024). Factors influencing nursing students' learning outcomes in maternal-newborn care through simulation-based learning. Nursing Science, 42(1), 95-110.

..............................................................