โปรแกรมการดูแลสุขภาพช่องปากในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองที่มีภาวะกลืนลำบาก: การทบทวนอย่างเป็นระบบ
คำสำคัญ:
โปรแกรมการดูแลช่องปาก, การทำความสะอาดช่องปาก, ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองบทคัดย่อ
บทนำ: โรคหลอดเลือดสมอง (cerebrovascular disease, stroke) เป็นโรคไม่ติดต่อที่เป็นปัญหาที่สำคัญของสาธารณสุขทั่วโลก ผู้ป่วยต้องเผชิญกับความพิการจากเกิดโรคที่หลงเหลืออยู่ ซึ่งความ บกพร่องด้านการกลืนลำบาก (dysphagia) เป็นปัญหาที่พบบ่อยถึงร้อยละ 37-78 โดยพบได้ทันที ภายหลังเกิดโรค ส่งผลให้ผู้ป่วยสูญเสียหน้าที่ในการควบคุมการกลืน และกลไกการป้องกันเชื้อโรคตามธรรมชาติในช่องปาก เป็นสาเหตุส่งเสริมให้เกิดภาวะปอดอักเสบ จากการทบทวนวรรณกรรม และการปฏิบัติการพยาบาลพบว่า การดูแลสุขภาพช่องปากของผู้ป่วยที่มีประสิทธิภาพจะช่วย ป้องกันการสูดสำลักและป้องกันการเกิดภาวะปอดอักเสบ
วัตถุประสงค์: การศึกษาครั้งนี้เป็นการทบทวนอย่างเป็นระบบ เพื่อศึกษารูปแบบการดูแลสุขภาพช่องปากใน ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองที่มีภาวะกลืนลำบาก ด้วยวิธีการสืบค้นจากฐานข้อมูล MEDLINE ผ่าน Science direct, Clinical key, และ Google scholar ที่ตีพิมพ์ในช่วงปี ค.ศ. 2017-2020 ทั้งหมด 14 เรื่อง ผ่านเกณฑ์คัดเลือกจำนวน 12 ฉบับ เนื่องจากอีก 2 ฉบับมีเพียงบทคัดย่อได้งานวิจัย จำนวน 12 ฉบับ ซึ่งงานวิจัยที่คัดเลือกมาทั้งหมด มีกระบวนการในการศึกษาที่น่าเชื่อถือ ซึ่งสามารถนำผลการสังเคราะห์ไปใช้ในการพัฒนาแนวปฏิบัติในการดูแลสุขภาพช่องปากในผู้ป่วยโรค หลอดเลือดสมองได้
ผลการศึกษา: พบว่ารูปแบบการทำความสะอาดช่องปากมี 5 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ การให้ ความรู้เรื่องการดูแลสุขภาพช่องปากให้แก่ผู้ดูแล, การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์ในการดูแลสุขภาพช่อง ปาก, การจัดท่าผู้ป่วย, วิธีการทำความสะอาดช่องปาก และการประเมินผลลัพธ์ในการดูแล สุขภาพช่องปากในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง
ข้อเสนอแนะ: จากการศึกษาครั้งนี้พบวรรณกรรมที่เกี่ยวข้องจำนวนน้อย โดยแต่ละการศึกษามีวิธีการ ดูแลช่องปากและการวัดผลลัพธ์แตกต่างกัน เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่สามารถเป็นประโยชน์ทางคลินิก มากกว่านี้ ควรทำการศึกษาวิจัยทดลองเชิงเปรียบเทียบในกลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้ป่วยหลอดเลือดสมอง เพื่อให้ได้รูปแบบการดูแลที่มีประสิทธิภาพ
เอกสารอ้างอิง
Virani SS, Alonso A, Benjamin EJ, Bittencourt MS, Callaway CW, Carson AP, et al. Heart disease and stroke statistics—2020 update: a report from the American Heart Association. Circulation. 2020;141(9):e139-e596.
กระทรวงสาธารณสุข. อัตราตายของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองตีบ/อุดตัน[ออนไลน์]. 2563. แหล่งข้อมูล: http://healthkpi.moph.go.th/kpi2/kpilist/view/?id=1430[17 กุมภาพันธ์ 2564]
Rofes L, Muriana D, Palomeras E, Vilardell N, Palomera E, Alvarez‐Berdugo D, et al. Prevalence, risk factors and complications of oropharyngeal dysphagia in stroke patients: a cohort study. Neurogastroenterol Motil. 2018;30(8):e13338.
