การเปรียบเทียบประสิทธิภาพในการปั่นแยกพลาสมาสำหรับการทดสอบการแข็งตัวของเลือดระหว่างความเร็ว 4,000 รอบต่อนาที นาน 5 นาที กับวิธีมาตรฐาน

ผู้แต่ง

  • สุวลี อินต๊ะขัน โรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง)

คำสำคัญ:

การทดสอบการแข็งตัวของเลือด, การปั่นแยกพลาสมา, การแตกของเม็ดเลือดแดง

บทคัดย่อ

ความสำคัญของปัญหา: การตรวจวิเคราะห์ค่า Prothrombin time (PT), International normalized ratio (INR) และ Activated partial thromboplastin time (APTT) ในห้องปฏิบัติการใช้เป็นค่าการประเมินก่อนการรักษาด้วยยาละลายลิ่มเลือดในผู้ป่วยกลุ่มโรคหลอดเลือดสมองและหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน ซึ่งวิธีมาตรฐานในการปั่นแยกพลาสมาสำหรับการทดสอบการแข็งตัวของเลือดต้องใช้เวลาอย่างน้อย 15 นาที ทำให้ระยะเวลารอคอยผลการตรวจนานและเป็นอุปสรรคอย่างยิ่งต่อการช่วยชีวิตผู้ป่วย

วัตถุประสงค์: เพื่อเปรียบเทียบวิธีการปั่นแยกพลาสมาสำหรับการทดสอบการแข็งตัวของเลือดระหว่างความเร็วแบบใหม่ที่ 4,000 รอบต่อนาที นาน 5 นาที กับวิธีมาตรฐานที่ 1,500 g (3,500 รอบต่อนาที) นาน 15 นาที สำหรับนำมาใช้ในห้องปฏิบัติการเพื่อให้ได้ผลการตรวจ PT, INR, APTT ที่ถูกต้อง รวดเร็ว

วัสดุและวิธีการ: ศึกษาพลาสมาของผู้บริจาคโลหิตโรงพยาบาลสมุทรสาคร จำนวน 60 ราย เปรียบเทียบความแตกต่างของจำนวนเกล็ดเลือด (platelet count), ค่า PT, INR, APTT, potassium (K+) และ lactate dehydrogenase(LDH) ในพลาสมาที่ปั่นแยกด้วยความเร็วรอบ 3,500 รอบต่อนาที นาน 15 นาที และ 4,000 รอบต่อนาที นาน 5 นาที

ผลการศึกษา: จากตัวอย่างเลือดผู้บริจาคโลหิต 60 ราย พบว่า จำนวนเกล็ดเลือด, ค่า PT, INR, APTT, K+ และ LDH ไม่มีความแตกต่างกัน (p ≥ 0.05)

สรุป: การปั่นแยกพลาสมาด้วยความเร็วแบบใหม่ที่ 4,000 รอบต่อนาที นาน 5 นาที ไม่ทำให้เม็ดเลือดแดงแตกและค่าการทดสอบ PT, INR, APTT ไม่มีความแตกต่างกัน ดังนั้น หากนำวิธีการดังกล่าวไปใช้ในห้องปฏิบัติการจะสามารถรายงานผล PT, INR และ APTT ที่ถูกต้อง รวดเร็ว ทันต่อการรักษาผู้ป่วยในภาวะฉุกเฉินได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เอกสารอ้างอิง

สถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์. แนวทางการพยาบาลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง สำหรับพยาบาลทั่วไป. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ: ธนาเพรสการพิมพ์; 2559.

Clinical and Laboratory Standards Institute. Collection, Transport, and Processing of Blood Specimens for Testing Plasma-Based Coagulation Assays and Molecular Hemostasis Assays; Approved Guideline. 5th ed. CLSI Document H21–A5. Wayne, PA: Clinical and Laboratory Standards Institute; 2009.

พิสุทธินี กันธารักษ์, กนกวรรณ ใจพิงค์ และ สุรศักดิ์ เรือนกองเงิน. การศึกษาเวลาที่เหมาะสมในการปั่นแยกพลาสมาจากหลอด 3.2% Sodium Citrate เพื่อลดเวลาในการตรวจวิเคราะห์ PT, INR. [อินเทอร์เน็ต]. 2559 [เข้าถึงเมื่อ 2 ส.ค.2561]. เข้าถึงได้จาก: http: //www.zrolsoft.com/lpnhresearch/index.php/th/2559/39-3-2-sodium-citrate-pt-inr

Mansour MM, Azzazy HM, Kazmierczak SC. Correction factors for estimating potassium concentration in samples with in vitro hemolysis. Arch Pathol Lab Med 2009; 133:960-6.

Sweeney JD, Cheves TA, Laga AC. The effect of specimen hemolysis on coagulation test results. Am J Clin Pathol 2006; 126:748-55.

พัชราวดี ศรีงาม, จิราพร สิทธิถาวร, ภานุทรรศน์ กฤชเพชรรัตน์.การประเมินประสิทธิภาพการปั่นแยกพลาสม สำหรับการทดสอบการแข็งตัวของเลือดด้วยเครื่องปั่นเหวี่ยงความเร็วสูง. วารสารโลหิตวิทยาและเวชศาสตร์ บริการโลหิต 2556; 23:211-16

Chih HK, Ling CS, Wen HY. Evaluation of a high-speed centrifuge with rapid preparation of plasma for coagulation testing to improve turnaround time. J Biomed Lab Sci 2010; 22:23-7

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2019-12-23

รูปแบบการอ้างอิง

1.
อินต๊ะขัน ส. การเปรียบเทียบประสิทธิภาพในการปั่นแยกพลาสมาสำหรับการทดสอบการแข็งตัวของเลือดระหว่างความเร็ว 4,000 รอบต่อนาที นาน 5 นาที กับวิธีมาตรฐาน. TUHJ [อินเทอร์เน็ต]. 23 ธันวาคม 2019 [อ้างถึง 25 ธันวาคม 2025];4(3):41-8. available at: https://he02.tci-thaijo.org/index.php/TUHJ/article/view/240375

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความพิเศษ