Home ThaiJo
การเตรียมต้นฉบับ
6.1 กรณีบทความวิจัย ประกอบด้วย
6.1.1 บทนำ อธิบายความสำคัญและเหตุผลการวิจัย การตรวจเอกสารงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง (literature review) และวัตถุประสงค์ในการวิจัย
6.1.2 วิธีดำเนินการวิจัย อธิบายขั้นตอนการวิจัย/ กลุ่มตัวอย่าง/ การพิทักษ์สิทธิ์อาสาสมัคร
6.1.3 ผลการวิจัย ควรเรียงลำดับเนื้อหา สั้น กะทัดรัด หากมีการเสนอรูปแบบ Table (ตาราง) หรือ Figure (รูป) ผู้นิพนธ์ต้องระบุชื่อและคำอธิบายข้อมูลในTable (ตาราง) และFigure (รูป) เป็นภาษาอังกฤษ ผู้นิพนธ์ควรวิจารณ์ผลการวิจัยเพื่อให้ผู้อ่านเห็นด้วยตามหลักวิชาการ โดยอาจเปรียบเทียบผลงานวิจัยที่ผ่านมาของผู้อื่น และควรมีข้อเสนอแนะเพื่อพัฒนาการวิจัยในอนาคต
6.1.4 สรุป ควรสรุปสาระสำคัญที่ชัดเจน พร้อมมีข้อเสนอแนะและแนวทางการพัฒนาต่อไป
6.1.5 กิตติกรรมประกาศ (ถ้ามี) ควรแสดงความขอบคุณต่อผู้ให้ความช่วยเหลือจนงานวิจัยสำเร็จรวมถึงระบุแหล่งทุนสนับสนุนการวิจัยและบุคคลที่ให้ความช่วยเหลือในการวิจัย
6.1.6 รายการอ้างอิง ในเนื้อหาให้เรียงตามลำดับการอ้างอิงก่อนหลัง โดยการอ้างอิงเป็นแบบ Vancouver
ต้นฉบับต้องพิมพ์บทความด้วยภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ ด้วยโปรแกรม Microsoft Word of Window ใช้อักษรแบบ TH SarabunPSK ขนาดกระดาษขนาด A4 และมีความยาวไม่เกิน 10 - 15 หน้า (รวมเอกสารอ้างอิง) โดยขนาดและชนิดตัวอักษรดังตาราง
ข้อความ |
ขนาด |
ชนิด |
ชื่อบทความ(ภาษาไทยและอังกฤษ) |
18 |
ตัวหนา/ กึ่งกลาง |
ชื่อผู้นิพนธ์ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ |
16 |
ตัวหนา/ชิดขวา |
บทคัดย่อ (Abstract) คำสำคัญ (Keywords) และหัวข้อหลัก |
16 |
ตัวหนา/ กึ่งกลาง |
หัวข้อรอง |
15 |
ตัวธรรมดา |
การเขียนเอกสารอ้างอิง
การเขียนเอกสารอ้างอิงของวารสารโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติใช้ระบบแวนคูเวอร์ (Vancouver style) ในที่นี้ขอเริ่มต้นในส่วนการเขียนอ้างอิงในเนื้อหาก่อน มีรายละเอียดดังนี้ การอ้างอิงจะเขียนตามหลังข้อความหรือชื่อเจ้าของบทความ หน่วยงาน รวมถึงองค์กร ที่ได้มีการอ้างอิงจะใส่ตัวเลขในวงเล็บต่อท้าย โดยจะเริ่มต้นด้วยหมายเลข [1] ในการอ้างอิงอันดับแรกและเรียงต่อไปตามลำดับที่ได้มีการอ้างอิงไว้ สำหรับกรณีการอ้างอิงซ้ำ เลขการอ้างอิงให้ใช้เลขลำดับเดิมที่ได้ระบุไว้ ส่วนการอ้างอิงท้ายบทความนั้น จะจัดเรียงตัวเลขตามลำดับของการอ้างอิงที่ได้ระบุไว้ในเนื้อหาของบทความ
Copyright Notice