Lyons M, Smith C, Boaden E, Brady MC, Brocklehurst P, Dickinson H, et al. Oral care after stroke: Where are we now?. Eur Stroke J. 2018; 3(4):347-54.
Mitchell BG, Russo PL, Cheng AC, Stewardson AJ, Rosebrock H, Curtis SJ, et al. Strategies to reduce non-ventilator-associated hospital-acquired pneumonia: A systematic review. Infect Dis Health. 2019; 24(4):229-39.
Oda K, Montayre J, Parsons J, Boyd M. Oral Care in Hospital Settings: Breaking the Vicious Circle of Older Adult Deconditioning. J Gerontol Nurs. 2021; 47(6):7-12.
Prendergast V, Hinkle JL. Oral care assessment tools and interventions after stroke. Stroke. 2018; 49(4):e153-e6.
Lam OL, McGrath C, Li LS, Samaranayake LP. Effectiveness of oral hygiene interventions against oral and oropharyngeal reservoirs of aerobic and facultatively anaerobic gram-negative bacilli. Am J Infect Control. 2012; 40(2):175-82.
ตระการตา แซ่ฉั่ว, มลฤดี คงวัฒนานนท์, ใจรพร บัวทอง, สุพรพรรณ์ กิจบรรยงเลิศ, และวงจันทร์ เพชรพิเชฐเชียร. ประสิทธิผลของโปรแกรมการดูแลช่องปากต่อสุขภาพช่องปากและการเกิดปอดอักเสบจากการเครื่องช่วยหายใจในผู้ป่วยวิกฤติ: การทดลองแบบสุ่มและมีกลุ่มควบคุม. วารสารสภาการพยาบาล. 2561;33(4):46-63.
กนกพรรณ งามมุข, ศศิมา กุสุมา ณ อยุธยา, และวันเพ็ญ ภิญโญภาสกุล. การดูแลความสะอาดช่องปากในผู้ป่วยวิกฤตเพื่อป้องกันการติดเชื้อปอดอักเสบจากการใช้ เครื่องช่วยหายใจ: การพยาบาลตามหลักฐานเชิงประจักษ์. วชิรสารการพยาบาล. 2559;18(2):1-11.
สุภาพร พลายบุญ, วราภรณ์ คงสุวรรณ, และจินตนา ดำาเกลี้ยง. การพัฒนาแนวปฏิบัติการพยาบาลในการดูแลสุขภาพช่องปาก ในผู้ป่วยที่มีภาวะพึ่งพา. วารสารพยาบาลสงขลานครินทร์. 2563;40(3):37-47.
Wu J-H, Liu M, Ho M-H, Chang C-C. Oral Health of Older Adults in Long-Term Care Facilities: Effects of an Oral Care Program. J Oral Health Dent Care. 2017;1(2).
Castillo DH, Smith DJ, Rosenfeld P. Implementing and Evaluating the Impact of a Nurse-Led Oral Care Initiative. J Nurs Care Qual. 2020; 35(2):123-129.
Dai R, Lam OLT, Lo ECM, Li LSW, McGrath C. A randomized clinical trial of oral hygiene care programmes during stroke rehabilitation. J Dent. 2017;61:48-54.
Murray J, Scholten I. An oral hygiene protocol improves oral health for patients in inpatient stroke rehabilitation. Gerodontology. 2018; 35(1):18-24.
Bangee M, Martinez-Garduno C, Brady M, Cadilhac D, Dale S, Hurley M, et al. Oral care practices in stroke: findings from the UK and Australia. BMC Nurs. 2020; 20:169.
สุรศักดิ์ พุฒิวณิชย์, นภาพร พุฒิวณิชย์, และศักรินทร์ สุวรรณเวหา. การทบทวนวรรณกรรมอย่างเป็นระบบ: ประสิทธิผลของการใช้แนวปฏิบัติในการดูดเสมหะในผู้ใหญ่ที่ใส่ท่อช่วยหายใจ. วารสารเครือข่ายวิทยาลัยพยาบาลและการสาธารณสุขภาคใต้. 2560; 27(3):10-8.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2022 วารสารโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.