นิพนธ์ต้นฉบับที่เสนอองค์ความรู้ใหม่ที่ได้จากการศึกษาค้นคว้าด้านการแพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกรรม วิทยาศาสตร์การแพทย์ การพยาบาล สาธารณสุข การบริหารจัดการโรงพยาบาล และนวัตกรรมที่ยังไม่เคยตีพิมพ์ที่วารสารใดมาก่อน ประกอบด้วย 1) ชื่อเรื่องและชื่อผู้นิพนธ์บทความ 2) บทคัดย่อ (ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ) 3) คำสำคัญ 4) บทนำ 5) วัตถุประสงค์การวิจัย 6) วิธีการวิจัย 7) ผลการศึกษา 8) อภิปรายและสรุปผล 9) ข้อเสนอแนะ 10) กิตติกรรมประกาศ (ระบุแหล่งทุนสนับสนุนการวิจัยและบุคคลที่ให้ความช่วยเหลือในการวิจัย_ถ้ามี) และ 11) เอกสารอ้างอิง
นิพนธ์ต้นฉบับที่เสนอองค์ความรู้ใหม่ที่ได้จากการศึกษาค้นคว้าด้านการแพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกรรม วิทยาศาสตร์การแพทย์ การพยาบาล สาธารณสุข การบริหารจัดการโรงพยาบาล และนวัตกรรมที่ยังไม่เคยตีพิมพ์ที่วารสารใดมาก่อน ประกอบด้วย 1) ชื่อเรื่องและชื่อผู้นิพนธ์บทความ 2) บทคัดย่อ (ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ) 3) คำสำคัญ 4) บทนำ 5) เนื้อหา 6) สรุปผล 7) กิตติกรรมประกาศ (ระบุแหล่งทุนสนับสนุนการวิจัยและบุคคลที่ให้ความช่วยเหลือในการวิจัย_ถ้ามี) และ 8) เอกสารอ้างอิง
รายงานของผู้ป่วยที่น่าสนใจ กลุ่มอาการใหม่ที่ไม่เคยรายงานมาก่อน หรือเป็นการรายงานวิธีแนวทางการรักษาผู้ป่วยแบบใหม่ ประกอบด้วย 1) ชื่อเรื่องและชื่อผู้นิพนธ์บทความ 2) บทคัดย่อ (ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ) 3) คำสำคัญ 4) บทนำ 5) เนื้อหา 6) สรุปผล 7) กิตติกรรมประกาศ (ระบุแหล่งทุนสนับสนุนการวิจัยและบุคคลที่ให้ความช่วยเหลือในการวิจัย_ถ้ามี) และ 8) เอกสารอ้างอิง
บทความที่รวบรวมความรู้เรื่องใดเรื่องหนึ่งที่ตีพิมพ์เผยแพร่ลงในวารสารวิชาการ โดยนำมาเรียบเรียงและวิเคราะห์รวมถึงวิจารณ์เพื่อให้เกิดความเข้าใจในเรื่องนั้นยิ่งขึ้น ประกอบด้วย 1) ชื่อเรื่องและชื่อผู้นิพนธ์บทความ 2) บทคัดย่อ (ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ) 3) คำสำคัญจำนวน 3 – 5 คำ 4) บทนำ 5) เนื้อหา 6) สรุปผล 7) กิตติกรรมประกาศ (ระบุแหล่งทุนสนับสนุนการวิจัยและบุคคลที่ให้ความช่วยเหลือในการวิจัย_ถ้ามี) และ 8) เอกสารอ้างอิง
บทความวิชาการที่เกี่ยวข้องในด้านการแพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกรรม วิทยาศาสตร์การแพทย์ การพยาบาล สาธารณสุข และการบริหารจัดการโรงพยาบาลที่เป็นลักษณะวิเคราะห์และข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์
The names and email addresses entered in this journal site will be used exclusively for the stated purposes of this journal and will not be made available for any other purpose or to any other party.
Journal Information
Manual